xs
xsm
sm
md
lg

Exclusive! โควิดติดทั้งเมืองจีน ทำอย่างไรถึงยังรอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(แฟ้มภาพ)
ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ชาวจีนติดเชื้อโควิดไปแล้วมากถึงร้อยละ 80 แต่ยังมีคนอีกจำนวนหนี่งที่อยู่รอดปลอดภัยจากเชื้อไวรัสนี้ คนเหล่านี้ยังแข็งแรงอยู่ได้เพราะ “โชคดี” หรือ “ตระหนัก” กันแน่?

หลังจากรัฐบาลจีนยกเลิกนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” เมื่อต้นเดือนธันวาคม จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียงแค่ 1 เดือน ประเมินกันว่าชาวจีนติดเชื้อโควิดไปแล้วมากถึงร้อยละ 80 ของประชากรทั้งหมด ผู้ที่ยังรอดพ้นการติดเชื้อจึงถือว่าเป็นคนส่วนน้อย

สถานการณ์ในประเทศจีนช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา แทบจะเรียกว่าหลีกเลี่ยงการติดเชื้อได้ยากมาก หลายคนถึงกับทำใจว่า “ติดเร็วหายเร็ว” บางคนบอกว่านี่คือ แผนสร้าง “ภูมิคุ้มกันหมู่” ทางลัดของจีน แต่ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่ตระหนักถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากการติดเชื้อ และหลีกเลี่ยงการติดเชื้อได้จนถึงทุกวันนี้

รพีพรรณ สาวไทยที่ทำงานในประเทศจีนมานานกว่า 10 ปี เล่าว่า เธอเพิ่งเดินทางกลับจากการทำงานที่มณฑลไหหลำ ช่วงที่เดินทางเป็นช่วงที่กรุงปักกิ่งกำลังมีการการระบาดอย่างหนัก แต่ไม่มีการตรวจใดๆ เลย บนเครื่องบินผู้โดยสารไอกันตลอดเส้นทาง และสอบถามได้ความว่า คนที่เดินทางส่วนใหญ่ติดโควิดและอาการดีแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่าหายสนิทหรือยัง เธอจึงป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากตลอดเวลา และไม่กินไม่ดื่มอะไรตลอดเส้นทาง

ในเช้าวันที่ 4 ของการเดินทาง สมาชิกในทีมคนหนึ่งมีไข้ เดินทางต่อไม่ไหว และเมื่อตรวจดูพบว่าติดเชื้อโควิด ตัวเธอและผู้ที่ติดเชื้อนั่งรถเบาะหลังด้วยกันคันเดียวกันตลอดทั้ง 3 วัน แต่เธอไม่ติดเชื้อ

รพีพรรณ บอกว่า ถึงแม้ขณะนี้จะผ่อนปรนมาตรการควบคุมเกือบทั้งหมด แต่เธอยังเคร่งครัดในการรักษาสุขอนามัย ทั้งการล้างมือและใส่หน้ากาก รวมทั้งหลีกเลี่ยงการออกไปนอกสถานที่หากไม่จำเป็น จนถึงตอนนี้หน่วยงานของเธอยังให้ทำงานที่บ้าน และหากจะเข้าไปยังสำนักงานต้องมีผลการตรวจโควิดแบบ ATK คนรอบข้างส่วนใหญ่แม้จะติดเชื้อและหายแล้ว แต่ยังระวังตัวเอง และสวมหน้ากากกัน

รพีพรรณ บอกว่า ที่ตัวเองไม่ติดเชื้ออาจเพราะโชคดี แต่ที่จริงแล้วเพราะคนรอบข้างมีวินัยมาก ในระหว่างการเดินทางทุกคนสวมหน้ากากเกือบตลอดเวลา เธอบอกว่าเมื่อคนในสังคมยังคงตระหนักเรื่องการป้องกันตัวเองและผู้อื่น ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อได้

(แฟ้มภาพ)
ชีวิตใต้ความหวาดระแวง เมื่อคนรอบข้างติดเชื้อระนาว

น.ส.เกา นักศึกษามหาวิทยาลัยในนครเซี่ยงไฮ้ ยอมรับว่า ในช่วงที่คนรอบข้างติดโควิดกันเกือบทุกคน เธอกังวลมาก พอมีอาการไม่สบายนิดหน่อยก็หวาดระแวงว่าตัวเองจะติดเชื้อ ซึ่งชาวจีนเรียกความรู้สึกเช่นนี้ว่า “มโนโควิด”

เธอเล่าถึงการป้องกันตัวเองที่ทำให้ยังไม่ติดเชื้อโควิดมาจนถึงทุกวันนี้ว่า เธอหลีกเลี่ยงที่จะรับประทานอาหารในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย แต่จะซื้อและนำกลับไปกินที่ห้องพัก เมื่อออกไปข้างนอกจะสวมหน้ากาก N95 ตลอดเวลา ช่วงที่เธอเดินทางกลับบ้านที่กรุงปักกิ่ง ตลอดการเดินทางตั้งแต่รถไฟจนถึงลิฟต์ในตึกที่พัก เธอแทบจะไม่ปลดหน้ากากลงเลย

เธอบอกว่า หลังเดินทางกลับบ้านก็ยังไม่ติดเชื้อ และได้ไปรับวัคซีนครั้งที่ 4 โดยเป็นวัคซีนชนิดสูดดมแล้ว

นักศึกษารายนี้บอกว่า ถึงแม้ขณะนี้ชาวจีนจำนวนมากจะติดเชื้อและหายดีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่วางใจ และยังป้องกันตัวอย่างเต็มที่ เพราะเชื่อว่าการติดเชื้อจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

(แฟ้มภาพ)
“ซีโร่โควิด” อุ่นใจแต่อลหม่าน

ทางการจีนใช้นโยบาย “ซีโร่โควิด” ควบคุมโรคระบาดอย่างเข้มงวดนานถึง 3 ปี ถึงแม้หลังจากผ่อนปรนนโยบายจะมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากอย่างรวดเร็ว แต่ทั้ง 2 คนต่างบอกว่า ถ้าเลือกได้ก็ขอเลือกชีวิตในทุกวันนี้ มากกว่าช่วง “ซีโร่โควิด”

รพีพรรณ บอกว่า ช่วงที่มีการตรวจเชื้ออย่างเข้มงวด ทำให้รู้สึกปลอดภัย แต่ตอนนี้เธอมีอิสระในการเดินทาง และสามารถกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่ประเทศไทยได้ ขณะนี้เชื้อรุนแรงน้อยลงแล้ว เป็นเวลาที่เหมาะสมในการผ่อนปรนมาตรการที่ยาวนานกว่า 3 ปี

ด้าน น.ส.เกา บอกว่า นโยบาย “ซีโร่โควิด” ส่งผลกระทบต่อชีวิตนักศึกษาอย่างมาก เธอต้องเรียนออนไลน์ ไม่ได้พบกับเพื่อนร่วมชั้น การสอบถูกยกเลิก แต่ตอนนี้เธอกลับมาใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยที่มีสีสันแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 คนยอมรับว่า นโยบายของทางการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ นโยบาย “ซีโร่โควิด” ช่วยปกป้องไม่ให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก ถ้าหากไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดตั้งแต่ช่วงเกิดการระบาด ก็อาจไม่สามารถจะเปิดประเทศและคืนอิสระให้ประชาชนได้อย่างเช่นในวันนี้.


กำลังโหลดความคิดเห็น