พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติไต้หวันยอมรับว่าถ้วยชามเครื่องเคลือบดินเผาจากยุคราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง ได้แตกไป 3 ใบ สื่อท้องถิ่นชี้มูลค่าของถ้วยชามโบราณวัตถุ 3 ใบนี้รวมกันสูงถึง 2,500 ล้านเหรียญไต้หวัน คิดเป็นเงินไทยกว่า 2,937 ล้านบาท
จากการแถลงบนเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์พระราชวัง (กู้กง)*แห่งชาติไต้หวันเผยแพร่เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ระบุว่า ถ้วยชามเครื่องเคลือบดินเผาซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าของชาติ 3 ใบดังกล่าวได้แตกไปตั้งแต่ปีที่แล้วและในต้นปีนี้ ได้แก่
1) ถ้วยสีเหลืองเขียนลายมังกรเขียวคู่ยุคจักรพรรดิหงจื้อ แห่งราชวงศ์หมิง (明 弘治款 娇黄绿彩双龙小碗) โดยคนงานแผนกเครื่องเคลือบดินเผาไปพบถ้วยมังกรเขียวคู่ใบนี้แตกอยู่ในกล่องระหว่างที่คัดแยกจัดประเภทโบราณวัตถุเพื่อบันทึกข้อมูลระบบดิจิทัล ในวันที่ 3 ก.พ.2021
2) ถ้วยเครื่องเคลือบดินเผาสีเหลืองลายมังกรดำยุคจักรพรรดิคังซี แห่งราชวงศ์ชิง (清 康熙款 暗龙白里小黄瓷碗)คนงานไปพบถ้วยลายมังกรดำใบนี้แตกระหว่างคัดแยกจัดประเภทโบราณวัตถุเพื่อบันทึกข้อมูลระบบดิจิทัล ในวันที่ 7เม.ย.2022
3) ชามลายดอกไม้สีน้ำเงิน-ขาวยุคจักรพรรดิเชียนหลง แห่งราชวงศ์ชิง (清乾隆青花花卉盘) ได้ตกจากโต๊ะทำงานของเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์แตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา
พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งไต้หวันออกมาแถลงชี้แจงกรณีถ้วยชามโบราณวัตถุแตกเสียหายหลังจากที่ นายเฉินอี่ซิ่น สังกัดพรรคฝ่ายค้านก๊กมินตั๋ง สมาชิกสภาหยวน (หรือสภานิติบัญญัติไต้หวัน) ได้ออกมาปูดเรื่องดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา และกล่าวโทษว่า ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์คือ นายอู๋ มี้ฉา ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่คนงานปิดปากเงียบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เพียงไร้ความรับผิดชอบ จรรยาบรรณ ยังทำผิดต่อประชาชนในชาติอีกด้วย
ด้านนายอู๋ มี้ฉา ได้แถลงกับผู้สื่อข่าวในที่ประชุมข่าวว่าทางพิพิธภัณฑ์ได้ตรวจสอบกรณีสมบัติล้ำค่าของชาติที่แตกเสียหายไปในช่วง 2 ปีมานี้ทันทีหลังจากที่เกิดเรื่อง มิได้ปกปิดข่าวแต่อย่างใด
ในวันจันทร์ (31 ต.ค.) ที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์พระราชวังไต้หวัน ได้ยื่นรายงานตรวจสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับถ้วยชามโบราณวัตถุ 3 ใบที่แตกให้สภาสูงไต้หวันแล้ว ในรายงานไต่สวนยังระบุด้วยว่า ระหว่างการตรวจสอบคลังเก็บโบราณวัตถุปี 2011-2012 ถ้วยเหลืองลายมังกรเขียวคู่ยุคหมิงยังอยู่ในสภาพดี
ทางพิพิธภัณฑ์ยังให้สัมภาษณ์กับสื่ออีกรายว่า ถ้วยชามเก่าแก่ยุคศตวรรษที่ 15 และศตวรรษที่ 17 ที่แตกไปนั้นถูกจัดเป็น “โบราณวัตถุทั่วไป” ตามกฎระเบียบไม่จำเป็นต้องรายงานต่อกระทรวงวัฒนธรรม
โบราณวัตถุล้ำค่าทั้ง 3 ชิ้นนี้ ยังไม่เคยถูกนำมาออกจัดนิทรรศการให้ประชาชนได้ชมเป็นขวัญตา อีกทั้งไม่มีประกัน
สื่อไต้หวันอ้างถ้วยชามโบราณวัตถุแตก 3 ใบ เสียหาย 2.5 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน!
สำหรับมูลค่าโบราณวัตถุที่แตกเสียหาย 3 ใบนี้ สื่อท้องถิ่นได้อ้างการประเมินจากแหล่งต่างๆ โดยมีการประเมินมูลค่าสูงสุดที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน (คิดเป็นเงินไทยกว่า 2.93 พันล้านบาท) แต่ผอ.พิพิธภัณฑ์ อู๋มี้ฉา ได้อ้างสถานการณ์อุปทานในตลาดว่า มูลค่ารวมของโบราณวัตถุต่ำกว่านี้มาก
ด้านคณะกรรมการประเมินค่าศิลปะสังกัดพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ ระบุว่า สำหรับถ้วยลายมังกรเขียวคู่ยุคฮ่องเต้หงจื้อ มีราคาในตลาดระหว่าง 20-30 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (กว่า 23 ล้านบาท ถึง 35 ล้านบาท) เนื่องจากเป็นแบบที่ผลิตออกมาน้อย และหลงเหลืออยู่ในโลกน้อยมาก
ส่วนจานลายดอกไม้ยุคฮ่องเต้เชียนหลงนั้นผลิตออกมาจำนวนมาก หลงเหลืออยู่ในโลกมากกว่า และลวดลายดูธรรมดากว่า ดังนั้นราคาจึงไม่สูง โดยราคาในตลาดอยู่ที่ 1-2 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1.1-2.3 ล้านบาท)
ส่วนถ้วยมังกรดำยุคฮ่องเต้คังซี ราคาตลาดอยู่ที่ 10-15 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 11.68 ล้านบาท-17.52 ล้านบาท) ดังนั้น มูลค่าความเสียหายของโบราณวัตถุเครื่องเคลือบดินเผาสามใบที่แตก ราว 31-47 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 36.2 ล้านบาท ถึงกว่า 54.89 ล้านบาท)
กระแสวิจารณ์ “อิสรภาพไต้หวัน” และ “การล้างความเป็นจีน”
เหตุถ้วยชามยุคราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง แตกนี้ ได้กระตุกกระแส “อิสรภาพไต้หวัน” และ "การล้างความเป็นจีน" โดยสื่อจีน โกลบอล ไทม์ส ชี้ในบทบรรณาธิการเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ว่า “เหตุการณ์แบบนี้เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วง 2 ปีมานี้ไม่ใช่อุบัติเหตุแน่ เบื้องหลังน่าจะมาจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (พรรครัฐบาล) ผลักดัน “การล้างความเป็นจีน” จนกระทบถึงการจัดการเพื่อคุ้มครองโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมของเกาะไต้หวัน”
โกลบอล ไทม์ส ยังชี้อีกว่า “ในยุคสงครามญี่ปุ่น สมบัติล้ำค่าของชาติเหล่านี้ได้ถูกขนย้ายไปยังพื้นที่ต่างๆ ถึงครึ่งประเทศจีน เดินทางไกลหลายพันไมล์ ผู้ขนส่งได้ปกป้องสมบัติชาติเหล่านี้ด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ สมบัติชาตินับล้านๆ ชิ้นที่ถูกขนหนีสงครามนอกจากไม่สูญหายไปแม้ชิ้นเดียว ยังไม่เกิดความเสียหายใดเลย ในวันนี้กลับแตกไปได้?”
ด้าน ส.ว.สภาหยวน นายฟู่ ฉา ซึ่งเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการของสำนักพิมพ์ “วัฒนธรรมแปดกองธง” 《八旗文化》ออกมาตอกกลับกระแสวิจารณ์จากฝั่งจีนผ่านบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ช่างทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปได้! ถ้วยชามของกู้กงที่แตกไปไม่กี่ใบนี้ กล่าวอย่างถูกต้องจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่สมบัติของ “จีน” แต่เป็นของราชสำนักชิง*ต่างหาก....จักรพรรดิแมนจู*โปรดปรานโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมของจีน ซึ่งมันก็เป็นแค่หนึ่งในวัฒนธรรมหลากหลายมากมายที่มีอยู่ของราชสำนักชิง แต่พวกนักวิชาการจีนก็นำเรื่องนี้ไปบิดเบือนเป็นเรื่องใหญ่โตว่า เป็นเรื่องของการปรับตัวให้กลายเป็นจีน (Sinicization/汉化)***
ดังนั้น สิ่งที่นายฟู่ ฉา ต้องการพูดก็คือ “เรื่องถ้วยชามไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ก็แต่จัดการไปตามขั้นตอนของพิพิธภัณฑ์ก็แค่นั้นเอง”
*“กู้กง” หมายถึงพระราชวังเดิม หรือ พระราชวังต้องห้าม ผู้นำไต้หวันได้สร้างพิพิธภัณฑ์เลียนแบบพระราชวังต้องห้ามในปักกิ่ง เพื่อเก็บโบราณวัตถุที่ขนย้ายมาจากจีนใหญ่หลังแพ้สงครามกลางเมืองในจีนเมื่อปี 1949
**ราชวงศ์ชิง หรือบ้างก็เรียก ราชวงศ์แมนจู เนื่องจากผู้สถาปนาราชวงศ์คือชนเผ่าแมนจู
***Sinicization/汉化 คือกระบวนการกำจัดหรือลดองค์ประกอบ เอกลักษณ์ หรือจิตสำนึกทางวัฒนธรรมของจีนออกจากสังคมหรือประเทศชาติ
ที่มาข่าว
台北故宫文物受损初步调查报告出炉