ในช่วง เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ นี้ เป็นช่วงวันหยุดวันจักรี ซึ่งเป็นวันที่ระลึกที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีและทรงสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของไทยมาจนถึงปัจจุบันนี้
จึงถือเอาเป็นวันที่ระลึกซึ่งปวงชนชาวไทยล้วนถือเป็นโอกาสในการระลึกบูชาคุณงามความดีที่ราชวงศ์จักรีมีต่อประเทศไทย
วันจักรีนี้ค่อนข้างใกล้กับช่วงวันหยุดยาวมหาสงกรานต์ หลายคนจึงถือโอกาสหยุดยาวเกลื่อนๆ กลืนกันไปด้วยหรืออาจจะมองว่า ช่วงวันหยุดต้นเดือนนี้เป็นการหยุดย่อยรอวันสงกรานต์กิจการงานต่างๆ ในช่วงนี้ก็ค่อนข้างชะลอตัวลง เตรียมเข้าสู่เทศกาลแห่งความสุขของชาวไทย
หากในปีนี้ สถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานมาร่วมครึ่งปี เริ่มจากไตรมาสท้ายของปีที่แล้ว ก็เหมือนจะเพิ่มอุณหภูมิขึ้นในช่วงนี้
เหมือนมีการอุ่นเครื่องกันตั้งแต่ในช่วงวันหยุดวันจักรี เพื่อไปเร่งเครื่องให้ร้อนจัดกันหลังสงกรานต์
มวลชนทั้งสองฝ่ายเริ่มประกาศแง้มแผนเผด็จศึกของฝ่ายตนเองออกมา
โดยทางเวที กปปส.ของคุณสุเทพ นั้น ได้ประกาศนับถอยหลังการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ที่จะเริ่มขึ้นทันที ณ วันที่ศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช.มีการวินิจฉัยชี้ชะตารัฐบาลนายกฯ ปู ซึ่งยังถืออ้างความชอบธรรมแต่เฉพาะรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมลุก ไม่ยอมออกจากเก้าอี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเว้นแต่มี “ข้อกฎหมาย” ที่เปลี่ยนแปลงไป
ซึ่งก็คาดหมายกันว่า “ข้อกฎหมาย” นี้จะเปลี่ยนแปลงหลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หรือคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่จะชี้ว่า นายกรัฐมนตรีไม่อาจอยู่ในตำแหน่งหรือใช้อำนาจใดๆ ได้อีกต่อไป
ในทางตรงกันข้าม ฝ่าย นปช.หรือบรรดาพลพรรคเสื้อแดงก็ระดมพลกันแบบ “เฮือกสุดท้าย” ซึ่งเห็นได้ว่าเหลือมวลชนแบบนับได้อย่างมากก็ไม่เกินสองแสนคน (อ้างอิงจากตัวเลขที่ นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธาน นปช.ประกาศเอง แต่ทางตำรวจประเมินว่าไม่ถึงแสนคนด้วยซ้ำ) แต่ที่เหลือนั้น ก็มีแต่สายฮาร์ดคอร์ล้วนๆ และมีการเปิดเผย “กองกำลัง” ของฝ่ายเสื้อแดงอย่างชัดเจนแล้ว
ระหว่างนี้ก็มีการวางระเบิดซีโฟร์บ้าง หรือลอบยิงแบบสไนเปอร์ใส่การ์ดฝ่าย กปปส. บ้าง เป็นการประกาศศักดาว่ารอบนี้เอาจริง มีการโพสต์ขู่บอกไว้ล่วงหน้าในเฟซบุ๊กอย่างไม่เกรงกลัวกบิลบ้านกบิลเมือง เช่นที่มีคนเสื้อแดงมาขู่ล่วงหน้าว่าจะมีการลอบยิง กปปส.ที่บริเวณทางด่วน ในวันที่เดินทางไปชักชวนข้าราชการให้ทิ้งระบอบทักษิณที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งเหตุการณ์ก็ได้เกิดขึ้นจริง
ฝ่ายเสื้อแดงพยายามขู่ว่า ถ้ามีการ “เล่นงาน” ผ่านกลไกทางกฎหมายของศาล และองค์กรอิสระ คราวนี้ฝ่ายเสื้อแดงจะเอาจริงแล้วนะ
กระบวนการทางกฎหมายที่ฝ่ายเสื้อแดงพยายามบอกว่า “อีกฝ่าย” พยายามปั้นเกมขึ้นเพื่อเช็กบิลรัฐบาลอันเป็นที่รักของพวกเขา
ทั้งที่จริงๆ แล้วกระบวนการต่างๆ ได้ดำเนินการมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมางวดในช่วงนี้เอง แต่นั่นก็ไม่ใช่เป็นเพราะว่า องค์กรอิสระ หรือศาล ผู้มีอำนาจทั้งหลาย เร่งเช็กบิลโมฆะรัฐบาลนี้แต่ประการใด
ที่แท้แล้วเป็นเพราะความไม่ชอบธรรมทั้งหลายของรัฐบาลปู ได้กระทำต่อเนื่องกันมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่เริ่มเข้าดำรงตำแหน่ง เริ่มใช้อำนาจปกครองได้ในฐานะรัฐบาล
การดำเนินการอันไม่ชอบธรรมทั้งสองเรื่องที่จะนำไปสู่ชนวนการปลดรัฐบาลออกจากตำแหน่ง ที่กะเก็งกันว่าจะเป็นช่วงหลังสงกรานต์ปีใหม่ไทยนั้น ก็ได้แก่ กรณีการทุจริตจำนำข้าว ที่มีคดีรออยู่ในชั้น ป.ป.ช.
และการดำเนินการย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี ให้พ้นจาก สมช.ไปรับตำแหน่ง “ตบยุง” ซึ่งศาลปกครองมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีผู้นำความไปร้องศาลรัฐธรรมนูญต่อว่า เมื่อนายกฯ ได้ออกคำสั่งทั้งไม่ชอบธรรม ทั้งไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว เช่นนี้จะให้ดำรงตำแหน่ง หรืออยู่ในอำนาจต่อไปได้หรอกหรือ
จะเห็นว่าทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องที่นายกฯ ปูของชาวเสื้อแดง ได้ “ทำเอง” ทั้งนั้นแหละ ไม่นับคดีข้างเคียง เช่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อมุ่งหมายจะให้ได้อำนาจมาโดยวิธีที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ที่ลิ่วล้อฝ่ายสภาฯ ได้โดนชี้มูลกันไป
โครงการจำนำข้าว ที่นายวิชชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า เป็นการทุจริตที่มีการวางแผนกันไว้ล่วงหน้า และลงมืออย่างซึมลึก เพื่อหวังประโยชน์จากการทุจริตดังกล่าว โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความเสียหายที่รุนแรงเพียงไรต่อการเพาะปลูกและการค้าข้าวของไทย ซึ่งเป็นเหมือนอาชีพหลักของประเทศมานานแสนนาน
การดำเนินโครงการจำนำข้าวต่อไป นอกจากจะทำลายกระบวนการผลิตข้าวสูญสิ้นและชาวนาจะจมปลัก เพราะเงินในโครงการนี้จะถูกหมุนเวียนจากงบประมาณแผ่นดินปีละ 2 แสนล้านบาท ไปอยู่ในกำมือของบริษัทหรือพวกนักธุรกิจที่มีผลประโยชน์ร่วมกันแล้ว ชาวนาก็จะ “เสียคน” เพราะมุ่งเน้นปลูกข้าวแต่เพื่อเอาเงิน 15,000 บาท ผลิตข้าวที่เลวร้ายอย่างไรก็ได้ ไม่สนใจว่า ต้องได้พันธุ์ข้าวที่ดี
ส่วนการย้ายคุณถวิล ก็แสดงให้เห็นว่า ระบอบทักษิณที่มีจริงนั้น พยายามจะจัดวางระบบราชการของประเทศให้มีแต่คนของตัวเอง โดยละเลยหลักการธรรมาภิบาลหรือความเหมาะควรต่อตำแหน่ง เพียงแค่ต้องการให้ “คนของตน” เข้าสู่ตำแหน่ง ซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้ต้องมีการสลับตำแหน่งกันอย่างกับเล่นเกมย้ายไพ่ในคอมพิวเตอร์ จับคนนั้นวางตรงนี้เพื่อเปิดทางให้คนนั้น
ความไม่ชอบธรรม และระบบอยุติธรรมอันเลวร้ายของระบอบทักษิณที่ได้กระทำไว้ตลอดช่วงอายุรัฐบาลของนายกฯ ปูนี้เอง ที่นำไปสู่การชี้มูลหรือลงโทษของศาลและองค์กรอิสระ ซึ่งได้กระทำตามหน้าที่ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
ไม่ได้เป็นการสร้างเรื่องปั้นคดีใดๆ ขึ้นมา “หาเรื่อง” เลย เกิดจากเนื้อในตนของรัฐบาลระบอบทักษิณล้วนๆ !
จึงถือเอาเป็นวันที่ระลึกซึ่งปวงชนชาวไทยล้วนถือเป็นโอกาสในการระลึกบูชาคุณงามความดีที่ราชวงศ์จักรีมีต่อประเทศไทย
วันจักรีนี้ค่อนข้างใกล้กับช่วงวันหยุดยาวมหาสงกรานต์ หลายคนจึงถือโอกาสหยุดยาวเกลื่อนๆ กลืนกันไปด้วยหรืออาจจะมองว่า ช่วงวันหยุดต้นเดือนนี้เป็นการหยุดย่อยรอวันสงกรานต์กิจการงานต่างๆ ในช่วงนี้ก็ค่อนข้างชะลอตัวลง เตรียมเข้าสู่เทศกาลแห่งความสุขของชาวไทย
หากในปีนี้ สถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานมาร่วมครึ่งปี เริ่มจากไตรมาสท้ายของปีที่แล้ว ก็เหมือนจะเพิ่มอุณหภูมิขึ้นในช่วงนี้
เหมือนมีการอุ่นเครื่องกันตั้งแต่ในช่วงวันหยุดวันจักรี เพื่อไปเร่งเครื่องให้ร้อนจัดกันหลังสงกรานต์
มวลชนทั้งสองฝ่ายเริ่มประกาศแง้มแผนเผด็จศึกของฝ่ายตนเองออกมา
โดยทางเวที กปปส.ของคุณสุเทพ นั้น ได้ประกาศนับถอยหลังการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ที่จะเริ่มขึ้นทันที ณ วันที่ศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช.มีการวินิจฉัยชี้ชะตารัฐบาลนายกฯ ปู ซึ่งยังถืออ้างความชอบธรรมแต่เฉพาะรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมลุก ไม่ยอมออกจากเก้าอี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเว้นแต่มี “ข้อกฎหมาย” ที่เปลี่ยนแปลงไป
ซึ่งก็คาดหมายกันว่า “ข้อกฎหมาย” นี้จะเปลี่ยนแปลงหลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หรือคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่จะชี้ว่า นายกรัฐมนตรีไม่อาจอยู่ในตำแหน่งหรือใช้อำนาจใดๆ ได้อีกต่อไป
ในทางตรงกันข้าม ฝ่าย นปช.หรือบรรดาพลพรรคเสื้อแดงก็ระดมพลกันแบบ “เฮือกสุดท้าย” ซึ่งเห็นได้ว่าเหลือมวลชนแบบนับได้อย่างมากก็ไม่เกินสองแสนคน (อ้างอิงจากตัวเลขที่ นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธาน นปช.ประกาศเอง แต่ทางตำรวจประเมินว่าไม่ถึงแสนคนด้วยซ้ำ) แต่ที่เหลือนั้น ก็มีแต่สายฮาร์ดคอร์ล้วนๆ และมีการเปิดเผย “กองกำลัง” ของฝ่ายเสื้อแดงอย่างชัดเจนแล้ว
ระหว่างนี้ก็มีการวางระเบิดซีโฟร์บ้าง หรือลอบยิงแบบสไนเปอร์ใส่การ์ดฝ่าย กปปส. บ้าง เป็นการประกาศศักดาว่ารอบนี้เอาจริง มีการโพสต์ขู่บอกไว้ล่วงหน้าในเฟซบุ๊กอย่างไม่เกรงกลัวกบิลบ้านกบิลเมือง เช่นที่มีคนเสื้อแดงมาขู่ล่วงหน้าว่าจะมีการลอบยิง กปปส.ที่บริเวณทางด่วน ในวันที่เดินทางไปชักชวนข้าราชการให้ทิ้งระบอบทักษิณที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งเหตุการณ์ก็ได้เกิดขึ้นจริง
ฝ่ายเสื้อแดงพยายามขู่ว่า ถ้ามีการ “เล่นงาน” ผ่านกลไกทางกฎหมายของศาล และองค์กรอิสระ คราวนี้ฝ่ายเสื้อแดงจะเอาจริงแล้วนะ
กระบวนการทางกฎหมายที่ฝ่ายเสื้อแดงพยายามบอกว่า “อีกฝ่าย” พยายามปั้นเกมขึ้นเพื่อเช็กบิลรัฐบาลอันเป็นที่รักของพวกเขา
ทั้งที่จริงๆ แล้วกระบวนการต่างๆ ได้ดำเนินการมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมางวดในช่วงนี้เอง แต่นั่นก็ไม่ใช่เป็นเพราะว่า องค์กรอิสระ หรือศาล ผู้มีอำนาจทั้งหลาย เร่งเช็กบิลโมฆะรัฐบาลนี้แต่ประการใด
ที่แท้แล้วเป็นเพราะความไม่ชอบธรรมทั้งหลายของรัฐบาลปู ได้กระทำต่อเนื่องกันมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่เริ่มเข้าดำรงตำแหน่ง เริ่มใช้อำนาจปกครองได้ในฐานะรัฐบาล
การดำเนินการอันไม่ชอบธรรมทั้งสองเรื่องที่จะนำไปสู่ชนวนการปลดรัฐบาลออกจากตำแหน่ง ที่กะเก็งกันว่าจะเป็นช่วงหลังสงกรานต์ปีใหม่ไทยนั้น ก็ได้แก่ กรณีการทุจริตจำนำข้าว ที่มีคดีรออยู่ในชั้น ป.ป.ช.
และการดำเนินการย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี ให้พ้นจาก สมช.ไปรับตำแหน่ง “ตบยุง” ซึ่งศาลปกครองมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีผู้นำความไปร้องศาลรัฐธรรมนูญต่อว่า เมื่อนายกฯ ได้ออกคำสั่งทั้งไม่ชอบธรรม ทั้งไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว เช่นนี้จะให้ดำรงตำแหน่ง หรืออยู่ในอำนาจต่อไปได้หรอกหรือ
จะเห็นว่าทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องที่นายกฯ ปูของชาวเสื้อแดง ได้ “ทำเอง” ทั้งนั้นแหละ ไม่นับคดีข้างเคียง เช่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อมุ่งหมายจะให้ได้อำนาจมาโดยวิธีที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ที่ลิ่วล้อฝ่ายสภาฯ ได้โดนชี้มูลกันไป
โครงการจำนำข้าว ที่นายวิชชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า เป็นการทุจริตที่มีการวางแผนกันไว้ล่วงหน้า และลงมืออย่างซึมลึก เพื่อหวังประโยชน์จากการทุจริตดังกล่าว โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความเสียหายที่รุนแรงเพียงไรต่อการเพาะปลูกและการค้าข้าวของไทย ซึ่งเป็นเหมือนอาชีพหลักของประเทศมานานแสนนาน
การดำเนินโครงการจำนำข้าวต่อไป นอกจากจะทำลายกระบวนการผลิตข้าวสูญสิ้นและชาวนาจะจมปลัก เพราะเงินในโครงการนี้จะถูกหมุนเวียนจากงบประมาณแผ่นดินปีละ 2 แสนล้านบาท ไปอยู่ในกำมือของบริษัทหรือพวกนักธุรกิจที่มีผลประโยชน์ร่วมกันแล้ว ชาวนาก็จะ “เสียคน” เพราะมุ่งเน้นปลูกข้าวแต่เพื่อเอาเงิน 15,000 บาท ผลิตข้าวที่เลวร้ายอย่างไรก็ได้ ไม่สนใจว่า ต้องได้พันธุ์ข้าวที่ดี
ส่วนการย้ายคุณถวิล ก็แสดงให้เห็นว่า ระบอบทักษิณที่มีจริงนั้น พยายามจะจัดวางระบบราชการของประเทศให้มีแต่คนของตัวเอง โดยละเลยหลักการธรรมาภิบาลหรือความเหมาะควรต่อตำแหน่ง เพียงแค่ต้องการให้ “คนของตน” เข้าสู่ตำแหน่ง ซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้ต้องมีการสลับตำแหน่งกันอย่างกับเล่นเกมย้ายไพ่ในคอมพิวเตอร์ จับคนนั้นวางตรงนี้เพื่อเปิดทางให้คนนั้น
ความไม่ชอบธรรม และระบบอยุติธรรมอันเลวร้ายของระบอบทักษิณที่ได้กระทำไว้ตลอดช่วงอายุรัฐบาลของนายกฯ ปูนี้เอง ที่นำไปสู่การชี้มูลหรือลงโทษของศาลและองค์กรอิสระ ซึ่งได้กระทำตามหน้าที่ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
ไม่ได้เป็นการสร้างเรื่องปั้นคดีใดๆ ขึ้นมา “หาเรื่อง” เลย เกิดจากเนื้อในตนของรัฐบาลระบอบทักษิณล้วนๆ !