เอเอฟพี - มาเลเซียถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในวันนี้ (25 มี.ค.) หลังจากออกมาประกาศว่า เครื่องบินโดยสารที่นานาชาติระดมกำลังออกค้นหาได้ตกหายไปในทะเล ทั้งที่ยังไม่มีการตรวจพบซากเครื่องบินแม้แต้ชิ้นเดียว
เมื่อดึกคืนวานนี้ (24) นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซีย ออกมาแถลงด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า เที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ซึ่งอันตรธานหายไปนานกว่า 2 สัปดาห์พร้อมลูกเรือและผู้โดยสารรวม 239 ชีวิต “ตกลงไปทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย”
ทั้งนี้ เขาอ้างถึงข้อมูลจากดาวเทียมชิ้นใหม่ และระบุว่าได้เปิดเผยข้อมูลนี้ตามที่เคยให้สัญญาว่าจะ “ปฏิบัติต่อครอบครัวของผู้โดยสารอย่างตรงไปตรงมา และด้วยความความเคารพ ซึ่งเป็นหลักการ 2 ข้อที่เรายึดมั่นในการตรวจสอบหาความจริงเกี่ยวกับเที่ยวบินนี้”
นับตั้งแต่ที่เครื่องบินลำนี้อันตรธานหายไปจากจอเรดาร์เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ขณะเดินทางออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ มุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่ง ทางการมาเลเซียเองก็ถูกกล่าวตำหนิอย่างไม่หยุดไม่หย่อนว่า มีพฤติกรรมปิดบังและให้ข้อมูลที่ขัดแย้ง
การแถลงข่าวของนาจิบเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมากลับยิ่งทำให้สถานการณ์ดูน่าคลางแคลงใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยบรรดาญาติพี่น้องของผู้โดยสารชาวจีนที่กรุงปักกิ่ง ได้ออกมาแสดงท่าทีโกรธแค้น พร้อมทั้งกล่าวประณามทางการมาเลเซียว่าเป็น “ฆาตกร”
ทางฝ่าย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมาเรียกร้องให้บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในกรุงกัวลาลัมเปอร์ส่งข้อมูลจากดาวเทียมเมื่อล่าสุด ที่ทำให้มาเลเซียปักใจเชื่อว่าเครื่องบินโดยสารลำนี้ตกลงไปในมหาสมุทรอินเดีย และไม่ใครรอดชีวิต
ทางด้านสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ก็ถูกโจมตี หลังส่งข้อความเอสเอ็มเอสถึงญาติใกล้ชิดของผู้โดยสารบนเที่ยวบิน MH370 เพื่อแจ้งว่าเครื่องบินตกลงทะเล และไม่มีผู้รอดชีวิต
สายการบินเจ้านี้เปิดเผยว่า ครอบครัวของผู้โดยสารส่วนใหญ่ได้รับโทรศัพท์แจ้งล่วงหน้า ก่อนที่นายกรัฐมนตรี นาจิบ จะออกมาแถลงข่าวแล้ว โดยทางสายการบินใช้วิธีการส่งเอสเอ็มเอสเป็นเพียงช่องทางเสริมเท่านั้น
บริดเจ็ต เวลช์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองมาเลเซีย จากมหาวิทยาลัยการจัดการสิงคโปร์กล่าวว่า ทางการมาเลเซียมีเจตนาที่ดี แต่ควรปรับปรุงวิธีการแจ้งข่าว
เธอกล่าวกับเอเอฟพีว่า “(มาเลเซีย) ควรหันมาทบทวนเรื่องการใช้เอสเอ็มเอสเป็นช่องทางในการสื่อสาร แม้จะใช้เป็นเพียงเครื่องมือเสริมเท่านั้น ลองนึกดูว่า พวกเขาอาจหวนนึกถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทุกครั้งที่เห็นโทรศัพท์มือถือ ”
พอล แยพ อาจารย์ภาควิชาการบินที่สถาบันเทมาเซ็กโพลีเทคนิค ในสิงคโปร์ ชี้ว่านาจิบควรเลื่อนการแถลงข่าวออกไปจนกว่าจะมีการยืนยันว่า พบเศษซากของเครื่องบินลำที่หายไปแล้วจริงๆ
นอกจากนี้ ยังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์อย่างล้นหลาม พร้อมกับการโพสต์ข้อความแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้โดยสารบนเที่ยวบิน MH370 ซึ่ง 2 ใน 3 ของผู้โดยสารเป็นชาวจีน
“รัฐบาลมาเลเซียออกมาประกาศว่าเที่ยวบินนี้ตกลงไปในมหาสมุทรอินเดีย ทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานอันเป็นรูปธรรม” ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตคนหนึ่งแสดงความคิดเห็น
โฆษกหญิงของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ออกมาปฏิเสธว่า การส่งเอสเอ็มเอสไม่ได้สะท้อนให้เห็นว่า สายการบินไม่ห่วงใยความรู้สึกของญาติพี่น้องผู้โดยสาร พร้อมระบุว่า ได้จัดที่ปรึกษาไว้คอยให้ความช่วยเหลือบรรดาญาติซึ่งไปร่วมตัวกันที่โรงแรมในกรุงกัวลาลัมเปอร์และกรุงปักกิ่งแล้ว
รัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งจัดการแถลงสรุปข่าวประจำวันได้เน้นย้ำว่า ได้แจ้งข้อมูลให้ทราบอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว
เจอรรี โซจัตมัน ที่ปรึกษาด้านการบินอิสระในกรุงจาการ์ตากล่าวว่า การออกมาประกาศของนาจิบนั้นอาจทำให้ผู้คนรู้สึกเศร้าสลด แต่ในที่สุดแล้วเราก็ต้องยอมรับความเป็นจริง