xs
xsm
sm
md
lg

จาก ยุทธ ตู้เย็น ถึง เอี้ยง ป่าไม้

เผยแพร่:   โดย: บัณรส บัวคลี่

เรื่องราวของชาวเชียงรายไม่ได้จบแค่เรื่องยุทธ ตู้เย็น ขึ้นศาลคดีซุกหุ้นหรอกนะครับ

หมดจากตู้เย็นแล้วยังมีกรณีของ เอี้ยง ป่าไม้ อีกคนหนึ่งเพราะข่าวเรื่องการบุกรุกป่าแม่สลอง ป่ากิ่วทัพยั้งเขตป่าเขาอุดมสมบูรณ์ถูกเพื่อนสื่อนำเสนอตีแผ่อย่างต่อเนื่องมาร่วมเดือนแล้ว เอเอสทีวี-ผู้จัดการเสียอีกที่แห่ตามขบวนเขามาห่าง ๆ ...แต่แท้จริงนั้นเคยเปิดประเด็นนี้แล้วพลาดท่าถูก เสี่ยเอี้ยง-ดำรงค์ พิเดช ฟ้องเสียหัวทิ่ม

การเปิดประเด็นขบวนการงาบป่าเชียงรายรอบนี้ คงไม่เป็นมวยล้มเหมือนยุคแรก ๆ ที่พอคดีเดินหน้าไปได้ก็สะดุดอำนาจคนที่เกี่ยวข้องถูกเด้งระนาว จำได้ว่า ในยุคที่ฯพณฯ ทั่นยงยุทธ นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีเมื่อ 11 มีนาคม 2548 วันเดียวกับที่รีบร้อนโอนหุ้นให้น้องเมียถือเป็นช่วงที่เกิดการกระเพื่อมในวงการป่าไม้-กรมอุยานฯ มากที่สุด เพราะพะนะทั่นจับเสี่ยเอี้ยง ข้ามฟากจากรองอธิบดีกรมป่าไม้ มาใหญ่บะเริ่มเทิ่มที่กรมอุทยานฯ ต่อจากนั้นก็ลงนามย้ายล้างบางเป็นร้อย ๆ ตำแหน่ง

คดีบุกรุกป่าแม่สลอง ซึ่งถือเป็นคดีที่น่าเกลียดมากรัฐบาลเคยใช้เงินหลวงไปปลูกป่า ไม้มีค่าทั้งนั้นที่ฟูมฟักขึ้นมาปรากฏจู่ ๆ ก็มีขบวนการทำให้กลายเป็นที่โฉนด เอาเข้าแบงก์ทันควันและไถ่ถอนออกมากลายเป็นที่ดินของบริษัทใหญ่โตจากกรุงเทพฯ เสร็จแล้วยังไม่พอชงเรื่องให้กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นสวนป่าเอกชน

ขบวนการนี้ได้หลายเด้ง เด้งแรกเอาที่หลวงมาเป็นที่โฉนดของตัวเอง

เด้งสองได้เงินอุดหนุนจากรัฐไปฟรี ๆ ก้อนใหญ่จากการที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ (ซึ่งรองเอี้ยงน่าจะจำได้ว่าใครเอ่ย?) ขึ้นทะเบียนเป็นสวนป่า

เด้งสาม เอาไม้หลวงที่ใช้เงินภาษีปลูกขึ้นมาหลายปี มาใช้กลายเป็นไม้ของตัวเอง ราคาไม้มีค่าเหล่านี้หลายตังค์โขอยู่

นี่เป็นขบวนการรุกป่าที่ใช้กลอุบายหลากหลายทั้งเทคนิคด้านกฎหมาย เทคนิคการเงิน ประสานอำนาจจากฝ่ายต่าง ๆ ทั้งที่ดิน-ป่าไม้และทุนหาประโยชน์ พอเรื่องใหญ่ขึ้นมายังอำนาจการเมืองเด้งคนที่ทำงานสอบสวนเรื่องไปหมกไว้อีก

กรมอุทยานฯ ยุค ตู้เย็น-เสี่ยเอี้ยง คุมอยู่นั้นหวือหวามาก จำได้ว่าตอนที่มีรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรสวนลุมใหม่ ๆ นั้นประเดี๋ยวก็มีข่าวมาแล้วว่า เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่โน่นนี่ได้รับคำสั่งไปลุยกรุงเทพฯ ต้องคอยตรวจสอบว่าจะเคลื่อนเมื่อไหร่ที่ไหน

เจ้าหน้าที่ป่าไม้-อุทยานฯ จึงกลายเป็นกองกำลังของนักการเมืองไปเสียฉิบ !

จำเก่งกาจ ศรีหาสาร ป่าไม้ที่โผล่ไปพร้อมชาวบ้านเชียงรายแล้วมีเหตุปาประทัดยักษ์ที่สวนลุมได้ใช่ไหม ตำรวจจับนายนี้ได้แล้วปล่อยไป ต่อมานายคนนี้ก็ฟ้องหมิ่นประมาทคุณสนธิ ถูกศาลเชียงรายตัดสินจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญาได้ใช่ไหมครับ

เก่งกาจ ศรีหาสาร โผล่ไปทุกที่ทั้งบ้านทั่นเอี้ยง ทั่นยุทธ เป็นป่าไม้ระดับ 6 เมื่อปี 2539 ไต่เต้ามาได้ดีเป็นซี 7 ในยุครมว.ทรัพยากรชื่อยงยุทธ เมื่อ 6 พ.ค.2548 ระดับเงินเดือน 29,190 บาทและแล้วพอทั่นเอี้ยงเป็นอธิบดี ก็พรวดขึ้นเป็นซี 8 ใหญ่โตคุมหน่วยปราบปรามป่าไม้ภาค 3 ทั้งภาคเมื่อ 7 ตุลาคม 2548 ปีเดียวกันเงินเดือนกว่า 3 หมื่น

ถ้าไม่เก่งโคตร ก็อุ้มกันโคตร ๆ เลย !!

นายเก่งกาจ คนนี้จึงโผล่ไปที่สวนลุมในเดือนธันวาคม พร้อมกับขบวนชาวบ้านแม่จันและป่าไม้ชายฉกรรจ์นั่นไง

ได้เห็นต้นฉบับรายงานของทีมข่าวที่ได้ไปติดตามเรื่องรุกป่าเชียงรายแล้ว ทำให้นึกถึงตู้เย็น กับ เสี่ยเอี้ยงขึ้นมาแบบอดใจไม่พูดถึงไม่ได้

คดีป่าเชียงราย แบ่งเป็นเรื่องป่าแม่สลอง กับ ป่ากิ่วทัพยั้ง แต่ละเรื่องมีรายละเอียดต่างกันบ้างแต่ที่สุดรวบอยู่ที่ประเด็นเดียวคือ อำนาจกับผลประโยชน์

เรื่องของป่ากิ่วทัพยั้งเป็นเรื่องที่คนป่าไม้และคนเชียงรายรู้ดี พูดกันมานานว่า ข้าราชการใหญ่คนหนึ่งไปมีที่สวนสวยงามอยู่ในเขตแม่ข้าวต้ม ติดสวนป่ากิ่วทัพยั้ง ชาวบ้านเห็นรถป่าไม้แล่นเข้าออกประจำ

พอข้าราชการใหญ่คนนี้ย้ายเข้ากรุงเทพฯ ระหว่าง 46-47 ใครเล่าจะคิดว่า รัฐมนตรีว่าการคนต่อไปจะชื่อยงยุทธ และอธิบดีกรมอุทยานฯ จะชื่อ ดำรงค์ พิเดช

ข้าราชการเขาก็ทำหน้าที่ของเขา ตรวจสอบแนวป่าก็พบว่ามีที่แปลงหนึ่งบุกรุก สอบแนวเขตแล้วเชื่อได้ว่าอยู่ในป่าสงวนจริงจึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

แต่พอฟ้าเปลี่ยน รัฐมนตรีบ้านอยู่เชียงราย อธิบดีก็บ้านอยู่เชียงราย สวนแห่งนี้จึงดูใหญ่โตขึ้นแถมชาวบ้านแม่ข้าวต้มยังเรียกชื่อสวนที่รุกป่าแปลงดังกล่าวว่า สวนหัวหน้าเอี้ยงด้วย (เอี้ยงคนเดียวกับอธิบดีหรือเปล่าก็ไม่รู้ต้องไปถามชาวบ้านเอาเอง)

คดีนี้จึงถูกเล่ห์กลของราชการ รื้อรายละเอียดใหม่เสียเละเทะ ขนาดว่าไปงัดเอาคนที่ตายเมื่อปี 2540 มาสวมเป็นผู้ครอบครองที่รุกป่าก็ทำ

โห ! นายแน่มาก คนครอบครองตายเมื่อปี 40 แต่สวนยังคงสวยงามได้รับการดูแลรักษาบำรุงเสมอมา สงสัยวิญญาณผู้ตายเฮี้ยนมากไม่ไปไหนยังคงทำสวนอยู่ต่อจนถึงปี 2550

ขบวนการนี้ยิ่งใหญ่มากเพราะเรื่องถูกเป่าไปตามระเบียบสบายใจคนโตเชียงรายไป จนกระทั่งมีการรื้อใหม่รอบนี้

อีกเรื่องคือป่าแม่สลองที่ได้เกริ่นไปแล้ว ขออย่าพลาดเพราะได้ทราบจากทีมข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจลงลึกละเอียดถึงชาวบ้านรอบ ๆ พื้นที่ซึ่งมีชื่อในโฉนดว่าถูกหยิบชื่อไปอ้างออกโฉนดกันแบบไหน

อ่านในข่าวพบว่า ทั่นดำรงค์ พิเดช ออกมาบอกกับสื่อว่า ลงนามเซ็นให้เป็นสวนป่าเพราะเขามีเอกสารถูก เรื่องส่งมาเป็นลำดับชั้น ตนก็เลยลงนาม

ทั่นดำรงค์ พิเดช ที่ปัจจุบันเป็นรองปลัดกระทรวงฯ เคยทำงานในพื้นที่เชียงรายมายาวนาน ไม่เคยพบเลยหรือครับว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้เชียงรายหลายระดับขาทำเรื่องนี้มายาวนาน ตั้งแต่ปี 30 กว่า ๆ เรื่อยมา มีเอกสารเรื่องราวป็นแฟ้ม ๆ คนที่ทำงานป่าไม้เชียงรายก่อนปี 2544 แทบทุกคนจะรู้เรื่องของป่าแม่สลองดีว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร

ทั่นไม่เคยผ่านตาหรือเอะใจเลยหรือ ?

เขาวิจารณ์ว่าคนอุทยานฯ งัดเรื่องนี้มาเล่นเพราะต้องการสกัดทั่นเอี้ยงไม่ให้นั่งปลัดกระทรวงฯ โถ ! ช่างเป็นเล่ห์กลที่ชั่วร้ายนักทำกับคนดี ๆ ได้ลงคอ

ฝ่ายที่หนุนหลังทั่นเอี้ยงมั่นใจว่านี่เป็นการเตะสกัดขา หากไม่มีข่าวเรื่องนี้รัฐบาลประชาธิปัตย์จะไฟเขียวให้ทั่นเอี้ยงขึ้นปลัดกระทรวง หรือส่งกลับเป็นอธิบดี ฮา ๆ ๆ ๆ .... ขำกลิ้งลิงกับแมวว่ะ !!!
กำลังโหลดความคิดเห็น