xs
xsm
sm
md
lg

หมากที่น่ากลัว : พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ

เผยแพร่:   โดย: บัณรส บัวคลี่

หมากตานี้ถูกต้องทั้งจังหวะ-เวลา เป็นกระบวนท่าที่น่ากลัวมากที่สุดในรอบสองเดือนของเครือข่ายอำนาจชินวัตร

อันที่จริงเคยมีการเสนอให้ใช้กฎหมายนิรโทษกรรม ทักษิณ + 111 ในยุคที่สมัคร-สมชาย ครองอำนาจพรรคพลังประชาชน ซึ่งนั่นก็เป็นแค่ความเป็นไปได้ในทางทฤษฎีบนฐานความเชื่อว่ากุมเสียงข้างมากในสภาแถมพรรคร่วมรัฐบาลล้วนแต่เป็นนอมินีของชาว 111 แทบทั้งนั้น แต่เมื่อพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมเวลานั้นที่มีการชุมนุมของพันธมิตรฯ กระแสสังคมไม่เอาด้วย สังคมไม่ไว้ใจสถานะของความเป็นรัฐบาลที่ข่ายอำนาจชินวัตรยึดกุมทั้งอำนาจบริหารและนิติบัญญัติอยู่แล้วยังจะได้คืบเอาศอกเสนอกฎหมายยกโทษอีก ฯลฯ

แม้มีเสียงข้างมากแต่จังหวะ-เวลา ไม่ได้ !

มาถึงวันนี้ พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นเสียงข้างมากในสภา บรรดาพรรคร่วมเดิมหันมาจับมือกับประชาธิปัตย์ แต่กลับเป็นจังหวะ และโอกาสที่เหมาะสมที่จะเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในชื่อของการปรองดองแห่งชาติ

ปัจจัยสนับสนุนประการแรก – เวลานี้คนที่ถูกขังคุกทางการเมืองไม่ได้มีแค่ 111 เหมือนเมื่อปี 2551 แต่ยังมีกลุ่ม 109 ที่มีชื่อของบรรหาร ศิลปะอาชา รวมอยู่ด้วย แถมยังเป็นบรรหาร ที่ประกาศด้วยเสียงเจือแค้นว่าจะกลับมาเล่นการเมืองเมื่ออายุปาเข้า 80 ในบรรดาพรรคร่วมทั้งหมดไม่มีกลุ่มไหนเลยที่ไม่เป็นนอมินีของชาว 111 + 109 ปัจจัยภายในของวงการการเมืองเอื้อให้ข้อเสนอนี้มีพลังอย่างยิ่ง

ประการสอง – พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล ไม่กุมอำนาจบริหาร ไม่ได้เป็นเสียงข้างมากในฝ่ายนิติบัญญัติ ความแคลงใจของสังคมต่อเรื่องการสมคบกันกุมอำนาจรัฐและใช้อำนาจในทางมิชอบลดลงหากเทียบกับการเสนอในช่วงที่เป็นรัฐบาล

ประการสาม – เป็นหมากที่ไม่มีผลลบตีกลับในทางการเมือง มีแต่จะได้มากหรือน้อยเท่านั้นเลวที่สุดแค่เสมอตัว หากเสนอในช่วงที่ตนเป็นรัฐบาลหากพรรคร่วมทนกระแสกดดันไม่ได้เสียงอาจจะไม่พอ หรือนำมาซึ่งความแตกแยกในรัฐบาล แต่นี่เป็นการเสนอผลประโยชน์ให้กับพรรคร่วมของรัฐบาลประชาธิปัตย์ หากว่ามีเสียงแตกออกมา หรือแค่เกิดการไม่เห็นพ้องระดับเล็ก ๆ ถือเป็นรอยแยกในการดำเนินการรุกต่อไปได้

แม้กฎหมายไม่ผ่านแต่เกิดรอยแยกในกลุ่มศัตรู ย่อมถือเป็นความสำเร็จได้ !

หมากดังกล่าวจึงสอดคล้องตามหลักพิชัยสงครามซุนวู ที่ว่า ยุทธการที่เลวที่สุดคือการยกกำลังตีเมืองเพราะอีกฝ่ายอยู่ในชัยภูมิตั้งรับเหมาะสมต้องใช้ไพร่พลเข้าแลก ยุทธการเลวน้อยลงมาคือการใช้กำลังห้ำหั่น การพิชิตศึกที่ล้ำเลิศที่สุดคือพิชิตด้วยกลอุบาย รองลงมาคือด้วยการทูต

ระยะสองเดือนที่ผ่านมา แนวทางการต่อสู้ของเครือข่ายอำนาจชินวัตรจัดเป็นยุทธการชั้นเลว แนวทางของจตุพร-ณัฐวุฒิยิ่งทำไปยิ่งไร้หวังกับการช่วงชิงอำนาจคืน จตุพรเสียสุนัขทางการเมืองหลายรอบเอาเรื่องเท็จประโคมเป็นจริง ขาดภาวะผู้นำ เกมมวลชนบนท้องถนนสะเปะสะปะมาตลอดสองเดือน ขณะที่เกมการเมืองในสภาไปเชื่อคนอย่างปลอดประสพ เอาคนนอกสภามานั่งหัวหน้าพรรคแยกทีมบริหารพรรคกับสภาฯ แก้ปมยุบพรรค แต่สร้างปมใหม่หลังเป็นฝ่ายค้าน พรรคหาหัวที่แท้จริงไม่ได้ ส.ส.ระส่ำระสาย ต่างคนต่างใช้ยุทธวิธี ..เฉลิม ไปอย่าง วิปรัฐบาลไปอย่าง ไม่ประสานกัน

ถ้ายึดตามตำราซุนวู ยุทธการของสามเกลอหัวขวด รวมทั้งการเคลื่อนไหวของเสื้อแดงน้อยใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา ล้วนแต่เป็นยุทธการชั้นเลวทั้งสิ้น

เพิ่งจะมีคราวนี้แหละที่ใช้กลยุทธ์ แฝงด้วยอุบาย ปล่อยออกมาในจังหวะเวลาเหมาะสม เพราะเป็นช่วงก่อนที่จะตัดสินใจยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เป็นหมากที่มุ่งตอกลิ่มลงไปในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล แม้ประชาธิปัตย์จะรู้ทันและออกมาตีกันว่าไม่มีผลต่อพรรคร่วมรัฐบาล แต่แท้จริงแล้วไม่ว่าใครก็ยังไม่อาจจะตอบได้จริงว่ามีผลสะเทือนระดับใด

หากพรรคเพื่อไทยคิดจะกลับมาอยู่ในเกม ยังคงเป็นพรรคการเมืองที่มีพลังมีน้ำหนักต่อกรกับรัฐบาลข้อเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในนามของการปรองดองแห่งชาติอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญได้ !

ระยะที่ผ่านมา เครือข่ายชินวัตรพ่ายแพ้-หลงทางในแทบทุกด้าน ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศกลับมาล้อมตัวทักษิณเอง แพ้เกมในสภากลายเป็นฝ่ายค้านที่หาหัวไม่ได้ กระแสสังคมไม่เอาด้วยโดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของเสื้อแดงอันธพาล สีแดงกลายเป็นสีของอันธพาลยังไม่พอยังตอกย้ำด้วยแกนนำที่ขึ้นเวทีบางคนประกาศตนเป็นกบฏล้มล้างสถาบันกษัตริย์คิดจะสถาปนาสาธารณรัฐ กลายเป็นสีแดงที่เป็นปฏิปักษ์กับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นสีล้มสถาบันอย่างชัดเจนไปแล้ว

ที่ยังหลงเหลืออยู่ จึงมีเพียงความมุ่งมั่นผสมความคั่งแค้นของทักษิณ ชินวัตร ผู้ประกาศจะกลับมาตายรังและยังพุ่งเป้าไปที่ภาคอีสานฐานเสียงหลัก มวลชนคนเสื้อแดงจึงยังเป็นทัพที่ทักษิณฝากความหวังไว้สำหรับแนวรุกบนท้องถนน

สำหรับเกมการเมืองในระบบ แม้เวลานี้จะยังหาหัวไม่ได้แต่ดูแนวโน้มแล้วทักษิณกำลังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ โอฬาร ไชยประวัติ หลวมตัวเข้ารับตำแหน่งรองนายกฯ แบบมีเงื่อนไขมาแล้วรอบหนึ่งเวลานี้อยู่ระหว่างการถูกจีบให้นำทัพพรรคคนรักทักษิณอีกรอบ

พี่น้องชินวัตรหักดิบเฉลิม อยู่บำรุงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจส่งสัญญาณดึงอำนาจตัดสินใจทุกอย่างในพรรคกลับมากุมไว้ไม่ปล่อยขุนพลน้อยใหญ่ทำศึกสะเปะสะปะเหมือนเคย และกำลังมีการต่อสายประสานความเข้าใจกับบรรดาแกนนำดั้งเดิมที่ลดบทบาทลง เช่น ยุทธ ตู้เย็น เป็นต้น

มีความพยายามอย่างชัดเจนว่าพี่น้องชินวัตรอยากจะกลับมาสู่เกมในสภา สร้างพลังต่อรองของฝ่ายตนภายในการเมืองในระบบควบคู่กับการเมืองบนท้องถนน

ข้อเสนอเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในนามของความปรองดอง อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญได้หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่เตรียมรับมือให้ดี โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับการเจรจาแบบลึกซึ้งกับพรรคร่วมรัฐบาล !
กำลังโหลดความคิดเห็น