เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2556 ผมได้ยื่นหนังสือขอข้อมูลการใช้สิทธิ์เดินทางของส.ส. ไปยังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานที่พรบ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรรับรองไว้ ถ้าแทงหวยไว้รับรองได้กินเพราะเวลาผ่านไป 4 เดือนยังไม่ได้รับคำตอบอย่างเป็นทางการว่าจะให้ไม่ให้ยังไง
มีแค่โทรศัพท์ประสานงานแจ้งมา 2 ครั้งว่ารับเรื่องแล้วและได้ส่งเรื่องไปยังกองคลังแต่ยังไม่ได้คำตอบ ซึ่งผมก็พอจะเข้าใจเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานดีครับว่าทำตามหน้าที่ของตนแล้วแต่ติดขัดขั้นตอนปัญหาภายใน ระบบราชการมันก็เป็นแบบนี้แหละกลัวเจ้านายมากกว่าประชาชน
ผมตัดสินใจว่าจะยื่นร้องเรียนไปยังคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็เคยใช้บริการมาแล้วเมื่อครั้งยื่นขอดูข้อมูลการเดินทางไปประเทศอังกฤษของคณะนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เพราะถือว่า เรื่องแบบนี้เกี่ยวข้องกับหลักการพื้นฐานประชาธิปไตยของประเทศ ลองประชาชนไม่มีสิทธิรับรู้การใช้เงินภาษีใครใช้อะไรบ้างนี่อย่าปฏิรูปการเมืองมันเลยครับ เสียเวลาเปล่า !
พร้อมๆ กันนั้นเมื่อเที่ยงวันเสาร์ (14ก.ย.) ผมเปิดใช้แคมเปญรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนร่วมลงชื่อเรียกร้องผ่าน change.org ให้รัฐสภาเปิดข้อมูลบินฟรีของส.ส. เพราะเห็นว่า นี่เป็นเรื่องส่วนรวมที่ประชาชนจะได้แสดงเจตนารมณ์ของตนให้กับรัฐสภาได้รับรู้ ใช้เวลาจากเที่ยงวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ได้มาเกือบ 400 รายชื่อแล้วครับ
แคมเปญล่ารายชื่อของ change.org เป็นของใหม่ เพิ่งเปิดภาคภาษาไทยเมื่อปีกว่าๆ นี้เอง ระบบของเว็บไซต์นี้ออกแบบมาเพื่อการล่ารายชื่อรณรงค์ผลักดันประเด็นทางสังคม เปิดโอกาสให้คนเล็กคนน้อยได้เสนอประเด็นแล้วก็รวบรวมรายชื่อผู้เห็นด้วยเพื่อผลักดันส่งไปยังปลายทางที่แคมเปญต้องการ ในสหรัฐอเมริกาการล่ารายชื่อผ่าน change.org ที่คึกคักมาก
ในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนมีนาคม 2012 change.org เป็นตัวกลางล่ารายชื่อผู้สนับสนุนชาวอเมริกันมากถึง 2.2 ล้านรายชื่อให้ฟ้องร้องเอาผิดในคดีฆาตกรรมเด็กหนุ่มวัย 17 ปีชื่อ Trayvon Martin ซึ่งที่สุดก็มีการจับกุมผู้ต้องหาได้ บทบาทการล่ารายชื่อประชาชนเพื่อสนับสนุนแคมเปญทางสังคมของเว็บไซต์นี้ยังมีตัวอย่างความประสบผลสำเร็จที่น่าทึ่งอีกหลายเรื่อง
สำหรับประเทศไทยของเรามีผู้ใช้ change.org เป็นเครื่องมือรณรงค์สำเร็จไปแล้วหลายเรื่อง เช่นการรณรงค์เปลี่ยนฝาท่อระบายน้ำที่เป็นอันตรายกับผู้ใช้รถจักรยาน แคมเปญรณรงค์หยุดนิรโทษกรรมให้เรืออวนลากเถื่อน การคัดค้านการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ฯลฯ เป็นต้น
ในยุคที่การเมืองไทยยังเดินหน้าสู่เผด็จการพรรคเดียวในสภาฯ หรือ Majoritarianism แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ มีแต่พลังอำนาจของประชาชนเท่านั้นที่จะเข้าไปตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจกับองค์กรในระบบ เสียงข้างมากในสภาแก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของส.ว.เพราะต้องการครอบงำสภาสูง มีผลต่อเนื่องไปยังองค์กรอิสระในที่สุด เมื่อถึงเวลานั้นอย่าไปหวังการตรวจสอบถ่วงดุลโดยองค์กรในระบบเลยอ้างว่ามีฝ่ายค้าน แล้วไงครับ!!? ก็พวกท่านเข้าไปจัดการ สตง. ปปช. ศาลปกครอง ไปจนถึงศาลรัฐธรรมนูญราบคาบแล้ว ยิ่งวุฒิสภาไม่ต้องพูดถึงเพราะยังไงก็เหลือแค่สภาผัวเมียไม่ได้เป็นสภาตรวจสอบอะไรเลย
ผู้ที่คิดปฏิรูปการเมืองไทยโดยปรับแก้แค่โครงสร้างส่วนบน เพิ่มอำนาจนักการเมือง เพิ่มอำนาจทุน ตัดพลังอำนาจการตรวจสอบองค์กรอิสระทิ้งไป ทำลายเครือข่ายที่ไม่ใช่การเมืองทิ้งไป แล้วคิดว่าประเทศจะเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ได้หรือ ? ไม่มีทางได้หรอกครับ เพราะหัวใจของการปฏิรูปประชาธิปไตยของไทยที่แท้จริงต้องเพิ่มพลังอำนาจประชาชนในโครงสร้างส่วนล่าง
ย้ำอีกทีก็ได้.. ไม่มีทางที่ประเทศจะเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ถ้าไม่เติมพลังอำนาจให้กับประชาชนในโครงสร้างส่วนล่าง
แต่ทว่าสิ่งที่ทักษิณ ที่นักการเมือง ทุนเก่า ทุนใหม่ ตลอดถึง อำมาตย์ ข้าราชการไล่บี้กันซัดกันเละเทะคนละหมัดสองหมัดในหลายปีที่ผ่านมากลับเป็นการชิงพื้นที่อำนาจระหว่างกลุ่มผู้วิเศษในโครงสร้างส่วนบนเท่านั้นเอง
ทหารแย่งอำนาจทักษิณ ทหารให้อำนาจอำมาตย์เก่า เทคโนแครตกินพื้นที่นักการเมืองและทุนใหม่ เมื่อทุนใหม่และนักการเมืองได้อำนาจก็กินพื้นที่อำมาตย์เก่า ชักคะเย่อกันในนามของการทำเพื่อประชาชน
มันก็อ้างประชาชนบังหน้าเพื่อสวาปามกันทั้งนั้น !
การเพิ่มอำนาจประชาชนไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย แค่ยอมรับว่าประชาชนมีสิทธิเสรีภาพพื้นฐานอะไรก็ต้องยอมรับปฏิบัติและเคารพอย่างจริงใจ
ประชาชนมีสิทธิชุมนุมโดยสงบ มีสิทธิถืออุดมการณ์อะไรก็ได้ พวกท่านต้องส่งเสริมให้เขาชุมนุมไม่ใช่ส่งไอ้บ้าหัวควายยกโขยงไปรังควานเขา หรือเอาตะกวดไปไล่ตี
ประชาชนมีสิทธิรู้ข้อมูลการดำเนินการ ก็แถลงผลงานประจำปี ก็เปิดข้อมูลจำนำข้าวไปสิ
ประชาชนมีสิทธิรู้ว่ารัฐสภาเอาภาษีของพวกเขาไปทำอะไรบ้าง ขอดูว่าส.ส.ใช้สิทธิบินฟรีเพื่อการงานหรือเพื่อส่วนตัว ก็เปิดให้ดูสิ ยกท่าอยู่ทำไม
เหล่านี้แหละครับคือการจริงจังจริงใจกับการเสริมพลังอำนาจของประชาชน อันเป็นโครงสร้างส่วนล่างของประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง แต่ที่ผ่านมาไม่มีฝ่ายใดที่จริงจังจริงใจเลยแม้แต่น้อยโดยเฉพาะรัฐบาลที่อ้างว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย
ผมยื่นขอข้อมูลข่าวสาร ไม่ได้อยากรู้ขนาดจะเป็นจะตายต้องดูให้ได้หรอกนะครับ คุณจะยื้อเวลาคุณก็เสียหายพวกคุณเอง เพราะผมจะนำเรื่องบ้าๆ บอๆ เหล่านี้มาฟ้องประชาชนประจานพวกคุณต่อ ยิ่งพวกคุณยื้อเวลานานเท่าไหร่ผมมีแต่จะหัวเราะเยาะในความวิปริตของระบบบ้านเมืองนี้ พรบ.ข้อมูลข่าวสารฯใช้มาตั้งแต่ 2540 บัดนี้ยังไม่เป็นจริงเลยเพราะนักการเมืองและข้าราชการยังดูถูกประชาชน
ถุย..(ขอโทษที่ต้องถุยครับมันจำเป็นต้องถุยจริงๆ) ถุย ! ทำปากดี แก้รัฐธรรมนูญทำประเทศให้เป็นประชาธิปไตยขึ้น อีกปากบอกเรามาร่วมกันปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย หึหึ อยากจะอาเจียนใส่หน้ามัน
เพราะกะอีแค่กฎหมายที่พวกตัวเองยกมือให้ผ่านสภาแท้ๆ ยังไม่ปฏิบัติตามเลย !
...................
ป.ล. ขอรบกวนท่านผู้อ่านที่เห็นด้วยกับการเรียกร้องให้รัฐสภาเปิดข้อมูลการบินฟรีของ ส.ส.กรุณาเข้าไปลงชื่อในเว็บไซต์ change.org ตามลิงค์ พลังของประชาชนอยู่ที่เครือข่ายบอกต่อ ลงชื่อแล้วบอกต่อให้เพื่อนมาลง ช่วยกันทำให้นักการเมืองมองเห็นหัวประชาชนอย่างแท้จริงกันครับ
มีแค่โทรศัพท์ประสานงานแจ้งมา 2 ครั้งว่ารับเรื่องแล้วและได้ส่งเรื่องไปยังกองคลังแต่ยังไม่ได้คำตอบ ซึ่งผมก็พอจะเข้าใจเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานดีครับว่าทำตามหน้าที่ของตนแล้วแต่ติดขัดขั้นตอนปัญหาภายใน ระบบราชการมันก็เป็นแบบนี้แหละกลัวเจ้านายมากกว่าประชาชน
ผมตัดสินใจว่าจะยื่นร้องเรียนไปยังคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็เคยใช้บริการมาแล้วเมื่อครั้งยื่นขอดูข้อมูลการเดินทางไปประเทศอังกฤษของคณะนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เพราะถือว่า เรื่องแบบนี้เกี่ยวข้องกับหลักการพื้นฐานประชาธิปไตยของประเทศ ลองประชาชนไม่มีสิทธิรับรู้การใช้เงินภาษีใครใช้อะไรบ้างนี่อย่าปฏิรูปการเมืองมันเลยครับ เสียเวลาเปล่า !
พร้อมๆ กันนั้นเมื่อเที่ยงวันเสาร์ (14ก.ย.) ผมเปิดใช้แคมเปญรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนร่วมลงชื่อเรียกร้องผ่าน change.org ให้รัฐสภาเปิดข้อมูลบินฟรีของส.ส. เพราะเห็นว่า นี่เป็นเรื่องส่วนรวมที่ประชาชนจะได้แสดงเจตนารมณ์ของตนให้กับรัฐสภาได้รับรู้ ใช้เวลาจากเที่ยงวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ได้มาเกือบ 400 รายชื่อแล้วครับ
แคมเปญล่ารายชื่อของ change.org เป็นของใหม่ เพิ่งเปิดภาคภาษาไทยเมื่อปีกว่าๆ นี้เอง ระบบของเว็บไซต์นี้ออกแบบมาเพื่อการล่ารายชื่อรณรงค์ผลักดันประเด็นทางสังคม เปิดโอกาสให้คนเล็กคนน้อยได้เสนอประเด็นแล้วก็รวบรวมรายชื่อผู้เห็นด้วยเพื่อผลักดันส่งไปยังปลายทางที่แคมเปญต้องการ ในสหรัฐอเมริกาการล่ารายชื่อผ่าน change.org ที่คึกคักมาก
ในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนมีนาคม 2012 change.org เป็นตัวกลางล่ารายชื่อผู้สนับสนุนชาวอเมริกันมากถึง 2.2 ล้านรายชื่อให้ฟ้องร้องเอาผิดในคดีฆาตกรรมเด็กหนุ่มวัย 17 ปีชื่อ Trayvon Martin ซึ่งที่สุดก็มีการจับกุมผู้ต้องหาได้ บทบาทการล่ารายชื่อประชาชนเพื่อสนับสนุนแคมเปญทางสังคมของเว็บไซต์นี้ยังมีตัวอย่างความประสบผลสำเร็จที่น่าทึ่งอีกหลายเรื่อง
สำหรับประเทศไทยของเรามีผู้ใช้ change.org เป็นเครื่องมือรณรงค์สำเร็จไปแล้วหลายเรื่อง เช่นการรณรงค์เปลี่ยนฝาท่อระบายน้ำที่เป็นอันตรายกับผู้ใช้รถจักรยาน แคมเปญรณรงค์หยุดนิรโทษกรรมให้เรืออวนลากเถื่อน การคัดค้านการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ฯลฯ เป็นต้น
ในยุคที่การเมืองไทยยังเดินหน้าสู่เผด็จการพรรคเดียวในสภาฯ หรือ Majoritarianism แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ มีแต่พลังอำนาจของประชาชนเท่านั้นที่จะเข้าไปตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจกับองค์กรในระบบ เสียงข้างมากในสภาแก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของส.ว.เพราะต้องการครอบงำสภาสูง มีผลต่อเนื่องไปยังองค์กรอิสระในที่สุด เมื่อถึงเวลานั้นอย่าไปหวังการตรวจสอบถ่วงดุลโดยองค์กรในระบบเลยอ้างว่ามีฝ่ายค้าน แล้วไงครับ!!? ก็พวกท่านเข้าไปจัดการ สตง. ปปช. ศาลปกครอง ไปจนถึงศาลรัฐธรรมนูญราบคาบแล้ว ยิ่งวุฒิสภาไม่ต้องพูดถึงเพราะยังไงก็เหลือแค่สภาผัวเมียไม่ได้เป็นสภาตรวจสอบอะไรเลย
ผู้ที่คิดปฏิรูปการเมืองไทยโดยปรับแก้แค่โครงสร้างส่วนบน เพิ่มอำนาจนักการเมือง เพิ่มอำนาจทุน ตัดพลังอำนาจการตรวจสอบองค์กรอิสระทิ้งไป ทำลายเครือข่ายที่ไม่ใช่การเมืองทิ้งไป แล้วคิดว่าประเทศจะเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ได้หรือ ? ไม่มีทางได้หรอกครับ เพราะหัวใจของการปฏิรูปประชาธิปไตยของไทยที่แท้จริงต้องเพิ่มพลังอำนาจประชาชนในโครงสร้างส่วนล่าง
ย้ำอีกทีก็ได้.. ไม่มีทางที่ประเทศจะเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ถ้าไม่เติมพลังอำนาจให้กับประชาชนในโครงสร้างส่วนล่าง
แต่ทว่าสิ่งที่ทักษิณ ที่นักการเมือง ทุนเก่า ทุนใหม่ ตลอดถึง อำมาตย์ ข้าราชการไล่บี้กันซัดกันเละเทะคนละหมัดสองหมัดในหลายปีที่ผ่านมากลับเป็นการชิงพื้นที่อำนาจระหว่างกลุ่มผู้วิเศษในโครงสร้างส่วนบนเท่านั้นเอง
ทหารแย่งอำนาจทักษิณ ทหารให้อำนาจอำมาตย์เก่า เทคโนแครตกินพื้นที่นักการเมืองและทุนใหม่ เมื่อทุนใหม่และนักการเมืองได้อำนาจก็กินพื้นที่อำมาตย์เก่า ชักคะเย่อกันในนามของการทำเพื่อประชาชน
มันก็อ้างประชาชนบังหน้าเพื่อสวาปามกันทั้งนั้น !
การเพิ่มอำนาจประชาชนไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย แค่ยอมรับว่าประชาชนมีสิทธิเสรีภาพพื้นฐานอะไรก็ต้องยอมรับปฏิบัติและเคารพอย่างจริงใจ
ประชาชนมีสิทธิชุมนุมโดยสงบ มีสิทธิถืออุดมการณ์อะไรก็ได้ พวกท่านต้องส่งเสริมให้เขาชุมนุมไม่ใช่ส่งไอ้บ้าหัวควายยกโขยงไปรังควานเขา หรือเอาตะกวดไปไล่ตี
ประชาชนมีสิทธิรู้ข้อมูลการดำเนินการ ก็แถลงผลงานประจำปี ก็เปิดข้อมูลจำนำข้าวไปสิ
ประชาชนมีสิทธิรู้ว่ารัฐสภาเอาภาษีของพวกเขาไปทำอะไรบ้าง ขอดูว่าส.ส.ใช้สิทธิบินฟรีเพื่อการงานหรือเพื่อส่วนตัว ก็เปิดให้ดูสิ ยกท่าอยู่ทำไม
เหล่านี้แหละครับคือการจริงจังจริงใจกับการเสริมพลังอำนาจของประชาชน อันเป็นโครงสร้างส่วนล่างของประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง แต่ที่ผ่านมาไม่มีฝ่ายใดที่จริงจังจริงใจเลยแม้แต่น้อยโดยเฉพาะรัฐบาลที่อ้างว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย
ผมยื่นขอข้อมูลข่าวสาร ไม่ได้อยากรู้ขนาดจะเป็นจะตายต้องดูให้ได้หรอกนะครับ คุณจะยื้อเวลาคุณก็เสียหายพวกคุณเอง เพราะผมจะนำเรื่องบ้าๆ บอๆ เหล่านี้มาฟ้องประชาชนประจานพวกคุณต่อ ยิ่งพวกคุณยื้อเวลานานเท่าไหร่ผมมีแต่จะหัวเราะเยาะในความวิปริตของระบบบ้านเมืองนี้ พรบ.ข้อมูลข่าวสารฯใช้มาตั้งแต่ 2540 บัดนี้ยังไม่เป็นจริงเลยเพราะนักการเมืองและข้าราชการยังดูถูกประชาชน
ถุย..(ขอโทษที่ต้องถุยครับมันจำเป็นต้องถุยจริงๆ) ถุย ! ทำปากดี แก้รัฐธรรมนูญทำประเทศให้เป็นประชาธิปไตยขึ้น อีกปากบอกเรามาร่วมกันปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย หึหึ อยากจะอาเจียนใส่หน้ามัน
เพราะกะอีแค่กฎหมายที่พวกตัวเองยกมือให้ผ่านสภาแท้ๆ ยังไม่ปฏิบัติตามเลย !
...................
ป.ล. ขอรบกวนท่านผู้อ่านที่เห็นด้วยกับการเรียกร้องให้รัฐสภาเปิดข้อมูลการบินฟรีของ ส.ส.กรุณาเข้าไปลงชื่อในเว็บไซต์ change.org ตามลิงค์ พลังของประชาชนอยู่ที่เครือข่ายบอกต่อ ลงชื่อแล้วบอกต่อให้เพื่อนมาลง ช่วยกันทำให้นักการเมืองมองเห็นหัวประชาชนอย่างแท้จริงกันครับ
