xs
xsm
sm
md
lg

No Service … ไม่มีสัญญาณ แต่มีชีวิต

เผยแพร่:   โดย: กิตตินันท์ นาคทอง

ภาพจากเว็บไซต์ compusiri.com
สิ่งหนึ่งที่คนที่ทำข่าว และมอนิเตอร์ข่าวในโซเชียลมีเดียอย่างผมมีปัญหาเป็นประจำ คือ เวลาออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน นอกออฟฟิศ เช่น ลางานไปทำธุระ พักผ่อนในต่างจังหวัด หรือออฟฟิศส่งไปทำข่าวต่างประเทศ หากไม่ได้ไปแบบเช้าไปเย็นกลับ มักจะต้องเกิดเรื่อง “ตกข่าว” อยู่เป็นประจำ

เมื่อปีที่แล้ว ที่ออฟฟิศส่งผมไปร่วมอบรมชุมนุมนักข่าว ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเช้าวันศุกร์ถึงบ่ายวันอาทิตย์ ปรากฏว่าวันเสาร์มีประเด็นร้อน คือ “คลิปถั่งเช่า” ที่มีเสียงสนทนาระหว่างคนแดนไกล กับรัฐมนตรีช่วยกลาโหมในยุคนั้น ผลก็คือวันจันทร์หลังเลิกกงานต้องไปฟังคลิปตามระเบียบ

หรือเอาเฉพาะปีนี้ ที่ออฟฟิศส่งผมไปทำข่าวที่ประเทศเวียดนาม 4 วัน 3 คืน ออกเดินทางเช้ามืดวันพุธ กลับคืนวันเสาร์ ปรากฏว่าระหว่างนั่งเช็คโซเชียลมีเดียในช่วงสั้นๆ กระแสเด็กหญิงคนหนึ่งอัดคลิป “เหนียวไก่หาย” เป็นที่ฮือฮามาก ทุกวันนี้ยังไม่ได้ดูคลิปเหนียวไก่ที่ว่านั้นเลย มีแต่เพื่อนฝูงเลียนเสียงทองแดงแบบน้องไลล่ากันอย่างเฮอา

แม้การเดินทางไปเวียดนามจะเปิดบริการข้ามแดนอัตโนมัติ หรือ อินเตอร์เนชั่นแนล โรมมิ่ง แต่ผมเลือกที่จะปิดการเชื่อมต่อข้อมูลมือถือ เพราะค่าบริการแพงมาก แต่ที่โรงแรมที่พักและร้านอาหารส่วนใหญ่มีอินเตอร์เน็ตไว-ไฟให้บริการ แทบจะเรียกได้ว่าดีกว่าประเทศไทยเสียอีก

ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมลางานผสมวันหยุด เพื่อไปมอบสิ่งของที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) บ้านแม่น้ำน้อย อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ร่วมกับเฟซบุ๊กเพจ “รัฐศาสตร์ ม.ร. FC” ซึ่งเป็นการรวมตัวกันโดยอิสระของนักศึกษา และศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ปรากฏว่าที่นั่นหนักกว่าครั้งที่ผ่านมา คือ โทรศัพท์มือถือไม่มีสัญญาณ ขึ้นว่า No Service หรือมีสัญญาณแต่เข้าอินเตอร์เน็ต 3 จี ไม่ได้ ใช้ได้แค่โทรออกกับรับสายเท่านั้น และยิ่งยุคนี้ผมไม่ค่อยได้ใช้โทรศัพท์โทรหาใครเป็นพิเศษด้วย ผลก็คือความตั้งใจที่จะอัปโหลดรูปเป็นระยะๆ หรือเช็กข่าวในโซเชียลมีเดียเป็นอันว่าจบสนิท

ที่สำคัญคือ ในเมื่อสัญญาณโทรศัพท์มือถืออ่อน การทำงานของสมาร์ทโฟนเพื่อจับสัญญาณจะมากขึ้นเป็นพิเศษ ผลก็คือเครื่องมือถือร้อนมาก แบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว จึงตัดสินใจเข้าสู่โหมดการบิน (Flight Mode) คือ ไม่สามารถโทรออก รับสาย เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ เครื่องจึงเย็นลง

แม้จะกลายเป็นคนที่เหมือนตัวเองกำลังติดเกาะ ติดต่อโลกภายนอกไม่ได้ แต่ชีวิตการเดินทางของผมกลับรู้สึกว่าได้ลิ้มรสความเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะช่วงเวลาสังคมแบบก้มหน้าที่เสียไป ผมได้มีช่วงเวลาดีๆ ในการอยู่ร่วมกันมากขึ้น มีเวลาปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ พี่น้องที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนมากขึ้น

ในวันนั้นผมพักที่อาคารเรียนของโรงเรียน ร่วมกับเพื่อนๆ ให้ความรู้สึกแปลกไปอีกอย่าง แม้จะไม่ได้สบายแต่ได้ความเย็นแบบธรรมชาติจากอุณหภูมิที่ต่ำลง ช่วงเช้ามืดเหลือ 18 องศาเซลเซียส เวลาอาบน้ำก็เป็นน้ำในแม่น้ำที่สูบขึ้นมาแล้วนำมากรองด้วยระบบประปาภูเขา ซึ่งแม้จะสะอาดน้อยกว่าน้ำประปาในเมืองแต่ก็พออาบได้

ตื่นเช้าขึ้นมาผมออกไปเดินเล่นกับเพื่อนที่สะพานข้ามแม่น้ำน้อย หรือแม่น้ำแควน้อย ซึ่งอยู่สูงกว่าพื้นดินราวๆ 20 เมตร สภาพหมอกจัดราวกับเมืองเหนือ ไม่น่าเชื่อว่าบริเวณจุดนี้จะมีสัญญาณมือถือ 3 จีขึ้นมา 3 ขีด เราใช้เวลาบนนั้นเก็บภาพกันบนสะพาน ทำให้สถานที่ซึ่งมันเป็นเพียงสะพานข้ามแม่น้ำธรรมดาๆ กลับมีความทรงจำดีๆ มากขึ้น

หลังกลับจากทริปกาญจนบุรี ปรากฏว่าตกข่าวใหญ่ก็คือ การจับกุมนายตำรวจระดับสูงในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ข้อหาหมิ่นเบื้องสูง เรียกรับผลประโยชน์ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน ตามที่ทุกท่านได้ทราบข่าวแล้ว ผมจึงต้องกลับมาทำการบ้านเรื่องนี้ไปพร้อมๆ กับการเคลียร์งานที่คั่งค้าง

เรื่องตกข่าวที่ประสบด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร เป็นเพียงแค่การรู้ตามสัญชาตญาณของคนทำข่าว ที่ต้องรู้ทุกเรื่อง บางเรื่องเกี่ยวข้องกับสายงานตัวเอง แต่จะหนักกว่านี้ถ้าเป็นการตกข่าวในขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหากวันใดเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ก็ต้องโดนตำหนิจากผู้บังคับบัญชาว่าปล่อยให้ข่าวนี้หลุดออกไปได้อย่างไร

อันที่จริงรีสอร์ท หรือที่พักในประเทศไทย หลายแห่งไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือเข้าถึง ไม่ใช่เพราะความตั้งใจของเจ้าของรีสอร์ท แต่เป็นเพราะเครือข่ายมือถือไม่สามารถติดตั้งเสาส่งสัญญาณได้เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกล เป็นมุมอับสัญญาณ หรือไม่คุ้มกับการติดตั้ง นอกเสียจากหากพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมถึงจะมีการพัฒนาสัญญาณ

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มองว่า การไม่มีสัญญาณมือถือเป็นผลเสีย เพราะติดต่อกับโลกภายนอกไม่ได้ เกิดเป็นอะไรไปจะทำยังไง แต่เอาเข้าจริงกลายเป็นว่าการที่มือถือไม่มีสัญญาณ ก็เท่ากับว่าไม่มีอะไรเล่นแค่นั้น เพราะในที่ห่างไกลก็ยังมีกลไกในการติดต่อสื่อสาร ภัยบางอย่างเช่นพายุเข้า โทรศัพท์มือถือใช้ไม่ได้ ต้องติดต่อผ่านวิทยุสื่อสารอย่างเดียว

ในช่วงที่ผ่านมา ทีวีเป็นสื่อที่บริโภคกันทุกเพศ ทุกวัย ทุกบ้านมีทีวีให้ดู ส่วนใหญ่เป็นรายการบันเทิง นอกจากจะก่อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นพฤติกรรมบริโภคนิยม หล่อหลอมให้ตัวเองเป็นใหญ่ เช่น อยากสวย อยากหล่อเหมือนดารา อยากกินอาหารดีๆ อย่างในทีวี หรืออยากซื้อสินค้ามาใช้ตามโฆษณา ทั้งที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็น

มาถึงช่วงไม่กี่ปีมานี้ สังคมก้มหน้าอย่างเช่นการบริโภคเนื้อหาในโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โซเชียลมีเดียกลายเป็นพื้นที่แสดงออกในสิ่งที่เป็นอัตลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น อย่างเช่น การโพสต์ภาพตัวเอง การถ่ายรูปสถานที่ การสนทนาระหว่างบุคคลแบบไม่เห็นหน้า หรือการระบายความในใจผ่านสเตตัส เป็นต้น

ผมไม่อยากจะตำหนิการบริโภคทีวีและสมาร์ทโฟนมากนัก เพราะเข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว แต่เพียงแค่อยากจะบอกเล่าความรู้สึกหลังตัดขาดจากโลกภายนอก ในพื้นที่ที่ไม่มีทีวีให้ดู ไม่มีสัญญาณมือถือให้เล่น แรกๆ อาจจะหงุดหงิดที่ติดต่อใครไม่ได้ไปบ้าง แต่สักพักทำให้เรารู้สึกใจเย็นลง ไม่ดิ้นรนกับความอยากรู้อยากเห็น

นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่เสียไปเมื่อไม่มีสัญญาณมือถือ เราก็มีเวลาอยู่กับตัวเอง หรือหากมากับเพื่อนก็ใช้ชีวิตร่วมกัน ทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น แต่ก็ใช่ว่ามือถือจะไร้ประโยชน์เสียเลยทีเดียว มันยังสามารถถ่ายรูปได้ อัดวีดีโอได้ ฟังเพลงที่มีอยู่ในเครื่อง (แบบออฟไลน์) ได้ แม้กระทั่งใช้เป็นไฟฉาย หรือสำหรับไอโฟนยังมีแอปเข็มทิศให้ใช้ได้อีกด้วย

เมื่อกลับเข้าสู่ชีวิตความวุ่นวายในเมืองหลวงอีกครั้ง ผมกลับมีความรู้สึกอยู่อย่างหนึ่ง คือ อยากจะกลับไปอยู่ในบรรยากาศที่ไม่มีสัญญาณมือถือ มีแต่ธรรมชาติอีก เพราะสิ่งที่พบเห็นอยู่ตรงหน้ามีทั้งความวุ่นวาย ความเหนื่อยหน่าย ความซ้ำซากจำเจ และความอึดอัดอยู่ตรงหน้า ตามวิถีชีวิตประจำวันของมนุษย์เงินเดือน

ถ้าอยากจะหาความสงบแบบนั้นบ้าง ผมเห็นรีสอร์ทบางแห่งลูกค้ามักจะคอมเพลนในอินเตอร์เน็ตว่า ไม่มีสัญญาณมือถือ แทนที่เราจะตัดออกจากตัวเลือก ก็พลิกมุมคิดมาเป็นตัวเลือก หรือหากมีสัญญาณมือถือเข้าถึง ก็ใช้วิธีเข้าสู่โหมดการบิน ตั้งค่าเลือกรับสายเฉพาะที่จำเป็น หรือจะใช้งานเฉพาะอัปโหลดรูปอย่างเดียวก็ได้

สิ่งที่แนะนำกันไป ก็เพื่อให้ความหมายของการพักผ่อนในชีวิต คือการพักผ่อนจริงๆ ไม่ใช่การพักผ่อนเพียงแค่ลาหยุดจากที่ทำงาน แต่ยังตัดขาดความวุ่นวาย จากการแจ้งเตือนเฟซบุ๊ก หรือเสียงดังจากไลน์บนสมาร์ทโฟนไม่ได้ ต่อให้คุณเดินทางไปไหนไกลๆ หรือจ่ายค่าห้องพักสุดหรู บรรยากาศดีแค่ไหน ถ้าเอาความวุ่นวายมาด้วยก็คงไม่มีความหมาย.
กำลังโหลดความคิดเห็น