xs
xsm
sm
md
lg

มองอนาคตสัมพันธ์ไต้หวัน-จีน ผ่าน “ไล่ ชิงเต๋อ” ผู้นำใหม่ไต้หวัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายไล่ ชิงเต๋อ ว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไปของไต้หวัน เคยประกาศต่อสาธารณะหลายครั้งว่า “ไต้หวันเป็นรัฐอิสระอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องประกาศเอกราช” และยังบอกด้วยว่า “จีนกับไต้หวันไม่เกี่ยวพันกัน”

ทางการจีนเคยกล่าวหลายครั้งว่า นายไล่ ชิงเต๋อสนับสนุนการแยกไต้หวันเป็นเอกราช และเป็นบุคคลที่ “อันตรายอย่างยิ่ง”

นายไล่ ชิงเต๋อเคยส่งบทความไปเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ชื่อว่า “แผนของข้าพเจ้าในการรักษาสันติภาพระหว่างจีนกับไต้หวัน” ระบุถึงหลัก 4 ประการ คือ

1.เสริมศักยภาพของกองทัพ เพื่อป้องปรามศัตรู
2.เสริมความมั่นคงให้เศรษฐกิจ ลดการพึ่งพาจีน
3.กระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรชาติตะวันตก และญี่ปุ่น
4.รักษาการติดต่อกับผู้นำจีน โดยต้องเสมอภาคและมีศักดิ์ศรี


ความแตกต่างระหว่างนายไล่ ชิงเต๋อ กับนางไช่ อิงเหวิน คือ ไช่ อิงเหวิน เป็นนักเจรจาต่อรอง ก่อนจะมาเล่นการเมืองก็ผู้แทนการเจรจาของไต้หวัน ยุทธศาสตร์ของไช่ อิงเหวิน คือ ทำให้ฝ่ายเราได้ประโยชน์มากที่สุด ยอมเสียน้อยที่สุด

ส่วนนายไล่ ชิงเต๋อ เป็นนายแพทย์ ที่นิยามตัวเองว่าเป็น “ผู้สนับสนุนเอกราชไต้หวันที่สอดคล้องกับความเป็นจริง” (pragmatic independence promoter) นายไล่ ชิงเต๋อ มีความเด็ดขาดในการตัดสินใจมากกว่า แต่ขณะเดียวกัน ด้วยภูมิหลังที่เป็น “หมอ” ก็รู้ว่าต้องไม่บุ่มบ่าม ไม่งั้น “คนไข้” อาจจะ “ตาย” ได้

เมื่อดูจาก “หลักการ 4 ประการ” ที่นายไล่ ชิง เต๋อ เคยประกาศไว้จะมองเห็นอนาคตของไต้หวัน คือ ไต้หวันจะเลือกข้างไปอยู่กับสหรัฐฯ และพันธมิตรชาติตะวันตก รวมทั้งญี่ปุ่นอย่างชัดเจน จะซื้ออาวุธเพิ่มขึ้น เปิดทางให้ทหารสหรัฐฯ ช่วยฝึกฝนกองทัพไต้หวัน และจะสร้างวาทกรรมเพื่อให้ชาติประชาธิปไตยร่วมกันปกป้องไต้หวัน เช่น “วันนี้ฮ่องกง วันหน้าไต้หวัน” “ไต้หวันจะไม่เป็นยูเครน 2” “ไต้หวันเกิดเรื่อง ญี่ปุ่นเดือดร้อน” เป็นต้น


ในทางเศรษฐกิจ ไต้หวันจะมุ่งลดการพึ่งพาจีน โดยสร้างห่วงโซ่อุปทานร่วมกับชาติตะวันตก โดยมีเครื่องมือสำคัญคือ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่ไต้หวันเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ ไต้หวันจะทำให้ประเทศต่างๆ ตระหนักว่า จะต้องเดือดร้อนถ้าจีนคุกคามไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์จะขาดแคลน การผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ จะเผชิญปัญหา

สภาพการณ์ที่ไต้หวันแยกตัวทางเศรษฐกิจออกจากจีนได้เกิดขึ้นแล้ว สถิติจากกระทรวงเศรษฐการไต้หวัน ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว ไต้หวันลงทุนในจีนเพียงประมาณ 10% เท่านั้น ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 30 ปี ขณะที่การลงทุนของไต้หวันในสหรัฐฯ และเยอรมนี มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

นายไล่ ชิงเต๋อ และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า จะทำให้ “การแบ่งขั้วแยกข้าง” ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนชัดเจนยิ่งขึ้น นี่จะไม่ใช่การเมืองภายในของไต้หวัน เพราะประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวพันกันทั้งในด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และห่วงโซ้อุปทานอาจจะถูกบีบให้เลือกข้างด้วยเช่นเดียวกัน.


กำลังโหลดความคิดเห็น