พล.ต.อ. สล้าง บุนนาค “คนไร้ราคา” ของเวทีพันธมิตรฯ จะแสดงจำอวดตลกการเมืองไปอีกกี่กระบวนท่าก็จะไม่ว่าอะไรเลยเพราะที่ผ่านมาก็เรียกแขกให้พันธมิตรฯ ได้โขแล้ว
จะระดมทัพใหญ่ปิดล้อมทำเนียบได้จริง หรือเป็นแค่ปาหี่ตบทรัพย์ก็ทำไปสิ อย่างน้อยมันก็เป็นสีสันของการเมือง เพราะที่สุดแล้วใครทำอะไรไว้ที่สุดผู้นั้นก็จะได้รับผลของการกระทำนั้นด้วยตัวของเขาเอง
เรื่องบุกทำเนียบจะเป็นโจ๊กหรือเป็นจริง วางไว้ก่อนเพราะเวลาจะเป็นตัวพิสูจน์เอง
ที่เร่งด่วนกว่าและเกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.สล้าง โดยตรงคือ พิธีกรรมที่จะจัดในวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เรียกว่างานทำบุญประเทศ อัญเชิญเหรียญพระบิดาแห่งฝนหลวงประดิษฐาน ณ พระแท่นแก้ว บริเวณหน้าพื้นที่แสดงงานพืชสวนโลก
เหรียญดังกล่าวเป็นข่าวมาก่อนหน้าในคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.สล้าง ระหว่างที่ประกาศบุกทำเนียบ เพราะมีการเปิดประเด็นว่ากำลังตามหาเหรียญที่หายคือ เหรียญพระบิดาฝนหลวง ซึ่งหายไปตั้งแต่งานพืชสวนโลกเมื่อเดือนมกราคม 2550
นี่เป็นประเด็นสำคัญเพราะพล.ต.อ.สล้าง ให้สัมภาษณ์เต็มปากเต็มคำผ่านรายการ “จุดชนวนข่าว” ทางคลื่นวิทยุ 105 ก่อนวันงานบุญใหญ่ที่ลานพระรูปวันเดียว บอกว่า คนที่อยู่เบื้องหลังทำให้เหรียญดังกล่าวหายไปก็คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
มาดูหลักฐานคำต่อคำดีกว่า........
ถาม : หายไปอย่างไงครับ?
พล.ต.อ.สล้าง : คือไปเข้าใจว่า คุณทักษิณเป็นผู้สร้าง งานเนี่ยแสดงมา 28 วันแล้วอีก 2-3 วันจะเลิกงานอยู่แล้วคนเข้าไปชมจะ 3 ล้านคนแล้ว
ถาม : หายในช่วง คมช. ครองอำนาจอยู่รึป่าว
พล.ต.อ.สล้าง : เป็นมา 40 กว่าวันแล้ว
ถาม-แจ้งความหรือยังครับ
พล.ต.อ.สล้าง : ผมไปแจ้งมาแล้วไปมาทั้งคณะ
ถาม : คดียังไม่คืบหน้า?
พล.ต.อ.สล้าง : ผมไม่อยากให้ท่านลงไป ผมบอกว่าผมจะไปแจ้งเอง คือหม่อมเจ้าทองคำเปลว ทองใหญ่ เจ้านายอาวุโส อันดับสองรองจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้นำไปแจ้ง นายเจริญจิต ณ สงขลา อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และก็ พล.ท ทองสุก บุตรสาย เป็นราชองค์รักษ์ของสมเด็จย่า เป็นคนแรกและคนสุดท้าย ร่วมไปแจ้งความด้วย ตอนนี้ผมได้เร่งรัด ด้วยพยานแวดล้อมเราเชื่อได้ปราศจากข้อสงสัยว่า เป็นการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่าง พล.อ เปรม กับ พล.อ สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผมจึงได้เร่งรัดให้ไปสอบสวน
…………..
พล.ต.อ.สล้าง ฝังอกฝังใจกับเหรียญพระบิดาฝนหลวง มาเกือบ 2 ปีเต็ม จนที่สุดก็อุตส่าห์พยายามสานเรื่องนี้ต่อ
มาถึงตอนนี้ พล.ต.อ.สล้าง ก็หาเหรียญเจอแล้ว อันที่จริงใช้คำว่าเหรียญอาจจะเข้าใจผิดได้เพราะสิ่งที่หายไปไม่ใช่เหรียญบาท เหรียญห้า หากเป็นประติมากรรมทรงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 2 เมตร ....ใหญ่มาก และมีกำหนดจะเชิญเหรียญดังกล่าวประดิษฐานกลับไปไว้ใหม่
ผมนั้นอยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์ที่เชียงใหม่เมื่อเดือนมกราคม 2550 ...อย่างน้อยก็ทราบเรื่องราวระหว่างวันที่เหรียญถูกถอด อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โทรฯ มาถามเพื่อรายงานคุณสนธิต่อ ผมก็เล่าไปโดยละเอียดว่า ไม่ได้หาย ! แต่เป็นการจงใจถอดออกไปเก็บของคณะทำงานจัดงาน ด้วยความไม่เหมาะควรในบางประการ
ศัพท์ที่ใช้ว่า “เหรียญเปลือย” นั้น เป็นคำในวงการ อธิบายง่าย ๆ ว่า เป็นศิลปะที่เลียนมาจากศิลปะกรีก ปั้นแค่ส่วนศีรษะ ไม่มีช่วงไหล่-ลำตัว หรือเครื่องแต่งกาย
เหรียญพระบิดาฝนหลวง สร้างขึ้นจากศิลปะแบบเหรียญเปลือยนี่แหละครับ ... กล่าวให้สรุปรวบรัดว่าเป็นภาพเฉพาะพระเศียร ไม่มีเครื่องทรง
จนกระทั่งวันหนึ่งมีเจ้านายองค์หนึ่งเสด็จไปทอดพระเนตร ก็ทรงมีดำรัสกับเจ้าหน้าที่คณะกรรมการจัดงาน
จึงนำมาสู่การถอดเหรียญไปเก็บไว้ดังกล่าว !
ผมมีรายละเอียดมาก แต่ไม่สามารถอธิบายลึกลงไปได้ เอาเป็นว่า เหรียญเมื่อต้องแสงไฟสปอตไลท์แล้ว ดูไม่งามอย่างยิ่ง !
ผมไม่ทราบว่า พล.ต.อ.สล้าง ทราบรายละเอียดเรื่องนี้หรือไม่.. ไม่ทราบหรือแกล้งไม่รู้ !!? เพราะคนทั่วไปเขาทราบกันดีว่า ไม่ได้หาย แต่เป็นการเอาไปเก็บ มีที่มาที่ไป แต่ พล.ต.อ.สล้าง ให้สัมภาษณ์ซัดไปยัง พล.อ.เปรม และ พล.อ.สุรยุทธ์ โดยตรง
ผมเข้าใจว่า ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านคงไม่ลงมาตอบโต้ พล.ต.อ.สล้าง หรอก แต่ก็ควรมีผู้ใหญ่ท่านอื่นเช่น อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร อดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ ควรออกมาอธิบายความให้สังคมทราบ รวมถึง อธิบายความเหมาะควรที่เป็นเหตุผลสำคัญในการถอดเก็บให้กับ พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค ได้พึงสังวร
ถ้าไม่พึงสังวร ก็ควรพึงสำเหนียก !!!!
มีข่าวของเรื่องนี้หลายชิ้นในยุคนั้นรวมทั้งข่าวของเครือผู้จัดการ แต่เกรงว่า หลายท่านอาจจะมองว่าไม่เป็นกลางพูดเองเออเอง จะขอยกข่าวเก่าของนสพ. ข่าวสด อังคาร ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2550 ซึ่งถูกเวทีพันธมิตรฯมองว่าไม่เข้าข้างสีเหลืองให้อ่านประกอบ เป็นข้อมูลล้อมกรอบก็แล้วกัน
เชิญอ่าน และ พิจารณา ด้วยความพินิจ
และถ้าใครรู้จัก พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค ช่วยเอาไปให้แกอ่านประดับความรู้ด้วยนะครับ
........................
จะระดมทัพใหญ่ปิดล้อมทำเนียบได้จริง หรือเป็นแค่ปาหี่ตบทรัพย์ก็ทำไปสิ อย่างน้อยมันก็เป็นสีสันของการเมือง เพราะที่สุดแล้วใครทำอะไรไว้ที่สุดผู้นั้นก็จะได้รับผลของการกระทำนั้นด้วยตัวของเขาเอง
เรื่องบุกทำเนียบจะเป็นโจ๊กหรือเป็นจริง วางไว้ก่อนเพราะเวลาจะเป็นตัวพิสูจน์เอง
ที่เร่งด่วนกว่าและเกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.สล้าง โดยตรงคือ พิธีกรรมที่จะจัดในวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เรียกว่างานทำบุญประเทศ อัญเชิญเหรียญพระบิดาแห่งฝนหลวงประดิษฐาน ณ พระแท่นแก้ว บริเวณหน้าพื้นที่แสดงงานพืชสวนโลก
เหรียญดังกล่าวเป็นข่าวมาก่อนหน้าในคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.สล้าง ระหว่างที่ประกาศบุกทำเนียบ เพราะมีการเปิดประเด็นว่ากำลังตามหาเหรียญที่หายคือ เหรียญพระบิดาฝนหลวง ซึ่งหายไปตั้งแต่งานพืชสวนโลกเมื่อเดือนมกราคม 2550
นี่เป็นประเด็นสำคัญเพราะพล.ต.อ.สล้าง ให้สัมภาษณ์เต็มปากเต็มคำผ่านรายการ “จุดชนวนข่าว” ทางคลื่นวิทยุ 105 ก่อนวันงานบุญใหญ่ที่ลานพระรูปวันเดียว บอกว่า คนที่อยู่เบื้องหลังทำให้เหรียญดังกล่าวหายไปก็คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
มาดูหลักฐานคำต่อคำดีกว่า........
ถาม : หายไปอย่างไงครับ?
พล.ต.อ.สล้าง : คือไปเข้าใจว่า คุณทักษิณเป็นผู้สร้าง งานเนี่ยแสดงมา 28 วันแล้วอีก 2-3 วันจะเลิกงานอยู่แล้วคนเข้าไปชมจะ 3 ล้านคนแล้ว
ถาม : หายในช่วง คมช. ครองอำนาจอยู่รึป่าว
พล.ต.อ.สล้าง : เป็นมา 40 กว่าวันแล้ว
ถาม-แจ้งความหรือยังครับ
พล.ต.อ.สล้าง : ผมไปแจ้งมาแล้วไปมาทั้งคณะ
ถาม : คดียังไม่คืบหน้า?
พล.ต.อ.สล้าง : ผมไม่อยากให้ท่านลงไป ผมบอกว่าผมจะไปแจ้งเอง คือหม่อมเจ้าทองคำเปลว ทองใหญ่ เจ้านายอาวุโส อันดับสองรองจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้นำไปแจ้ง นายเจริญจิต ณ สงขลา อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และก็ พล.ท ทองสุก บุตรสาย เป็นราชองค์รักษ์ของสมเด็จย่า เป็นคนแรกและคนสุดท้าย ร่วมไปแจ้งความด้วย ตอนนี้ผมได้เร่งรัด ด้วยพยานแวดล้อมเราเชื่อได้ปราศจากข้อสงสัยว่า เป็นการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่าง พล.อ เปรม กับ พล.อ สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผมจึงได้เร่งรัดให้ไปสอบสวน
…………..
พล.ต.อ.สล้าง ฝังอกฝังใจกับเหรียญพระบิดาฝนหลวง มาเกือบ 2 ปีเต็ม จนที่สุดก็อุตส่าห์พยายามสานเรื่องนี้ต่อ
มาถึงตอนนี้ พล.ต.อ.สล้าง ก็หาเหรียญเจอแล้ว อันที่จริงใช้คำว่าเหรียญอาจจะเข้าใจผิดได้เพราะสิ่งที่หายไปไม่ใช่เหรียญบาท เหรียญห้า หากเป็นประติมากรรมทรงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 2 เมตร ....ใหญ่มาก และมีกำหนดจะเชิญเหรียญดังกล่าวประดิษฐานกลับไปไว้ใหม่
ผมนั้นอยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์ที่เชียงใหม่เมื่อเดือนมกราคม 2550 ...อย่างน้อยก็ทราบเรื่องราวระหว่างวันที่เหรียญถูกถอด อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โทรฯ มาถามเพื่อรายงานคุณสนธิต่อ ผมก็เล่าไปโดยละเอียดว่า ไม่ได้หาย ! แต่เป็นการจงใจถอดออกไปเก็บของคณะทำงานจัดงาน ด้วยความไม่เหมาะควรในบางประการ
ศัพท์ที่ใช้ว่า “เหรียญเปลือย” นั้น เป็นคำในวงการ อธิบายง่าย ๆ ว่า เป็นศิลปะที่เลียนมาจากศิลปะกรีก ปั้นแค่ส่วนศีรษะ ไม่มีช่วงไหล่-ลำตัว หรือเครื่องแต่งกาย
เหรียญพระบิดาฝนหลวง สร้างขึ้นจากศิลปะแบบเหรียญเปลือยนี่แหละครับ ... กล่าวให้สรุปรวบรัดว่าเป็นภาพเฉพาะพระเศียร ไม่มีเครื่องทรง
จนกระทั่งวันหนึ่งมีเจ้านายองค์หนึ่งเสด็จไปทอดพระเนตร ก็ทรงมีดำรัสกับเจ้าหน้าที่คณะกรรมการจัดงาน
จึงนำมาสู่การถอดเหรียญไปเก็บไว้ดังกล่าว !
ผมมีรายละเอียดมาก แต่ไม่สามารถอธิบายลึกลงไปได้ เอาเป็นว่า เหรียญเมื่อต้องแสงไฟสปอตไลท์แล้ว ดูไม่งามอย่างยิ่ง !
ผมไม่ทราบว่า พล.ต.อ.สล้าง ทราบรายละเอียดเรื่องนี้หรือไม่.. ไม่ทราบหรือแกล้งไม่รู้ !!? เพราะคนทั่วไปเขาทราบกันดีว่า ไม่ได้หาย แต่เป็นการเอาไปเก็บ มีที่มาที่ไป แต่ พล.ต.อ.สล้าง ให้สัมภาษณ์ซัดไปยัง พล.อ.เปรม และ พล.อ.สุรยุทธ์ โดยตรง
ผมเข้าใจว่า ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านคงไม่ลงมาตอบโต้ พล.ต.อ.สล้าง หรอก แต่ก็ควรมีผู้ใหญ่ท่านอื่นเช่น อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร อดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ ควรออกมาอธิบายความให้สังคมทราบ รวมถึง อธิบายความเหมาะควรที่เป็นเหตุผลสำคัญในการถอดเก็บให้กับ พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค ได้พึงสังวร
ถ้าไม่พึงสังวร ก็ควรพึงสำเหนียก !!!!
มีข่าวของเรื่องนี้หลายชิ้นในยุคนั้นรวมทั้งข่าวของเครือผู้จัดการ แต่เกรงว่า หลายท่านอาจจะมองว่าไม่เป็นกลางพูดเองเออเอง จะขอยกข่าวเก่าของนสพ. ข่าวสด อังคาร ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2550 ซึ่งถูกเวทีพันธมิตรฯมองว่าไม่เข้าข้างสีเหลืองให้อ่านประกอบ เป็นข้อมูลล้อมกรอบก็แล้วกัน
เชิญอ่าน และ พิจารณา ด้วยความพินิจ
และถ้าใครรู้จัก พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค ช่วยเอาไปให้แกอ่านประดับความรู้ด้วยนะครับ
........................
แจ้งป.เหรียญโชว์พืชสวนโลกหาย โดย ข่าวสด วัน อังคาร ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2550 08:01 น หายไปไหน - ม.จ.ทองคำเปลว ทองใหญ่ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิเทิดพระเกียรติ และคณะ เข้าแจ้งความกองปราบฯ พร้อมโชว์ภาพหลักฐาน เหรียญพระบิดาฝนหลวง เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.99 เมตร ที่ตั้งอยู่ในงานพืชสวนโลก ถูกรื้อถอนไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 29 ม.ค.ที่กองปราบปราม ม.จ.ทองคำเปลว ทองใหญ่ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิเทิดพระเกียรติ พร้อมด้วยนายเจริญจิตต์ ณ สงขลา ประธานมูลนิธิเทิดพระเกียรติ พล.ท.ทองสุก บุษสาย ราชองครักษ์พิเศษ และพล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอ.ตร. เข้าร้องทุกข์ต่อพล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.ป. เพื่อให้สืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการรื้อถอนประติมากรรมเหรียญพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านหลังมีภาพการทำฝนหลวง และเขียนคำว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระบิดาแห่งฝนหลวง ROYAL RAIN MAKING SINCE 1955 ที่ตั้งอยู่บริเวณสวนถวายพระพร ฝั่งตรงข้ามอาคารเอ็กซ์โป เซ็นเตอร์ ภายในงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.เชียงใหม่ ถูกรื้อถอนออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้มูลนิธิเทิดพระเกียรติได้รับความเสียหาย พล.ต.อ.สล้าง กล่าวว่า การจัดสร้างเหรียญดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอความร่วมมือมายังตนให้ให้ช่วยออกแบบจัดสร้างเหรียญแบบขยายส่วน เพื่อนำไปประดิษฐานในงานพืชสวนโลกที่จ.เชียงใหม่ ตนและมูลนิธิร่วมแรงร่วมใจกันจัดสร้างด้วยเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะแสดงความจงรักภักดี โดยใช้โลหะบรอนซ์เคลือบทองคำเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.99 เมตร ประดิษฐานบนแท่งแก้วหนัก 8 ตัน ใช้ชื่อว่า เหรียญพระบิดาฝนหลวง และเมื่อทำเสร็จแล้วก็นำไปประดิษฐานไว้ภายในงานเพื่อให้ประชาชนสักการบูชา พล.ต.อ.สล้าง กล่าวต่อว่า ต่อมาวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมาทราบข่าวจากพ.ต.ท.วัชรินทร์ เนียมวณิชกุล ข้าราชการตำรวจบำนาญว่าเหรียญพระบิดาฝนหลวงหายไป เบื้องต้นจากการสอบถามผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายแล้ว เกิดความสับสนหลายอย่าง จึงขอให้กองปราบปรามตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด เพราะการรื้อถอนและนำเหรียญไปเก็บไว้ในที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นการลบหลู่เบื้องสูงได้ จึงอยากให้สอบสวน และหากพบการกระทำผิดก็ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย เบื้องต้น พล.ต.ต.วรศักดิ์มอบหมายพ.ต.อ.ฉลองชัย บุรีรัตน์ รองผบก.ป. สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ไม่หาย- จุดประดิษฐานเหรียญพระบิดาแห่งฝนหลวงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.เชียงใหม่ มีพานพุ่มดอกไม้มาแทน จนถูกร้องเรียนรื้อถอนโดยพลการ นายอดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ออกมาชี้แจงว่าอัญเชิญเหรียญไปแก้ไขใหม่ให้เหมาะสม วันเดียวกัน นายอดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ผู้รับผิดชอบงานมหกรรมพืชสวนโลก ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ได้อัญเชิญเหรียญดังกล่าวลงมาเพื่อปรับปรุงให้เกิดความเหมาะสม แล้วจะทำพิธีอัญเชิญขึ้นติดตั้งไว้เช่นเดิม ไม่ได้หายไปไหน เพราะการที่จะเคลื่อนย้ายหรือหากใครขโมยไปนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เพราะมีขนาดใหญ่ ซึ่งจะต้องใช้รถเครนยกไปเท่านั้น อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวต่อว่า การที่คณะทำงานในงานพืชสวนโลกสร้างเหรียญพระรูปพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อัญเชิญมาติดตั้งในงานพืชสวนโลกนั้น หลังจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จมาเที่ยวงานพืชสวนโลกแล้วทอดพระเนตรพบเห็น ทรงติเตือนถึงความเหมาะสม คณะทำงานจึงอัญเชิญลงมาในช่วงค่ำของวันเดียวกันนั้น ประกอบกับก่อนนั้นมีประชาชนจำนวนมากแสดงความเห็นเข้ามาว่าไม่เหมาะสมเช่นกัน คณะทำงานจึงต้องอัญเชิญลงมาปรับแก้เพื่อความเหมาะ |