เมื่อวันเสาร์ (13 ม.ค) “ไล่ ชิงเต๋อ” จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย 5,586,019 คะแนน ไม่สนแรงกดดันของจีน ในขณะที่จีนกร้าวจะไม่ยอมแพ้ในการบรรลุ "การรวมชาติใหม่"
รายงานระบุว่า ประชาธิปไตยก้าวหน้าสนับสนุนการแยกตัวของไต้หวันออกจากจีน และปฏิเสธการอ้างสิทธิเหนือไต้หวันของจีน และเป็นครั้งแรกนับจากปี 2000 ที่พรรคการเมืองในไต้หวันชนะเลือกตั้งและครองอำนาจปกครองสมัยที่ 3 ติดต่อกัน
“เราได้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประชาธิปไตยของไต้หวัน” นายไล่ กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากคู่แข่งทั้งสองยอมรับความพ่ายแพ้
ความท้าทายของว่าที่ประธานาธิบดี
อย่างไรก็ตาม ในห้วงการครองอำนาจเป็นระยะเวลา 8 ปีของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ไต้หวันประสบปัญหาภายในประเทศหลายประการ เช่น ราคาที่อยู่อาศัยที่สูง และค่าจ้างแรงงานที่ซบเซา ทำให้พรรคสูญเสียเสียงข้างมากในรัฐสภา โดยพรรคได้รับคะแนนเสียงเพียง 40% ซึ่งแตกต่างจากประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน คนปัจจุบันที่ได้รับเลือกอีกครั้งอย่างถล่มทลายเมื่อ 4 ปีที่แล้วด้วยคะแนนเสียงมากกว่า 50%
สื่อของไต้หวันรายงานว่า DPP ได้ 51 ที่นั่ง จาก KMT ที่ 52 ที่นั่ง ในขณะที่ TPP ได้ 8 ที่นั่ง
อย่างไรก็ดี นายไล่ ยอมรับว่า จากการที่สูญเสียเสียงข้างมากในรัฐสภา สะท้อนว่ามีหลายด้านที่พรรคยังต้องปรับปรุง
นายไล่ เสนอจะร่วมมือกับคู่แข่งการเลือกตั้ง “โหว โหย่วอี๋” จากพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) และ “เคอเหวินเจ๋อ” อดีตนายกเทศมนตรีไทเปจากพรรคประชาชนไต้หวัน (TPP) ในการแก้ไขปัญหาที่ไต้หวันเผชิญ
นายเคอ ประกาศพร้อมร่วมงานกับนายไล่ “TPP จะมีบทบาทเป็นพรรคเสียงข้างน้อยที่สำคัญ โดยไม่จำกัดว่าใครที่เราร่วมงานด้วย ... เราจะดูประเด็น ใครพูดมีเหตุผล เราก็จะสนับสนุน”
ความสัมพันธ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน
นายไล่ กล่าวว่าเขาจะรักษาสถานะที่เป็นอยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน แต่เขามุ่งมั่นที่จะปกป้องไต้หวันจากภัยคุกคามและการข่มขู่จากจีน
ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง จีนประณามนายไล่ ว่าเป็นผู้แบ่งแยกดินแดนที่เป็นอันตราย และเรียกร้องให้ประชาชนไต้หวันเลือกสิ่งที่ถูกต้อง
โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของคณะรัฐบาลจีน เฉิน ปินหวา แถลงในคืนวันที่ 13 ม.ค.ถึงผลการเลือกตั้งในไต้หวันว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสภานิติบัญญัติไต้หวันครั้งนี้ ไม่ได้เป็นตัวแทนกระแสหลักของเจตจำนงของประชาชนบนเกาะไต้หวัน คือ “ไต้หวันของจีน”
“จุดยืนของเราในการแก้ไขปัญหาไต้หวันและการรวมประเทศยังคงเหมือนเดิม และความมุ่งมั่นของเรามั่นคงราวกับหินผา ... อย่างไรก็ตาม จีนจะทำงานร่วมกับพรรคการเมือง กลุ่ม และประชาชนที่เกี่ยวข้องจากไต้หวัน เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือ และส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบอย่างสันติ ตลอดจนการรวมประเทศเข้าด้วยกัน” คำสำนักงานกิจการไต้หวันระบุ
การเลือกตั้งของไต้หวันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างปักกิ่งและวอชิงตันเพิ่มมากขึ้น
นับตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2020 จีนได้จัดกิจกรรมทางการทหาร รวมถึงการซ้อมรบในช่องแคบไต้หวันบ่อยในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
ที่มา กลุ่มสื่อต่างประเทศ