xs
xsm
sm
md
lg

New China Insights : เมื่อรัฐบาลจีนยกระดับรัดเข็มขัดใช้งบประมาณอย่างระมัดระวัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(แฟ้มภาพจากอินเทอร์เน็ต)
โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล

ในช่วงนี้มีหนึ่งหัวข้อกระทู้ในจีนที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากชาวเน็ต คือประเด็นของการประกาศรัดเข็มขัดตั้งแต่ระดับรัฐบาลกลางไปจนถึงรัฐบาลท้องถิ่น เป็นนโยบายที่ลดความฟุ่มเฟือย มีข้อจำกัดในการเบิกจ่ายงบประมาณมากขึ้น ซึ่งในช่วงเกือบ 5 ปีที่ผ่านมาแนวทางการประหยัดงบประมาณมีการยกขึ้นมาพูดบ้างแล้ว แต่ในรอบนี้เหมือนจะเป็นการรัดเข็มขัดกันแบบรอบด้าน โดยในรายงานของรัฐบาลจีนได้ยกสโลกแกน “รัดเข็มขัดให้แน่นใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง” (勒紧腰带过日子)

คำว่า “รัดเข็มขัดให้แน่นใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง” กลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง เมื่อมีประกาศล่าสุดจากรัฐบาลท้องถิ่นมณฑลเจียงซู คือ "มาตรการเพิ่มเติมตามข้อกำหนดการใช้งบอย่างระมัดระวัง" และ "ความคิดเห็นในการดำเนินการของเมืองซูโจว เมืองซูโจวซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเจียงซู เกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อกำหนดของพรรคอย่างเคร่งครัดในด้านการรัดเข็มขัดด้านงบประมาณ" โดยมีการออก "มาตรการใหม่" เพื่อชี้แจงว่าเมืองซูโจวจะปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นตามข้อกำหนดของพรรคโดยย่อต่อไปนี้

-สำนักงานพรรคคอมมิวนิสต์ไม่เช่าพื้นที่ออฟฟิศหรือขยายออฟฟิศใหม่ หากพบว่าได้เพิ่มขยายไปแล้วให้จัดการควบรวมพื้นที่ทำงานและคืนพื้นที่เช่ากลับไป ทั้งนี้ เพื่อประหยัดงบในด้านค่าเช่าพื้นที่สำนักงานของพรรค

-เจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกย้ายไปปฏิบัติงานต่างถิ่นชั่วคราว ต้องอาศัยในบ้านชั่วคราวแบบหมุนเวียน (周转房:บ้านพักข้าราชการชั่วคราว) ที่รัฐจัดให้ จะไม่ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในโรงแรม เกสต์เฮาส์ เพราะการพักอาศัยในโรงแรม เกสต์เฮาส์จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าบ้านพักข้าราชการชั่วคราว

- รถยนต์ราชการหากอายุการใช้งานไม่ถึง 10 ปี และระยะทางในการขับขี่ไม่ถึง 100,000 กิโลเมตร จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือซื้อคันใหม่ได้ สัดส่วนของรถยนต์พลังงานใหม่ที่ซื้อทดแทนรถยนต์พลังงานสันดาปต้องถึง 100% ในอนาคต และจะไม่มีการเช่ารถนั่งสำหรับการเดินทางตามเส้นทางที่มีรถไฟความเร็วสูงผ่าน

- การจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้จัดในโรงอาหารของหน่วยงาน และชุดอาหารจะต้องเป็นชุดที่เจ้าหน้าที่กินกันประจำ และหน่วยงานรัฐต้องมีรายงานเป็นประจำในเรื่องการบริหารจัดการอาหารไม่กินทิ้งกินขว้าง

รายการพูดคุยสถานการณ์เศรษฐกิจการเงินของสถานีโทรทัศน์กลางจีน รณรงค์ให้รัฐบาลใช้จ่ายอย่างประหยัด โดยชูสโลแกน “ประชาชนจะอยู่ดีกินดีได้ รัฐบาลต้องประหยัด”  (ภาพแคปหน้าจอจาก สื่อจีน CCTV)
- ส่งเสริมการจัดการแบบรวมศูนย์และการประสานงานการใช้สินทรัพย์ที่มีให้มีประสิทธิภาพ เช่น การปล่อยเช่า การประมูลที่ดินเปล่า และอสังหาริมทรัพย์ที่มีเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น

- สินทรัพย์ทั่วไปที่แต่ละหน่วยงานมี ต้องมีทีมตรวจสอบ บริหารคลังทรัพย์สินสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ

- สิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ วัสดุตกแต่งที่รื้อถอนในโครงการบำรุงรักษาและปรับปรุงจะต้องถูกนำมาใช้ซ้ำในเชิงลึกภายในสิ้นปีนี้ ฝ่ายบริหารกิจการของรัฐทุกระดับจะต้องสร้างระบบบริการซ่อมแซมและรีไซเคิลทรัพย์สินที่ครอบคลุม

- ภายในสิ้นปีนี้ ห้องประชุมและสถานที่ให้บริการสาธารณะระหว่างพื้นที่สำนักงานส่วนกลางและพื้นที่ของพรรคจะต้องใช้ร่วมกันอย่างเต็มที่ เช่น ที่จอดรถ และสถานที่จัดกิจกรรมสำหรับจัดงานของรัฐ เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงการใช้พื้นที่ให้มากขึ้น

- ปรับปรุงโครงการประหยัดพลังงานไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ภายในสิ้นปี 2025

ในช่วงนี้ไม่เพียงแต่ซูโจวเท่านั้นที่ออกมาตรการรัดเข็มขัดออกมา ในเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศก็ทยอยประกาศมาตรการรัดเข็มขัดของตัวเอง อย่างเช่น มณฑลอันฮุยประกาศมาตรการลดการใช้กระดาษในสำนักงาน ใช้เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เข้าระบบมากขึ้น การเปิดฮีทเตอร์ในหน้าหนาวไม่เกิน 20 องศาฯ และในหน้าร้อนเปิดแอร์เย็นที่ 26 องศาฯ เจ้าหน้าที่รัฐในเมืองเดียวกันเข้มงวดกับการกินเลี้ยงกินข้าวสังสรรค์ ที่มณฑลส่านซี ลดการซ่อมแซมตึกออฟฟิศของรัฐ เน้นซ่อมเล็กไม่ซ่อมปรับปรุงใหญ่ รถราชการที่ใช้งานเกิน 8 ปีให้ใช้ต่อไป เข้มงวดกับเงินดูงานต่างเมืองและในต่างประเทศ

ในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังจีนได้เน้นย้ำอีกครั้งและเรียกร้องให้ทุกภูมิภาค และหน่วยงานต่างๆ ยึดถือ “การรัดเข็มขัดที่เข้มงวดและไม่ผ่อนคลาย” ทำให้ทุกรัฐบาลท้องถิ่นต้องออกมาตรการฉบับใหม่ให้มีความรัดกุมด้านการประหยัดมากขึ้น มาตรการการรัดเข็มขัดของรัฐบาลจีนที่ยกระดับเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่ชี้วัดได้ว่า เงินคงคลังรัฐบาลจีนไม่ฟุ้งเฟ้อจ่ายได้ตามใจชอบแบบที่ผ่านมา ประชาชนจีนเองก็เริ่มตั้งคำถามมาเกือบปีกับปัญหาอสังหาฯ ที่ปัจจุบันยังแก้กันไม่ได้ ข่าวการค้างจ่ายเงินเดือนในหน่วยงานราชการท้องถิ่นเมืองชั้นรองก็มีให้เห็นหน้าข่าวมาสักระยะแล้ว

เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต เศรษฐกิจของจีนแข็งแกร่งมาก ตั้งแต่สิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงการผลิตเครื่องจักร จีนได้เป็น "โรงงานของโลก" หลายปีติดต่อกัน ด้านอสังหาริมทรัพย์ก็กำลังเฟื่องฟูเช่นกัน แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญกับวิกฤต การขายบ้านไม่ใช่เรื่องง่าย และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่มีเงินมาซื้อที่ดินพัฒนาได้มากนัก

ในปี 2023 รายได้จากการโอนที่ดินทั่วประเทศของจีนอยู่ที่ 5.8 ล้านล้านหยวน ลดลง 50% เทียบกับ 8.7 ล้านล้านหยวนในปี 2021 ซึ่งสัดส่วนนี้ดิ่งลงค่อนข้างมาก ในส่วนของอุตสาหกรรมการผลิต โรงงานขนาดใหญ่หลายแห่งเริ่มย้ายฐานไปเวียดนามและอินเดีย กับการปิดประเทศต่อสู้กับโควิด 3 ปี เพราะปัญหาโดมิโนดังกล่าวทำให้กระทบกับรายรับของรัฐบาลท้องถิ่นทั่วประเทศ

กรณีของรัฐบาลท้องถิ่นมณฑลฝูเจี้ยนตอบรับนโยบายกลางที่ต้องรัดเข็มขัดประหยัดอย่างเคร่งครัด (ภาพ สื่อจีน)
ในการออกมาเตือนการใช้จ่ายต้องรัดเข็มขัดของรัฐบาลกลางในรอบนี้ ทำให้หลายคนวิตกกังวลและคาดการณ์ไปต่างๆ นานาว่ากำลังจะเกิดคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการจ้างงาน การกีดกันทางการค้า หรือการปรับตัวของตลาดอสังหาฯ แรงกดดันไม่ได้น้อยไปกว่าปีที่แล้ว นอกจากนี้ ในปีนี้จีนยังมีเป้าหมายการเติบโตอยู่ที่ 5% ซึ่งคิดว่าน่าจะหืดขึ้นคอ

ในยุคนี้รัฐบาลจีนเน้นการใช้ชีวิตแบบรัดกุมแต่ไม่ใช้ชีวิตลำบาก ไม่ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่ควรใช้ ใช้จ่ายในสิ่งที่ควรใช้ สรุปง่ายๆ ก็คือ “ใจกว้างกับโครงการที่ใช้เงินมากและเห็นผลข้างหน้า ประหยัดเงินเล็กๆ น้อยๆ” และอีกไม่กี่ปีข้างหน้า หลักการนี้คงต้องยึดถือปฏิบัติไปอีก การประหยัดในวงราชการเช่นในเรื่องของการกินเลี้ยงจะมีการเข้มงวดมากขึ้น มีการตรวจสอบกันมากขึ้นและการจัดประชุมที่ไม่จำเป็นและเยอะเกินไปจะต้องลดลงเพราะเปลืองงบประมาณในการจัด (มักจะมีการแฝงเรื่องอาหารการกินเข้ามาด้วย) อีกทั้งตำแหน่งราชการในอนาคตจะลดน้อยลงและเปลี่ยนเป็นพนักงานสัญญาจ้างมากขึ้น เพราะสามารถประหยัดงบและทำให้พนักงานทำงานมีความแข็งขันไม่เช้าชามเย็นชาม

เมื่อจีนยกการรัดเข็มขัดขึ้นมาเป็นวาระของชาติ อีกแนวทางวิเคราะห์หนึ่งมองว่า จีนกำลังเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมระดับสูงและเป้าหมายคือเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว นอกจากนี้ การใช้จ่ายงบอย่างชาญฉลาดด้วย เช่น การจัดการกับสินค้ากำลังการผลิตส่วนเกินและเสริมสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี มีจุดเติบโตใหม่ในอุตสาหกรรม มีการกล่าวถึงการบริการผู้บริโภค เช่น โครงการแลกเปลี่ยนรถยนต์และเครื่องใช้ในบ้านจากเก่าเป็นใหม่ สินค้าเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และการท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะกลายเป็นไฮไลต์การเติบโต

สรุปก็คือมาตรการเน้นย้ำการรัดเข็มขัดของรัฐบาลจีน เป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนภายในยังคงมีปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก กอปรกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบต่างๆ และระบายสินค้าที่ล้นการผลิตออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ในอีกมุมหนึ่งมองว่า มาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลคือความจำเป็นในช่วงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมการผลิต ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลถังแตกแต่อย่างใด


กำลังโหลดความคิดเห็น