เริ่มมีข่าวสารและข้อสังเกตเกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิดกรณีเครื่องบินแอร์เอเชียจากสุราบายาตกที่กลางทะเลระหว่างเดินทางไปสิงคโปร์เริ่มทยอยออกมา ....เช่นมีการเผยแพร่คำเตือนในเว็บบอร์ดของจีนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยแอร์เอเชีย แล้วก็มีผู้สันทัดกรณีทำซ้ำมาโยงกับทฤษฎีสมคบคิดก่อนหน้าในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ฯลฯ
ในฐานะประชากรโลกตัวเล็กจ้อยที่ไม่มีปัญญาสู้รบปรบมือหรือป้องกันตนได้เลย...ฟังและอ่านข่าวสารเหล่านี้แล้วก็ได้แต่ภาวนาให้เหตุที่เกิดมาจากอุบัติเหตุจริงๆ ไม่ได้เกิดจากการถูกกำหนดจากน้ำมือของอำนาจใหญ่หนึ่งใด
เมื่อกลางปีกรณี MH370 มาเลเซียสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย โลกแทบทั้งหมดพุ่งเป้าความสงสัยไปที่อเมริกาโดยเฉพาะความเกี่ยวข้องกับฐานทัพที่ดิอาโกกราเซียกลางมหาสมุทรอินเดีย นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคเพิ่งไปตีกอล์ฟกับประธานาธิบดีโอบาม่า ... ภาพเป็นข่าวดูชื่นมื่นผ่อนคลาย แต่ใครจะรู้ล่ะว่าในหัวข้อสนทนาทั้งหมดมีไดอาล็อกว่าด้วย MH370 ที่ลึกลับซับซ้อนรวมอยู่ในนั้นมากน้อยขนาดไหน...แต่ที่แน่ๆ มันควรจะมีหัวข้อสำคัญหัวข้อนี้ในการสนทนาพบปะอย่างแน่นอน
ข่าวสารและบทวิพากษ์วิจารณ์ระหว่างเกิดกรณี MH 370 สูญหาย ทำให้โลกได้รับทราบว่ามันมีเทคโนโลยีการบินสมัยใหม่ มือยักษ์ใหญ่ของโลกมีความสามารถรีโมตบังคับให้เครื่องบินที่กำลังบินอยู่หันทิศทางไปตามที่มหายักษ์อำนาจพิเศษต้องการ แม้กระทั่งการติดต่อสื่อสารก็อาจสามารถบล็อกสัญญาณเหล่านั้นไม่ให้โลกภายนอกรับรู้
ได้ฟังเรื่องเหล่านี้แล้วอดนึกถึงภาพยนตร์ Matrix ไม่ได้ ภายใต้โลกที่ดำเนินไปอย่างปกติ ที่แท้มีอำนาจบงการระบบอยู่เบื้องหลัง เป็นอำนาจเหนือ ที่สามารถบังคับชะตากรรมของสรรพสิ่งในระบบนั้น
สมมติหากมือมหายักษ์พุ่งเป้าที่เครื่องบินโดยสารชุดหนึ่ง รอคอยจังหวะที่เครื่องลำใดลำหนึ่งมีเหตุต้องเปลี่ยนเส้นทางเล็กน้อยเพื่อหลบเลี่ยงสภาพอากาศย่ำแย่.... แทนที่กัปตันของเครื่องลำนั้นจะสามารถบังคับวิถีการบินตามปกติ กลับทำไม่ได้ในวินาทีสำคัญ!!! เพราะมีรีโมตจากมือมหายักษ์บังคับให้เครื่องวิ่งเข้าสู่ศูนย์กลางของสภาพอากาศไม่ปกติ.. แล้วก็บังคับให้เสียการทรงตัว ???
ขอย้ำว่านี่เป็นแค่เรื่องจินตนาการ ไม่ใช่เรื่องจริง !
แต่เป็นการจินตนาการจากความรู้สึกว่าโลกนี้มันไม่ปลอดภัย เป็นความรู้สึกหวาดระแวงของประชากรเล็กจ้อยอณูหนึ่งภายใต้ระบบ Matrix อันใหญ่โต
มาเลเซียเป็นประเทศที่มีพัฒนาการเติบโตเร็ว เป็นประเทศที่กำหนดตำแหน่งของตนเองไม่เอนไปข้างมหาอำนาจครอบโลก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่เชื่อทฤษฎีครอบโลกเสรีนิยมแบบ fundamental เช่นเมื่อครั้งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง เขาปิดประตูบ้านไม่สนกติกาห่าเหวของโลกตะวันตก ไม่สนแนวทางเวิลด์แบงก์ ไอเอ็มเอฟ..เขาเลยรอดมาได้ ต่อมามหาอำนาจหนุนหลังอันวาร์ อิบราฮิม ให้สู้กับอัมโนแต่ขั้วอำนาจเดิมก็ยังประคองตนมาได้...แต่นั่นล่ะ ยิ่งยาวนานดุลอำนาจของเหล่าภูมิบุตรา มุสลิมมาเลย์และพันธมิตรอัมโนก็คลอนแคลนถดถอยลง...การเลือกตั้งล่าสุดที่ฝ่ายค้านขยับพรวดขึ้นน่าสนใจมาก
น่าสนใจมากว่า ห้วงเวลานี้ เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของการเมืองมาเลเซียที่จะนำพาประเทศนี้หันทิศทางไปยังขั้วความคิดโลกขั้วใด !!? และความล้มเหลวของขั้วอำนาจปัจจุบันย่อมมีผลต่อการเมืองด้วย
มาเลเซียมีวิสัยทัศน์จะเป็นศูนย์กลางบินโลว์คอสต์และฮับภูมิภาค สนามบิน KLIA2 ที่เพิ่งเปิดใช้ ลงทุนสร้างมาก็เพื่อรองรับวิสัยทัศน์นี้โดยมี แอร์เอเชีย เบอร์ฮัด เป็นตัวจักรขับเคลื่อนหลัก ต่อไปการเดินทางราคาถูกจะต้องผ่านสนามบินแห่งนี้ จากเชียงใหม่ อุดร ขอนแก่น หาดใหญ่ หากจะไปต่อที่ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดีย ด้วยตั๋วโดยสารราคา "ถูกกว่า" ต้องมาขึ้นที่ KLIA2 ที่นั่นมีโรงแรมสีแดง TUNE ของแอร์เอเชียตระหง่านอยู่ด้านหน้าสนามบินเลยทีเดียว
มาเลเซียแอร์ไลน์พังพาบไปแล้วในทางปฏิบัติการเข้ามาถือหุ้นของรัฐบาลเพื่อพยุงร่างที่ป่วยหนักไว้เท่านั้น แต่เศรษฐกิจใหญ่ว่าด้วยการคมนาคมขนส่งของมาเลเซียที่ใกล้ชิดแนบแน่นกับขั้วอำนาจรัฐยังมีกลจักรสำคัญที่ขับเคลื่อนอยู่นั่นคือแอร์เอเชีย ซึ่งโตเร็วมาก ไปมีบริษัทลูกมากมายในภูมิภาคพร้อมกับสร้างสายสัมพันธ์กับทุนชาติของแต่ละชาติในภูมิภาคเข้าด้วยกัน KLIA2 เป็นคู่แข่งสำคัญของทั้งสุวรรณภูมิและแน่นอนสนามบินชางงีของสิงคโปร์ที่เป็นมหาอำนาจเดิมของภูมิภาค สนามแข่งขันว่าด้วยการบิน สิงคโปร์ซึ่งที่แท้ก็คือตัวแทนของทุนตะวันตกและความคิดแบบตะวันตกกำลังเผชิญกับคู่แข่งรายใหม่
ไม่อยากคิด ไม่อยากเชื่อ แต่ความรู้สึกลึกๆ เกิดอดจินตนาการในด้านร้ายไม่ได้
ขอย้ำอีกครั้งที่บรรทัดสุดท้ายนี้...นี่เป็นแค่ความเห็นด้านลบคิดขึ้นมาเอง มันเป็นเป็นแค่จินตนาการไม่ใช่เรื่องจริงและภาวนาให้เหตุร้ายที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุจริง ไม่ใช่เรื่องที่ถูกกำหนดตามที่เริ่มมีข้อสงสัยแพร่หลายขึ้น.
ในฐานะประชากรโลกตัวเล็กจ้อยที่ไม่มีปัญญาสู้รบปรบมือหรือป้องกันตนได้เลย...ฟังและอ่านข่าวสารเหล่านี้แล้วก็ได้แต่ภาวนาให้เหตุที่เกิดมาจากอุบัติเหตุจริงๆ ไม่ได้เกิดจากการถูกกำหนดจากน้ำมือของอำนาจใหญ่หนึ่งใด
เมื่อกลางปีกรณี MH370 มาเลเซียสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย โลกแทบทั้งหมดพุ่งเป้าความสงสัยไปที่อเมริกาโดยเฉพาะความเกี่ยวข้องกับฐานทัพที่ดิอาโกกราเซียกลางมหาสมุทรอินเดีย นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคเพิ่งไปตีกอล์ฟกับประธานาธิบดีโอบาม่า ... ภาพเป็นข่าวดูชื่นมื่นผ่อนคลาย แต่ใครจะรู้ล่ะว่าในหัวข้อสนทนาทั้งหมดมีไดอาล็อกว่าด้วย MH370 ที่ลึกลับซับซ้อนรวมอยู่ในนั้นมากน้อยขนาดไหน...แต่ที่แน่ๆ มันควรจะมีหัวข้อสำคัญหัวข้อนี้ในการสนทนาพบปะอย่างแน่นอน
ข่าวสารและบทวิพากษ์วิจารณ์ระหว่างเกิดกรณี MH 370 สูญหาย ทำให้โลกได้รับทราบว่ามันมีเทคโนโลยีการบินสมัยใหม่ มือยักษ์ใหญ่ของโลกมีความสามารถรีโมตบังคับให้เครื่องบินที่กำลังบินอยู่หันทิศทางไปตามที่มหายักษ์อำนาจพิเศษต้องการ แม้กระทั่งการติดต่อสื่อสารก็อาจสามารถบล็อกสัญญาณเหล่านั้นไม่ให้โลกภายนอกรับรู้
ได้ฟังเรื่องเหล่านี้แล้วอดนึกถึงภาพยนตร์ Matrix ไม่ได้ ภายใต้โลกที่ดำเนินไปอย่างปกติ ที่แท้มีอำนาจบงการระบบอยู่เบื้องหลัง เป็นอำนาจเหนือ ที่สามารถบังคับชะตากรรมของสรรพสิ่งในระบบนั้น
สมมติหากมือมหายักษ์พุ่งเป้าที่เครื่องบินโดยสารชุดหนึ่ง รอคอยจังหวะที่เครื่องลำใดลำหนึ่งมีเหตุต้องเปลี่ยนเส้นทางเล็กน้อยเพื่อหลบเลี่ยงสภาพอากาศย่ำแย่.... แทนที่กัปตันของเครื่องลำนั้นจะสามารถบังคับวิถีการบินตามปกติ กลับทำไม่ได้ในวินาทีสำคัญ!!! เพราะมีรีโมตจากมือมหายักษ์บังคับให้เครื่องวิ่งเข้าสู่ศูนย์กลางของสภาพอากาศไม่ปกติ.. แล้วก็บังคับให้เสียการทรงตัว ???
ขอย้ำว่านี่เป็นแค่เรื่องจินตนาการ ไม่ใช่เรื่องจริง !
แต่เป็นการจินตนาการจากความรู้สึกว่าโลกนี้มันไม่ปลอดภัย เป็นความรู้สึกหวาดระแวงของประชากรเล็กจ้อยอณูหนึ่งภายใต้ระบบ Matrix อันใหญ่โต
มาเลเซียเป็นประเทศที่มีพัฒนาการเติบโตเร็ว เป็นประเทศที่กำหนดตำแหน่งของตนเองไม่เอนไปข้างมหาอำนาจครอบโลก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่เชื่อทฤษฎีครอบโลกเสรีนิยมแบบ fundamental เช่นเมื่อครั้งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง เขาปิดประตูบ้านไม่สนกติกาห่าเหวของโลกตะวันตก ไม่สนแนวทางเวิลด์แบงก์ ไอเอ็มเอฟ..เขาเลยรอดมาได้ ต่อมามหาอำนาจหนุนหลังอันวาร์ อิบราฮิม ให้สู้กับอัมโนแต่ขั้วอำนาจเดิมก็ยังประคองตนมาได้...แต่นั่นล่ะ ยิ่งยาวนานดุลอำนาจของเหล่าภูมิบุตรา มุสลิมมาเลย์และพันธมิตรอัมโนก็คลอนแคลนถดถอยลง...การเลือกตั้งล่าสุดที่ฝ่ายค้านขยับพรวดขึ้นน่าสนใจมาก
น่าสนใจมากว่า ห้วงเวลานี้ เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของการเมืองมาเลเซียที่จะนำพาประเทศนี้หันทิศทางไปยังขั้วความคิดโลกขั้วใด !!? และความล้มเหลวของขั้วอำนาจปัจจุบันย่อมมีผลต่อการเมืองด้วย
มาเลเซียมีวิสัยทัศน์จะเป็นศูนย์กลางบินโลว์คอสต์และฮับภูมิภาค สนามบิน KLIA2 ที่เพิ่งเปิดใช้ ลงทุนสร้างมาก็เพื่อรองรับวิสัยทัศน์นี้โดยมี แอร์เอเชีย เบอร์ฮัด เป็นตัวจักรขับเคลื่อนหลัก ต่อไปการเดินทางราคาถูกจะต้องผ่านสนามบินแห่งนี้ จากเชียงใหม่ อุดร ขอนแก่น หาดใหญ่ หากจะไปต่อที่ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดีย ด้วยตั๋วโดยสารราคา "ถูกกว่า" ต้องมาขึ้นที่ KLIA2 ที่นั่นมีโรงแรมสีแดง TUNE ของแอร์เอเชียตระหง่านอยู่ด้านหน้าสนามบินเลยทีเดียว
มาเลเซียแอร์ไลน์พังพาบไปแล้วในทางปฏิบัติการเข้ามาถือหุ้นของรัฐบาลเพื่อพยุงร่างที่ป่วยหนักไว้เท่านั้น แต่เศรษฐกิจใหญ่ว่าด้วยการคมนาคมขนส่งของมาเลเซียที่ใกล้ชิดแนบแน่นกับขั้วอำนาจรัฐยังมีกลจักรสำคัญที่ขับเคลื่อนอยู่นั่นคือแอร์เอเชีย ซึ่งโตเร็วมาก ไปมีบริษัทลูกมากมายในภูมิภาคพร้อมกับสร้างสายสัมพันธ์กับทุนชาติของแต่ละชาติในภูมิภาคเข้าด้วยกัน KLIA2 เป็นคู่แข่งสำคัญของทั้งสุวรรณภูมิและแน่นอนสนามบินชางงีของสิงคโปร์ที่เป็นมหาอำนาจเดิมของภูมิภาค สนามแข่งขันว่าด้วยการบิน สิงคโปร์ซึ่งที่แท้ก็คือตัวแทนของทุนตะวันตกและความคิดแบบตะวันตกกำลังเผชิญกับคู่แข่งรายใหม่
ไม่อยากคิด ไม่อยากเชื่อ แต่ความรู้สึกลึกๆ เกิดอดจินตนาการในด้านร้ายไม่ได้
ขอย้ำอีกครั้งที่บรรทัดสุดท้ายนี้...นี่เป็นแค่ความเห็นด้านลบคิดขึ้นมาเอง มันเป็นเป็นแค่จินตนาการไม่ใช่เรื่องจริงและภาวนาให้เหตุร้ายที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุจริง ไม่ใช่เรื่องที่ถูกกำหนดตามที่เริ่มมีข้อสงสัยแพร่หลายขึ้น.
