“สมศักดิ์” จับตารัฐบาลหุ่นตัดตอน “นพเหล่” ปรับ ครม.เพื่อความอยู่รอด ระบุความผิดในการทำให้ชาติเสียอธิปไตยในอดีตจะต้องประหาร 7 ชั่วโคตร โดยประชาชนจะต้องช่วยกันกำจัดคนพวกนี้ให้ถึงที่สุด อย่าให้หนีไปได้ พร้อมตั้งโจทย์สำคัญเน้นการเมืองบริสุทธิ์ ผู้นำจะต้องมีคุณธรรมนำหน้า และคนในสังคมต้องหันมาบูชาธรรมะ มากกว่าเงินตราเหมือนที่ผ่านมา
วันนี้ (9 ก.ค.) เวลาประมาณ 22.00 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยบนเวทีบริเวณสะพานมัฆวานฯ ว่า ขณะนี้บ้านเมืองเรากำลังมีปัญหาทำให้ประชาชนต้องมาอดทนอย่างมากกว่าปกติ เพื่อไล่พวกที่รัฐบาลชอบอ้างตนเองว่ามาจากการเลือกตั้ง ซึ่งถึงแม้จะมีความผิดคนพวกนี้ก็ยังคงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น และไม่ทราบว่ามนุษย์พันธุ์นี้ไม่มาร่วมตัวเป็นรัฐบาลชาติชั่วได้อย่างไร
“สมัครยังไมรู้ร้อนรู้หนาวเรื่องการเมืองขณะนี้เลย การที่พวกเรา นักวิชาการ ฝ่ายค้าน พูดเกี่ยวกับเรื่องเขาพระวิหาร คนพวกนี้ยังไม่ยอมรับ และสุดท้ายผลก็ออกมาอย่างที่เห็น โดยการกระทำของนายนพดล ที่ไปเป็นผู้สังเกตการณ์ แต่ไม่มีอำนาจ ก็เพื่อเป็นการสร้างภาพให้คนไทยเห็นใจ และไม่อยากให้คนไทยไปเห็นใจ” นายสมศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ หากเป็นในอดีต คนไทยคณะใดที่ทำให้อำนาจอธิปไตยตกเป็นของชาติอื่นจะต้องถูกตัดสินประหาร 7 ชั่วโคตร แต่ตอนนี้ประมวลกฎหมายอาญา มีโทษแค่จำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวต แต่ไม่ต้องประหาร 7 ชั่วโคตร โดยประชาชนต้องจัดการกับคนพวกนี้ให้ถึงที่สุด และอย่าให้มีการยุบสภาหนีได้
นอกจากนี้ หากพรรคประชาธิปัตย์มีการรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นถอดถอนได้อย่างรวดเร็ว เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะยุบสภาหนีไม่ทัน โดยการที่ นายสมัคร สุนทรเวชออกมาบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นกับดักนั้น อยากบอกว่ากับดักส่วนใหญ่จะใช้กับสัตว์ แล้วพวกที่ติดกับที่ก็น่าจะเป็นพวกเดียวกัน ซึ่งพวกเราจะต้องจัดการให้พวกนี้ออกไปทั้งฝูง
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การอ้างประชาธิปไตยของรัฐบาลนี้ แค่ไม่ทำตามคำสัตย์ตอนปฏิญาณตนก็มีความผิดแล้ว ซึ่งที่มาของคนพวกนี้หากมองแล้วเช่น นายสมัครเป็นประธานของอำนาจบริหาร นายยงยุทธเองยังได้รับเลือกให้เป็นประธานฝ่ายนิติบัญญัติ แต่กลับโดนใบแดงเพราะซื้อเสียง ดูแล้วมีแต่คนเลว ซึ่งผมเองไม่ต้องการคนดีแล้วเพราะหายาก แต่ให้มันเลวน้อยกว่าคนพวกนี้จะดีกว่า
ทั้งนี้ ความสกปรกของการเมืองสกปรกกำลังถูกเราทอดออกมาหมด และเชื่อว่าสัตว์พวกนี้จะตายทั้งฝูง ซึ่งอย่าว่าแต่นายนพดลคนเดียวที่รัฐบาลอาจะฆ่าตัดตอนให้ออกจาก ครม.เพื่อลดแรงกดดัน และยังคิดที่จะปรับ ครม.อีกด้วย เท่ากับว่ารัฐบาลนี้ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับความผิดที่เกิดขึ้น แต่ยังตะแบงต่อไปเพื่อเอาตัวรอดอีกด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวอีก กระแสข่าวเรื่องที่บริษัทญี่ปุ่น นิชิมัตสึ คอนสตรัคชั่น ได้สารภาพกับอัยการของประเทศญี่ปุ่นว่าเคยให้สินบนจำนวน 125 บาท แก่คนในกรุงเทพมหานครสมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯ ด้วยว่า เป็นเรื่องที่ต้องกำจัดให้สิ้นซาก ตนเองสงสารนักธุรกิจพวกนี้เช่นกัน แต่อยากบอกว่าถ้ามีเรื่องแบบนี้ควรจะทำให้คนโกงกินแบบนี้ติดคุก เพราะไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะจมดึงกับการคอร์รัปชันไปหมด
“ผมสงสารนักธุรกิจพวกนี้ เพราะเขาต้องเสียเงินตลอด แต่นักธุรกิจก็เห็นแก่ตัว ถ้าไม่อยากเป็นแบบนนั้น มาบอกพันธมิตร จะได้จับคนที่มันรับเงินเขาคุกให้หมด และคุณจะไม่ถูกรีดไถ ผมรู้ว่าเมื่อคุณถูกรีดแล้วจะมาเอาเปรียบเราอีก ซึ่งทุกอย่างจะจมดึงไปกับการคอร์รัปชั่นจนหมด” นายสมศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ หากสังคมเมื่อคนบูชาเงินแล้ว คนจะวิ่งไปหาเงิน หรือบูชาอำนาจแล้วก็จะวิ่งไปหาอำนาจ เมื่อสะสมกันไปบ้านเมื่องจะเกิดวิกฤตได้ สิ่งที่ประชาชนจะต้องทำต่อไปนี้คือให้สังคมหันมาบูชาธรรมะ โดยส่งเสริมให้ผู้ที่มีคุณธรรมสูงได้ปกครองบ้านเมือง และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน ซึ่งหากมีแต่การโอ้อวดความร่ำรวยแล้ว เงินจะกลายเป็นบ่อเกิดความเลวของคนที่บริหารประเทศ
“นี่คือสิ่งที่เราต้องยืนหยัดต่อไปเพื่อไม่ให้การเมืองเป็นแบบนี้ และ ครม.ทั้งคณะจะต้องติดคุก โดยอยากให้เรามองเป็นโจทย์ใหญ่ที่เราจะทำหลังจากนี้ และอย่าปล่อยให้คนพวกนี้หลุดไปได้ เพื่อให้คุ้มกับความเหน็ดเหนื่อยในการชุมนุมครั้งนี้ ซึ่งคนพวกนี้จะต้องหมดไปจากแผ่นดินไทย” นายสมศักดิ์กล่าว