เมื่อเช้าของวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 59 ที่ผ่านมาที่ศาลได้มีการตัดสินคดีบรัทไร่ส้มของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรนักเล่าข่าวชื่อดังศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 13 ปี 4 เดือนไม่รอลงอาญาปรับเงินบริษัทไร่ส้ม 8 หมื่นบาท โดยสรยุทธ ได้อุทธรณ์สู้คดีต่อวางหลักทรัพย์ประกันตัวสองแสนบาทออกไป
คงไม่ต้องท้าวความเดิม หรือเล่าเกี่ยวกับคดีนี้มากนักหลายท่านคงพอทราบกันดีอยู่แล้วว่าเกิดการจ่ายสินบน โกงเวลากันอย่างไร จนในที่สุดศาลชั้นต้นก็พิจรณาความผิดกันออกมาเป็นที่เรียบร้อยตามข่าว
แต่หากย้อนเวลากับไปราวสักช่วงปี 2548 ซึ่งเป็นช่วงที่ผมเรียนมหาวิทยาลัยอยู่จำได้ว่าผมมีชายที่ชื่อสรยุทธนี่แหละครับที่เป็นหนึ่งในไอดอล หนึ่งในนักข่าวที่เป็นแรงบรรดาลใจให้ผมอยากทำงานข่าว ณ ปีนั้นถ้าผมจำไม่ผิด ปีนั้นเป็นปีที่คุณสรยุทธออกหนังสือกรรมกรข่าวเล่มแรกออกมา
จำได้ว่ารายการเรื่องเล่าเช้านี้ถึงขนาดยกกองมาถ่ายทอดสดที่มหาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ตอนนั้นเป็นช่วงรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ถูกถอดจากช่องเก้า นอกจากจะมีการถ่ายทอดสดแล้วยังมีการจัดงานเปิดตัวหนังสือกรรมกรข่าวอีกด้วย
ผมยังจำได้ว่าคุณสรยุทธเปิดโอกาสให้รุ่นน้องอย่างพวกผมได้ตั้งคำถาม และผมนี่ละหนึ่งในคนที่ถามคุณสรยุทธวันนั้น ซึ่งผมจำได้แม่นว่าผมถามคุณสรยุทธว่าทำไมคุณสรยุทธไม่เชิญคุณทักษิณมาคุยกับคุณสนธิสดๆ ในรายการถึงลูกถึงคน ซึ่งดังมากในเวลานั้น คำตอบของคุณสรยุทธยังคงดังอยู่ในหัวผมตลอดมาคือ คำว่าพี่ทำแบบนั้นไม่ได้ ซึ่งผมยังถามย้ำไปอีกว่าถ้าระดับพี่ทำไม่ได้แล้วใครจะทำครับ ก่อนที่พี่แกจะไม่ตอบผมและให้คนอื่นถามต่อไป
นี่เป็นความทรงจำหนึ่งที่ผมเคยสัมผัส กรรมกรข่าวท่านนี้ ผมได้ข่าวความมั่งคั่งร่ำรวยของชายคนนี้ รายการเล่าข่าวตอนเช้าของเขา กลายเป็นเพียงอ่านพาดหัวข่าวให้เราฟังทุกเช้า ส่วนเนื้อข่าวต้องไปซื่อมาอ่านกันเอาเอง
แมลงวันอาจจะไม่ตอมแมลงวัน แต่เมื่อแมลงวันบางตัวเกิดตายในกองอาจมที่ใครๆก็เห็นกันทั่วไปหมด บางทีมันก็เลี่ยงไม่ได้หรอกครับ คงต้องเข้าไปตอมดูซะนิดนึง
อย่างน้อยก็เป็นบทเรียนให้แมลงวันตัวอื่นๆบ้าง ว่าอย่าทำแบบนี้เพราะเวลาตาย ศพไม่สวย กลิ่นแรงโชยไปไกล
หลังจากข่าวนี้ออกมาทีแรกเราก็ยังเห็นคุณสรยุทธออกมานั่งทำรายการเล่าข่าว แถมเล่าข่าวตัวเองตั้งแต่ไก่ยังไม่โหทั้งที่ปรกติแล้วรายการเรื่องเล่าเนี้นั้นช่วงต้นจะเป็นข่าวเด็กหรือข่าวเบาๆซะมากกว่า ข่าวหนักๆเครียดๆมักมาสายหน่อยซึ่งในวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา คุณสรยุทธอ่านข่าวตัวเองซะเป็นข่าวแรกเลย ซึ่งผมมองว่างานนี้ไม่อ่านก็ไม่ได้เพราะข่าวตัวพี่แกดังมากครับ ทุกช่องเล่นหมดยกเว้นช่อง 3 ต้นสังกัดพี่แกช่องเดียวเท่านั้น
จนแล้วจนรอดกระแสสังคมโดยเฉพาะโลกออนไลน์ก็สะท้อนกลับไปยังคุณสรยุทธและช่อง 3 ว่าคุณสรยุทธควรหยุดจัดรายการไปก่อนจนกว่าคดีจะสิ้นสุด ซึ่งมันเป็นเรื่องคุณธรรมจริยธรรมด้านสื่อสารมวลชนเบื้องต้นเลยละครับ ถ้าคุณโกงค่าโฆษณา โกงเงินหน่วยงานรัฐ เท่ากับโกงประชาชน เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง แล้วประชาชนคนดูจะแน่ใจได้อย่างไรว่า ข่าวที่คุณเอามาพูดอยู่ทุกวันนั้น ไม่ได้เพราะผลประโยชนพูดความ แม้สุดท้ายคุณสรยุทธจะยุติบทบาทหน้าจอทีวีลง แต่ระดับนี้ เชื่อเถอะครับว่าเขายังคงควบคุมทิศทางของรายการข่าวช่อง 3 อยู่ดี เอาเป็นว่าชี้นิ้วสั่งได้เลยละครับผมว่า
จริงๆแล้วบริษัทไร่ส้มเองก็ควรยุติบทบาทตามคุณสรยุทธไปด้วย ไม่ควรยังคงผลิตรายการข่าวอีกต่อไป คือจะไปทำรายการตลก รายการเกมโชว์ก็ทำไปเถอะแต่รายการข่าวไม่ควรทำต่อ เพราะการกระทำขของบริษัทนั้นไม่ถูกต้องเช่นเดียวกับเจ้านายของพวกคุณครับ เพราะจริงๆแล้วหากผมสิ่งผิดปรกติอะไรก็ตาม ทีมงานควรมีการแก้ไขหรือห้ามปรามคุณสรยุทธบ้าง แต่ก็นั้นละครับท่านผู้ชมลูกน้องจะกล้าทำแบบนั้นได้อย่างไรจริงไหมครับ
และเมื่อคุณสรยุทธเป็นถึงศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยกรุงเทพเช่นเดียวกับผม แม้จะห่างกันหลายรุ่นก็ตาม จากคำตัดสินของศาลดังกล่า ผมจึงมีข้อเรียกร้องถึงทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพยึดรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นของคุณสรยุทธคืนด้วยเหตุผลดังนี้
1. ทางมหาวิทยาลัยและทางคณะนิเทศศาสตร์มีศิษย์เก่าและศิษย์ปัจุบันที่มีชื่อเสียงมากมายที่ทำชื่อเสียงให้กับทางมหาวิทยาลัย ดังนั้นแล้วทางมหาวิทยาลัยและทางคณะควรมอบรางวัลดังกล่าวแก่ผู้ทำคุณงามความดีและเป็นแบบอบ่างที่ดีต่อสังคม ไม่ใช่คนทุจริตคอรัปชั่น
2. เนื่องจากการกระทำของคุณสรยุทธศาลมีคำตัดสินแล้ว ซึ่งถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในฐานะสื่อมวลชน ทางมหาลัยซึ่งถือเป็นสถานศึกษาอันมีเกียรติควรแสดงออกว่าเราไม่คนโกงไม่ควรได้รับการยกย่องเชิญชู
3. ทางมหาวิทยาลัยและทางคณะควรเป็นแบบอย่างให้กับมหาวิทยาลัยอื่นๆด้วยว่าคนที่คอรัปชั่นนั้นไม่ใช่คนดีสิ่งที่ทำไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ไม่ควรเอามาเป็นแบบอย่าง
สุดท้ายทางมหาวิทยาลัยจะได้อ่านสิ่งที่ผมเขียนและทำอะไรบางอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่าคนที่ทำผิด ทุจริตคอรัปชั่น ไม่ว่าจะระดับไหนก็ตามไม่ควรมีที่ยืนในสังคมอีกต่อไป
คงไม่ต้องท้าวความเดิม หรือเล่าเกี่ยวกับคดีนี้มากนักหลายท่านคงพอทราบกันดีอยู่แล้วว่าเกิดการจ่ายสินบน โกงเวลากันอย่างไร จนในที่สุดศาลชั้นต้นก็พิจรณาความผิดกันออกมาเป็นที่เรียบร้อยตามข่าว
แต่หากย้อนเวลากับไปราวสักช่วงปี 2548 ซึ่งเป็นช่วงที่ผมเรียนมหาวิทยาลัยอยู่จำได้ว่าผมมีชายที่ชื่อสรยุทธนี่แหละครับที่เป็นหนึ่งในไอดอล หนึ่งในนักข่าวที่เป็นแรงบรรดาลใจให้ผมอยากทำงานข่าว ณ ปีนั้นถ้าผมจำไม่ผิด ปีนั้นเป็นปีที่คุณสรยุทธออกหนังสือกรรมกรข่าวเล่มแรกออกมา
จำได้ว่ารายการเรื่องเล่าเช้านี้ถึงขนาดยกกองมาถ่ายทอดสดที่มหาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ตอนนั้นเป็นช่วงรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ถูกถอดจากช่องเก้า นอกจากจะมีการถ่ายทอดสดแล้วยังมีการจัดงานเปิดตัวหนังสือกรรมกรข่าวอีกด้วย
ผมยังจำได้ว่าคุณสรยุทธเปิดโอกาสให้รุ่นน้องอย่างพวกผมได้ตั้งคำถาม และผมนี่ละหนึ่งในคนที่ถามคุณสรยุทธวันนั้น ซึ่งผมจำได้แม่นว่าผมถามคุณสรยุทธว่าทำไมคุณสรยุทธไม่เชิญคุณทักษิณมาคุยกับคุณสนธิสดๆ ในรายการถึงลูกถึงคน ซึ่งดังมากในเวลานั้น คำตอบของคุณสรยุทธยังคงดังอยู่ในหัวผมตลอดมาคือ คำว่าพี่ทำแบบนั้นไม่ได้ ซึ่งผมยังถามย้ำไปอีกว่าถ้าระดับพี่ทำไม่ได้แล้วใครจะทำครับ ก่อนที่พี่แกจะไม่ตอบผมและให้คนอื่นถามต่อไป
นี่เป็นความทรงจำหนึ่งที่ผมเคยสัมผัส กรรมกรข่าวท่านนี้ ผมได้ข่าวความมั่งคั่งร่ำรวยของชายคนนี้ รายการเล่าข่าวตอนเช้าของเขา กลายเป็นเพียงอ่านพาดหัวข่าวให้เราฟังทุกเช้า ส่วนเนื้อข่าวต้องไปซื่อมาอ่านกันเอาเอง
แมลงวันอาจจะไม่ตอมแมลงวัน แต่เมื่อแมลงวันบางตัวเกิดตายในกองอาจมที่ใครๆก็เห็นกันทั่วไปหมด บางทีมันก็เลี่ยงไม่ได้หรอกครับ คงต้องเข้าไปตอมดูซะนิดนึง
อย่างน้อยก็เป็นบทเรียนให้แมลงวันตัวอื่นๆบ้าง ว่าอย่าทำแบบนี้เพราะเวลาตาย ศพไม่สวย กลิ่นแรงโชยไปไกล
หลังจากข่าวนี้ออกมาทีแรกเราก็ยังเห็นคุณสรยุทธออกมานั่งทำรายการเล่าข่าว แถมเล่าข่าวตัวเองตั้งแต่ไก่ยังไม่โหทั้งที่ปรกติแล้วรายการเรื่องเล่าเนี้นั้นช่วงต้นจะเป็นข่าวเด็กหรือข่าวเบาๆซะมากกว่า ข่าวหนักๆเครียดๆมักมาสายหน่อยซึ่งในวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา คุณสรยุทธอ่านข่าวตัวเองซะเป็นข่าวแรกเลย ซึ่งผมมองว่างานนี้ไม่อ่านก็ไม่ได้เพราะข่าวตัวพี่แกดังมากครับ ทุกช่องเล่นหมดยกเว้นช่อง 3 ต้นสังกัดพี่แกช่องเดียวเท่านั้น
จนแล้วจนรอดกระแสสังคมโดยเฉพาะโลกออนไลน์ก็สะท้อนกลับไปยังคุณสรยุทธและช่อง 3 ว่าคุณสรยุทธควรหยุดจัดรายการไปก่อนจนกว่าคดีจะสิ้นสุด ซึ่งมันเป็นเรื่องคุณธรรมจริยธรรมด้านสื่อสารมวลชนเบื้องต้นเลยละครับ ถ้าคุณโกงค่าโฆษณา โกงเงินหน่วยงานรัฐ เท่ากับโกงประชาชน เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง แล้วประชาชนคนดูจะแน่ใจได้อย่างไรว่า ข่าวที่คุณเอามาพูดอยู่ทุกวันนั้น ไม่ได้เพราะผลประโยชนพูดความ แม้สุดท้ายคุณสรยุทธจะยุติบทบาทหน้าจอทีวีลง แต่ระดับนี้ เชื่อเถอะครับว่าเขายังคงควบคุมทิศทางของรายการข่าวช่อง 3 อยู่ดี เอาเป็นว่าชี้นิ้วสั่งได้เลยละครับผมว่า
จริงๆแล้วบริษัทไร่ส้มเองก็ควรยุติบทบาทตามคุณสรยุทธไปด้วย ไม่ควรยังคงผลิตรายการข่าวอีกต่อไป คือจะไปทำรายการตลก รายการเกมโชว์ก็ทำไปเถอะแต่รายการข่าวไม่ควรทำต่อ เพราะการกระทำขของบริษัทนั้นไม่ถูกต้องเช่นเดียวกับเจ้านายของพวกคุณครับ เพราะจริงๆแล้วหากผมสิ่งผิดปรกติอะไรก็ตาม ทีมงานควรมีการแก้ไขหรือห้ามปรามคุณสรยุทธบ้าง แต่ก็นั้นละครับท่านผู้ชมลูกน้องจะกล้าทำแบบนั้นได้อย่างไรจริงไหมครับ
และเมื่อคุณสรยุทธเป็นถึงศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยกรุงเทพเช่นเดียวกับผม แม้จะห่างกันหลายรุ่นก็ตาม จากคำตัดสินของศาลดังกล่า ผมจึงมีข้อเรียกร้องถึงทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพยึดรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นของคุณสรยุทธคืนด้วยเหตุผลดังนี้
1. ทางมหาวิทยาลัยและทางคณะนิเทศศาสตร์มีศิษย์เก่าและศิษย์ปัจุบันที่มีชื่อเสียงมากมายที่ทำชื่อเสียงให้กับทางมหาวิทยาลัย ดังนั้นแล้วทางมหาวิทยาลัยและทางคณะควรมอบรางวัลดังกล่าวแก่ผู้ทำคุณงามความดีและเป็นแบบอบ่างที่ดีต่อสังคม ไม่ใช่คนทุจริตคอรัปชั่น
2. เนื่องจากการกระทำของคุณสรยุทธศาลมีคำตัดสินแล้ว ซึ่งถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในฐานะสื่อมวลชน ทางมหาลัยซึ่งถือเป็นสถานศึกษาอันมีเกียรติควรแสดงออกว่าเราไม่คนโกงไม่ควรได้รับการยกย่องเชิญชู
3. ทางมหาวิทยาลัยและทางคณะควรเป็นแบบอย่างให้กับมหาวิทยาลัยอื่นๆด้วยว่าคนที่คอรัปชั่นนั้นไม่ใช่คนดีสิ่งที่ทำไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ไม่ควรเอามาเป็นแบบอย่าง
สุดท้ายทางมหาวิทยาลัยจะได้อ่านสิ่งที่ผมเขียนและทำอะไรบางอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่าคนที่ทำผิด ทุจริตคอรัปชั่น ไม่ว่าจะระดับไหนก็ตามไม่ควรมีที่ยืนในสังคมอีกต่อไป
