โค้งสุดท้ายแล้วสำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ผู้สมัครทุกคนต่างงัดไม้เด็ดเข้าต่อสู้อย่างเต็มที่ ขณะที่สำนักโพลก็ยังคงนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเป็นระยะๆ ที่น่าสนใจก็คือนิด้าโพลเปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 1,500 ตัวอย่างเรื่องโพลกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในประเด็นความน่าเชื่อถือต่อผลการสำรวจโพลการเลือกตั้งร้อยละ 52.40 เชื่อมั่นผลโพลระดับปานกลางร้อยละ 19.07 เชื่อมั่นมากร้อยละ 17.60 เชื่อมั่นน้อยทั้งนี้ร้อยละ 39.07 เชื่อว่าสำนักโพลถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซงเพราะผลสำรวจออกมาทำให้น่าเชื่อว่าจะมีส่วนและอาจจะมีการว่าจ้างสำรวจ
ขณะที่ร้อยละ 30.60 ไม่เชื่อว่าถูกแทรกแซงเพราะสำนักโพลมีจรรยาบรรณร้อยละ 35.72 คิดว่าน่าจะตรงกับผลการเลือกตั้งร้อยละ 31.13 ไม่น่าจะตรง ที่สำคัญเมื่อถามว่าผลโพลสามารถชี้นำหรือมีผลต่อการตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ เสียงส่วนใหญ่ร้อยละ 70.87 ระบุว่าไม่สามารถชี้นำหรือมีผลต่อการตัดสินใจเพราะแต่ละคนมีคนที่ชอบหรือตัดสินใจเลือกอยู่แล้ว โพลเป็นแค่สีสันมีเพียงร้อยละ 16.73 ระบุว่ามีผลชี้นำได้จริงแต่เป็นแค่บางส่วน
รศ.สุจิตรา บุณยรัตพันธุ์ อาจารย์คณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า กล่าวว่าจากผลการสำรวจคะแนนนิยมผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในแต่ละสำนักโพลต่างมีผลไปในทิศทางเดียวกัน สอดคล้องกันทุกสำนัก ดังนั้นคนกทม.จึงมีความเชื่อมั่นต่อผลการสำรวจออกมาระดับหนึ่ง แต่ปฏิเสธความเชื่อของประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ว่าสำนักโพลถูกการเมืองแทรกแซง
ส่วนการเคลื่อนไหวหาเสียงของผู้สมัครที่สำคัญเมื่อปลายสัปดาห์โค้งสุดท้ายที่ผ่านมา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่หาเสียงในเขตบางซื่อ โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนำทีมรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทยช่วยหาเสียง อาทิ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทยในฐานะผอ.เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. การหาเสียงโดยคณะของพล.ต.อ.พงศพัศ และทีมนายกรัฐมนตรีได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งจากประชาชนทุกแห่งที่เดินทางไปหาเสียงมีการขอถ่ายรูปและมอบดอกกุหลาบแดงแก่นายกฯ ด้วย
จากนั้นพล.ต.อ.พงศพัศได้ขึ้นรถตุ๊กตุ๊กไปยังหน้าตลาดสะพานสูง บางซื่อท่ามกลางผู้ที่ให้ความสนใจจำนวนมากก่อนที่จะเปลี่ยนไปขึ้นรถแห่หาเสียงไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อเพื่อดูระบบเชื่อมต่อโครงข่ายจราจรโดยนายชัชชาติเป็นผู้บรรยายสรุป จากนั้นก็ยังเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงสถานีกำแพงเพชรเพื่อไปหาเสียงที่ตลาดนัด อ.ต.ก.ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้ามารอต้อนรับกันอย่างคึกคัก คณะหาเสียงใช้เวลาเดินอยู่ในบริเวณตลาด อ.ต.ก.ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงจึงเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว และเดินทักทายกับประชาชนที่เดินจับจ่ายซื้อของภายในห้างและพนักงานในห้าง
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่ายุทธศาสตร์การวางระบบโครงข่ายจราจรและระบบขนส่งมวลชนใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจราจรจะทำงานเชื่อมต่อกับรัฐบาลแบบไร้รอยต่อโดยจะสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบารอบศูนย์กลางคมนาคมพหลโยธิน บางซื่อเพื่อบริหารการจราจรให้คล่องตัว ลดเวลาการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนโดยจะผลักดันให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์กลางคมนาคมแห่งใหม่ของกทม. ทั้งนี้รถไฟฟ้าโมโนเรลจะเชื่อมโยงพื้นที่อาคาร ปตท. เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ สวนจตุจักร ตลาด อ.ต.ก.สถานีขนส่งหมอชิต สถานีรถไฟฟ้าบางซื่อ เป็นตัวเชื่อมโยงกับระบบขนส่งมวลชน
อีกด้านหนึ่งที่บริเวณสวนพฤกษชาติการเคหะแห่งชาติหรือแฟลตคลองจั่น เขตบางกะปิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมด้วยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคประชาธิปัตย์หมายเลข 16 และคณะลงพื้นที่หาเสียงจากประชาชนผู้รักสุขภาพที่มาออกกำลังกายช่วงเช้าและกลุ่มพ่อบ้านแม่บ้านที่มาจับจ่ายซื้อของโดยได้รับการตอบรับด้วยดี คณะของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้รับประทานอาหารกับรถเข็นข้างทางแบบติดดินไม่ถือตัว และแวะแผงขายล็อตเตอรี่ พร้อมทั้งถามหาเบอร์ 16 ที่ตรงกับเบอร์ผู้สมัครแต่ปรากฏว่าเบอร์ 16 ถูกซื้อไปหมดแล้ว โดยแม่ค้าบอกว่าขาดตลาดและมีคนมาถามหาซื้อแต่ก็หามาขายไม่ได้
หลังจากนั้นทีมหาเสียงของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ยังขึ้นรถไฟฟ้าไปตามสถานีต่างๆอีกหลายสถานีเพื่อรณรงค์ภายใต้สโลแกน “พบประชาชน 16 เช็กพอยท์ 16 นโยบาย” ที่จะทำทันที โดยแต่ละจุดที่แวะหาเสียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะทำการเช็กพอยท์โดยแปะรูปสติกเกอร์ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่มีเลข 16 ลงบนแผ่นป้ายแต่ละนโยบายเป็นสัญลักษณ์ว่าจะดำเนินการทันทีที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ กทม.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีสวนกับกระแสโพลที่ระบุว่าตนเป็นรองผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ตนรู้สึกว่าไม่ถูกกดดันแต่ประการใดและไม่เชื่อในกระแสข่าวที่ว่ามีการสั่งให้ตำรวจเลือกผู้สมัครหมายเลข 9 เพราะตนเชื่อว่าตำรวจนั้นมีศักดิ์ศรีของตำรวจเอง
ขณะที่ร้อยละ 30.60 ไม่เชื่อว่าถูกแทรกแซงเพราะสำนักโพลมีจรรยาบรรณร้อยละ 35.72 คิดว่าน่าจะตรงกับผลการเลือกตั้งร้อยละ 31.13 ไม่น่าจะตรง ที่สำคัญเมื่อถามว่าผลโพลสามารถชี้นำหรือมีผลต่อการตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ เสียงส่วนใหญ่ร้อยละ 70.87 ระบุว่าไม่สามารถชี้นำหรือมีผลต่อการตัดสินใจเพราะแต่ละคนมีคนที่ชอบหรือตัดสินใจเลือกอยู่แล้ว โพลเป็นแค่สีสันมีเพียงร้อยละ 16.73 ระบุว่ามีผลชี้นำได้จริงแต่เป็นแค่บางส่วน
รศ.สุจิตรา บุณยรัตพันธุ์ อาจารย์คณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า กล่าวว่าจากผลการสำรวจคะแนนนิยมผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในแต่ละสำนักโพลต่างมีผลไปในทิศทางเดียวกัน สอดคล้องกันทุกสำนัก ดังนั้นคนกทม.จึงมีความเชื่อมั่นต่อผลการสำรวจออกมาระดับหนึ่ง แต่ปฏิเสธความเชื่อของประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ว่าสำนักโพลถูกการเมืองแทรกแซง
ส่วนการเคลื่อนไหวหาเสียงของผู้สมัครที่สำคัญเมื่อปลายสัปดาห์โค้งสุดท้ายที่ผ่านมา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่หาเสียงในเขตบางซื่อ โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนำทีมรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทยช่วยหาเสียง อาทิ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทยในฐานะผอ.เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. การหาเสียงโดยคณะของพล.ต.อ.พงศพัศ และทีมนายกรัฐมนตรีได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งจากประชาชนทุกแห่งที่เดินทางไปหาเสียงมีการขอถ่ายรูปและมอบดอกกุหลาบแดงแก่นายกฯ ด้วย
จากนั้นพล.ต.อ.พงศพัศได้ขึ้นรถตุ๊กตุ๊กไปยังหน้าตลาดสะพานสูง บางซื่อท่ามกลางผู้ที่ให้ความสนใจจำนวนมากก่อนที่จะเปลี่ยนไปขึ้นรถแห่หาเสียงไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อเพื่อดูระบบเชื่อมต่อโครงข่ายจราจรโดยนายชัชชาติเป็นผู้บรรยายสรุป จากนั้นก็ยังเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงสถานีกำแพงเพชรเพื่อไปหาเสียงที่ตลาดนัด อ.ต.ก.ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้ามารอต้อนรับกันอย่างคึกคัก คณะหาเสียงใช้เวลาเดินอยู่ในบริเวณตลาด อ.ต.ก.ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงจึงเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว และเดินทักทายกับประชาชนที่เดินจับจ่ายซื้อของภายในห้างและพนักงานในห้าง
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่ายุทธศาสตร์การวางระบบโครงข่ายจราจรและระบบขนส่งมวลชนใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจราจรจะทำงานเชื่อมต่อกับรัฐบาลแบบไร้รอยต่อโดยจะสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบารอบศูนย์กลางคมนาคมพหลโยธิน บางซื่อเพื่อบริหารการจราจรให้คล่องตัว ลดเวลาการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนโดยจะผลักดันให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์กลางคมนาคมแห่งใหม่ของกทม. ทั้งนี้รถไฟฟ้าโมโนเรลจะเชื่อมโยงพื้นที่อาคาร ปตท. เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ สวนจตุจักร ตลาด อ.ต.ก.สถานีขนส่งหมอชิต สถานีรถไฟฟ้าบางซื่อ เป็นตัวเชื่อมโยงกับระบบขนส่งมวลชน
อีกด้านหนึ่งที่บริเวณสวนพฤกษชาติการเคหะแห่งชาติหรือแฟลตคลองจั่น เขตบางกะปิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมด้วยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคประชาธิปัตย์หมายเลข 16 และคณะลงพื้นที่หาเสียงจากประชาชนผู้รักสุขภาพที่มาออกกำลังกายช่วงเช้าและกลุ่มพ่อบ้านแม่บ้านที่มาจับจ่ายซื้อของโดยได้รับการตอบรับด้วยดี คณะของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้รับประทานอาหารกับรถเข็นข้างทางแบบติดดินไม่ถือตัว และแวะแผงขายล็อตเตอรี่ พร้อมทั้งถามหาเบอร์ 16 ที่ตรงกับเบอร์ผู้สมัครแต่ปรากฏว่าเบอร์ 16 ถูกซื้อไปหมดแล้ว โดยแม่ค้าบอกว่าขาดตลาดและมีคนมาถามหาซื้อแต่ก็หามาขายไม่ได้
หลังจากนั้นทีมหาเสียงของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ยังขึ้นรถไฟฟ้าไปตามสถานีต่างๆอีกหลายสถานีเพื่อรณรงค์ภายใต้สโลแกน “พบประชาชน 16 เช็กพอยท์ 16 นโยบาย” ที่จะทำทันที โดยแต่ละจุดที่แวะหาเสียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะทำการเช็กพอยท์โดยแปะรูปสติกเกอร์ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่มีเลข 16 ลงบนแผ่นป้ายแต่ละนโยบายเป็นสัญลักษณ์ว่าจะดำเนินการทันทีที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ กทม.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีสวนกับกระแสโพลที่ระบุว่าตนเป็นรองผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ตนรู้สึกว่าไม่ถูกกดดันแต่ประการใดและไม่เชื่อในกระแสข่าวที่ว่ามีการสั่งให้ตำรวจเลือกผู้สมัครหมายเลข 9 เพราะตนเชื่อว่าตำรวจนั้นมีศักดิ์ศรีของตำรวจเอง
