เรามีนายกรัฐมนตรีที่พูดเท็จ หรือพูดอีกอย่างก็คือ “โกหก” แบบหน้าด้านๆ ให้ประชาชนได้รับฟังกันทั่วประเทศ
ที่ว่า “โกหก” แบบ “ด้านๆ ก็เพราะทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเรื่องจริงๆ มันเป็นอย่างไร แต่ก็ยังบิดเบือนจนได้ แต่การบิดเบือนนั้นมันน้อยเกินไปครับ แต่นายสมัคร สุนทรเวช นั้นยังบังอาจกระทำการอันมิบังควร อาจเอื้อม “ดึงฟ้าต่ำ” ด้วยการอ้างถึง “สถาบัน” โดยไม่ได้ละอายแก่ใจเลย
กรณีไหนหรือ
ก็กรณีป้ายสี ปปช.ไงครับ ว่า ปปช.นั้นไม่มีความชอบธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ โดยบอกว่าตนและ ครม.นั้น เข้าตามตรอกออกตามประตู แต่ปปช.นั้นแต่งตั้งโดย คมช. และไม่เคยได้ถวายสัตย์ปฏิญญาตนต่อในหลวงเหมือนพวกตนและ ครม. แต่ปฏิบัติหน้าที่เลย
โฆษก ปปช.คุณกล้าณรงค์ ก็ต้องเปิดเผยข้อเท็จจริงซึ่งคุณสมัครเองก็รู้ดีอยู่แล้ว จะว่าไม่รู้ไม่ได้ คุณสมัครนั้นนอกจากจะเป็นนักกฎหมายแล้ว แกยังเป็นคนรอบคอบกลัวการโดนโต้กลับ กลัวการเช็คบิลอย่างยิ่ง ดังนั้นก่อนพูดนี่แกหาข้อมูลมาแล้วครับ มีทีมงานนะครับ ตรวจสอบหลายตลบด้วย
คุณกล้าณรงค์อธิบายว่า เมื่อได้รับแต่งตั้งแล้ว ทาง ปปช.ก็ได้ทำหนังสือหารือและปรึกษาพร้อมทั้งถามไปยังสำนักราชเลขาธิการ ว่าทาง ปปช.นั้นจะถวายสัตย์ด้วยหรือไม่ ก็ได้รับคำชี้แจงและคำตอบว่า การแต่งตั้งนั้นโปรดเกล้าลงมาแล้ว และไม่ต้องถวายสัตย์อีกแต่ประการใด
นี่แหละครับความจริง
และนี่แหละ นายกรัฐมนตรีก็รู้ และยังกล้าโกหก อาจเอื้อมถึงเพียงนี้
สร้างความชอบธรรมให้ตนเองโดยบังอาจเช่นนี้ มีพฤติกรรมอย่างนี้นี่เองทำให้นายทหารระดับเทียบเท่าจอมพลอย่างพลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร ท่านทนไม่ไหว ต้องขึ้นเวทีพันธมิตรเรียกร้องให้ทหารของชาติ ออกมาสมทบกับผู้จงรักภักดีทั้งหลายช่วยกันต้านรัฐบาลที่บังอาจเช่นนี้เสียที
เอาไว้ได้อย่างไร
จักรภพและพวกไม่เคารพในโรงหนังก็หลายครั้งแล้ว
นี่ก็เป็นถึงนายกฯ ยังสวมรอยอีหรอบเดียวกันอีก
คนแบบนี้ในรัฐบาลน่าจะยังคงมีอีก เพียงแต่ยังไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาเท่านั้น
ผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เขาจึงต้องออกมาเคลื่อนไหว
แต่ก็มีคนซึ่งปิดหูปิดตาและคงมีจิตสำนึกโอหังบังอาจอีกกลุ่มหนึ่ง คอยราวีพันธมิตรแบบสถุลถ่อย
เช่นพวกเสื้อแดงที่เชียงใหม่ใช้วิธีการรุนแรง ปาไข่ ปาหิน ป่าอิฐ และขวดน้ำ ทำร้ายคนซึ่งเป็นผู้อภิปราย และผู้ฟังซึ่งอยู่ในระดับปัญญาชนทั้งนั้น
อสรกุ๊ยเหล่านี้ถูกเกณฑ์กันมาทั้งนั้นแหละเพื่อให้มาตอบโต้และเพื่อสร้างข่าวว่า พันธมิตรก็ถูกคนกลุ่มของเขาต้านเช่นกัน
นี่แหละครับ... เรื่องมันเป็นเช่นนี้
เป็นเรื่องของคนที่ชอบฟังแต่นิทานโหกจากลมปากของนายกฯ หุ่นเชิด ที่หมดความชอบธรรม ได้อำนาจแต่ปกครองประชาชนไม่ได้มานานแล้ว
เป็นนายกฯ ที่โดนคดีความมากที่สุด และโดนกล่าวหาข้ามประเทศในข้อสงสัยว่าอาจจะรับสินบนจากบริษัทญี่ปุ่นในขณะมีตำแหน่งสูงสุดในการบริหาร กทม.ด้วย
พูดง่ายๆ เป็นนายกรัฐมนตรีที่โดนคดีมากที่สุด
มัวหมองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่สุด
ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ว่าประเทศไหนเคยมีนายกฯ ที่มัวหมอง เสื่อมแบบนี้เลยครับ ทำให้การโกหกพกลมเป็นคุณสมบัติฉาบฉวยตามปกติของคนที่ปากไม่มีหูรูดและขาดความจริงใจในเรื่องความจงรักภักดี
ข้อเท็จจริงอีกอย่างหนึ่งก็คือ ครม.ที่ถวายสัตย์นั้นก็เพราะคำสัตย์ต่อในหลวงนั้นถือว่าศักดิ์สิทธิ์ และเมื่อสักแต่ถวายโดยปราศจากความจริงใจนี้เอง ทำให้คนใน ครม.หลายคนต้องวิบัติครับ ตกกระป๋องไปแล้ว
บ้างโดนข้อหาหมิ่นเพระบรมเดชานุภาพ
บ้างโดนข้อหาไม่รักษาอธิปไตยดินแดนไทย
บ้างโดนข้อหาโกงเลือกตั้ง
บางคนนั้นโทษอยู่ในชั้นประหารชีวิตหรือติดคุกชั่วชีวิต
นี่แหละครับ ถวายสัตย์โดยมิรักษาไว้ หรือชั่วโดยกมลสันดานจึงกรรมตามทัน
นายกฯ จึงน่าจะเผชิญกรรมตามก่อไว้บ้าง ทุกวันนี้คดีรุมเร้า ต้องเสียชื่อไปทั่วโลก เพราะโดนข้อหาจากญี่ปุ่นเป็นข่าวดังระดับโลก
เรียกว่าตกนรกทั้งเป็น ยังไม่รู้ตัว กลับมาโกหกคนทั้งประเทศ แบบไม่รู้จักหลาบจำอีกจนได้
ที่ว่า “โกหก” แบบ “ด้านๆ ก็เพราะทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเรื่องจริงๆ มันเป็นอย่างไร แต่ก็ยังบิดเบือนจนได้ แต่การบิดเบือนนั้นมันน้อยเกินไปครับ แต่นายสมัคร สุนทรเวช นั้นยังบังอาจกระทำการอันมิบังควร อาจเอื้อม “ดึงฟ้าต่ำ” ด้วยการอ้างถึง “สถาบัน” โดยไม่ได้ละอายแก่ใจเลย
กรณีไหนหรือ
ก็กรณีป้ายสี ปปช.ไงครับ ว่า ปปช.นั้นไม่มีความชอบธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ โดยบอกว่าตนและ ครม.นั้น เข้าตามตรอกออกตามประตู แต่ปปช.นั้นแต่งตั้งโดย คมช. และไม่เคยได้ถวายสัตย์ปฏิญญาตนต่อในหลวงเหมือนพวกตนและ ครม. แต่ปฏิบัติหน้าที่เลย
โฆษก ปปช.คุณกล้าณรงค์ ก็ต้องเปิดเผยข้อเท็จจริงซึ่งคุณสมัครเองก็รู้ดีอยู่แล้ว จะว่าไม่รู้ไม่ได้ คุณสมัครนั้นนอกจากจะเป็นนักกฎหมายแล้ว แกยังเป็นคนรอบคอบกลัวการโดนโต้กลับ กลัวการเช็คบิลอย่างยิ่ง ดังนั้นก่อนพูดนี่แกหาข้อมูลมาแล้วครับ มีทีมงานนะครับ ตรวจสอบหลายตลบด้วย
คุณกล้าณรงค์อธิบายว่า เมื่อได้รับแต่งตั้งแล้ว ทาง ปปช.ก็ได้ทำหนังสือหารือและปรึกษาพร้อมทั้งถามไปยังสำนักราชเลขาธิการ ว่าทาง ปปช.นั้นจะถวายสัตย์ด้วยหรือไม่ ก็ได้รับคำชี้แจงและคำตอบว่า การแต่งตั้งนั้นโปรดเกล้าลงมาแล้ว และไม่ต้องถวายสัตย์อีกแต่ประการใด
นี่แหละครับความจริง
และนี่แหละ นายกรัฐมนตรีก็รู้ และยังกล้าโกหก อาจเอื้อมถึงเพียงนี้
สร้างความชอบธรรมให้ตนเองโดยบังอาจเช่นนี้ มีพฤติกรรมอย่างนี้นี่เองทำให้นายทหารระดับเทียบเท่าจอมพลอย่างพลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร ท่านทนไม่ไหว ต้องขึ้นเวทีพันธมิตรเรียกร้องให้ทหารของชาติ ออกมาสมทบกับผู้จงรักภักดีทั้งหลายช่วยกันต้านรัฐบาลที่บังอาจเช่นนี้เสียที
เอาไว้ได้อย่างไร
จักรภพและพวกไม่เคารพในโรงหนังก็หลายครั้งแล้ว
นี่ก็เป็นถึงนายกฯ ยังสวมรอยอีหรอบเดียวกันอีก
คนแบบนี้ในรัฐบาลน่าจะยังคงมีอีก เพียงแต่ยังไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาเท่านั้น
ผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เขาจึงต้องออกมาเคลื่อนไหว
แต่ก็มีคนซึ่งปิดหูปิดตาและคงมีจิตสำนึกโอหังบังอาจอีกกลุ่มหนึ่ง คอยราวีพันธมิตรแบบสถุลถ่อย
เช่นพวกเสื้อแดงที่เชียงใหม่ใช้วิธีการรุนแรง ปาไข่ ปาหิน ป่าอิฐ และขวดน้ำ ทำร้ายคนซึ่งเป็นผู้อภิปราย และผู้ฟังซึ่งอยู่ในระดับปัญญาชนทั้งนั้น
อสรกุ๊ยเหล่านี้ถูกเกณฑ์กันมาทั้งนั้นแหละเพื่อให้มาตอบโต้และเพื่อสร้างข่าวว่า พันธมิตรก็ถูกคนกลุ่มของเขาต้านเช่นกัน
นี่แหละครับ... เรื่องมันเป็นเช่นนี้
เป็นเรื่องของคนที่ชอบฟังแต่นิทานโหกจากลมปากของนายกฯ หุ่นเชิด ที่หมดความชอบธรรม ได้อำนาจแต่ปกครองประชาชนไม่ได้มานานแล้ว
เป็นนายกฯ ที่โดนคดีความมากที่สุด และโดนกล่าวหาข้ามประเทศในข้อสงสัยว่าอาจจะรับสินบนจากบริษัทญี่ปุ่นในขณะมีตำแหน่งสูงสุดในการบริหาร กทม.ด้วย
พูดง่ายๆ เป็นนายกรัฐมนตรีที่โดนคดีมากที่สุด
มัวหมองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่สุด
ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ว่าประเทศไหนเคยมีนายกฯ ที่มัวหมอง เสื่อมแบบนี้เลยครับ ทำให้การโกหกพกลมเป็นคุณสมบัติฉาบฉวยตามปกติของคนที่ปากไม่มีหูรูดและขาดความจริงใจในเรื่องความจงรักภักดี
ข้อเท็จจริงอีกอย่างหนึ่งก็คือ ครม.ที่ถวายสัตย์นั้นก็เพราะคำสัตย์ต่อในหลวงนั้นถือว่าศักดิ์สิทธิ์ และเมื่อสักแต่ถวายโดยปราศจากความจริงใจนี้เอง ทำให้คนใน ครม.หลายคนต้องวิบัติครับ ตกกระป๋องไปแล้ว
บ้างโดนข้อหาหมิ่นเพระบรมเดชานุภาพ
บ้างโดนข้อหาไม่รักษาอธิปไตยดินแดนไทย
บ้างโดนข้อหาโกงเลือกตั้ง
บางคนนั้นโทษอยู่ในชั้นประหารชีวิตหรือติดคุกชั่วชีวิต
นี่แหละครับ ถวายสัตย์โดยมิรักษาไว้ หรือชั่วโดยกมลสันดานจึงกรรมตามทัน
นายกฯ จึงน่าจะเผชิญกรรมตามก่อไว้บ้าง ทุกวันนี้คดีรุมเร้า ต้องเสียชื่อไปทั่วโลก เพราะโดนข้อหาจากญี่ปุ่นเป็นข่าวดังระดับโลก
เรียกว่าตกนรกทั้งเป็น ยังไม่รู้ตัว กลับมาโกหกคนทั้งประเทศ แบบไม่รู้จักหลาบจำอีกจนได้