xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำไต้หวันลั่นสงครามกับปักกิ่งไม่ใช่ทางเลือก แต่จะเดินหน้าเพิ่มศักยภาพป้องกันตนเอง ด้านจีนโต้พรรครัฐบาลไทเปต้นเหตุความตึงเครียด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไช่ อิงเหวิน ผู้นำไทเปบอก สงครามไต้หวัน-จีนไม่ใช่ทางเลือก ย้ำยินดีเจรจากับปักกิ่ง แต่จะไม่ยอมประนีประนอมเรื่องวิถีประชาธิปไตย เสรีภาพ และอธิปไตยของชาติ ประกาศเดินหน้าเพิ่มศักยภาพการป้องกันตนเอง ซึ่งรวมถึงการเร่งผลิตอาวุธที่มีความแม่นยำสูงจำนวนมาก ด้านจีนโต้ทันควันชี้พรรคของไช่คือต้นเหตุปัญหาในปัจจุบัน ยันพร้อมรวมประเทศอย่างสันติ แต่จะไม่ยอมให้ไต้หวันแยกตัวหรือประกาศเอกราชเด็ดขาด

ในการปราศรัยเนื่องในวันชาติสาธารณรัฐจีนเมื่อวันจันทร์ (10 ต.ค.) ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน เปรียบเทียบการรุกรานยูเครนของรัสเซีย กับเป้าหมายของจีนที่ระบุว่าจะต้องนำเอาไต้หวันกลับไปรวมกับแผ่นดินใหญ่ให้ได้ในที่สุด โดยพร้อมใช้กำลังหากจำเป็น

ไช่กล่าวว่า ไต้หวันไม่สามารถเพิกเฉยต่อความท้าทายจากการเพิ่มแสนยานุภาพทางทหารของจีนที่มีต่อระเบียบโลกภายใต้เสรีภาพและประชาธิปไตย พร้อมกับระบุว่า การทำลายประชาธิปไตยและเสรีภาพของไต้หวันจะเป็นความพ่ายแพ้ร้ายแรงต่อระบอบประชาธิปไตยทั่วโลก

ความขัดแย้งระหว่างจีนกับไต้หวันอาจดึงอเมริกา ญี่ปุ่น และหลายประเทศทั่วโลกเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย รวมทั้งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากสถานะการเป็นผู้นำของไต้หวันในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้ในอุปกรณ์ทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ทโฟนจนถึงแท็บเล็ต และเครื่องบินขับไล่

ช่วงหลายปีมานี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเพิ่มความกดดันทางการทูต เศรษฐกิจ และการทหารต่อไต้หวัน โดยกำหนดให้ไต้หวันเป็นองค์ประกอบสำคัญในโครงการ “ฟื้นฟูชาติ”

ทว่า ไช่ประกาศว่า การเป็นส่วนหนึ่งของจีนเป็นสิ่งที่ชาวไต้หวันรับไม่ได้ และประชาชนและพรรคการเมืองจำนวนมากในไต้หวันมีฉันทมติร่วมกันว่า ไต้หวันต้องปกป้องอธิปไตย ตลอดจนถึงวิถีประชาธิปไตยและเสรีภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไต้หวันจะไม่ประนีประนอมเด็ดขาด

ผู้นำไทเปสำทับว่า การเคารพความมุ่งมั่นของชาวไต้หวันที่มีต่ออธิปไตย ประชาธิปไตย และเสรีภาพจะเป็นรากฐานสำหรับการฟื้นการปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ระหว่างช่องแคบไต้หวัน

ไต้หวันมีแสนยานุภาพทางทหารด้อยกว่าจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีกองทัพขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในแง่กำลังพล และเพิ่มสมรรถนะด้านต่างๆ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา

บรรดาพันธมิตรเรียกร้องให้ไต้หวันใช้ “ยุทธศาสตร์เม่น” แบบอสมมาตรที่จะทำให้กองทัพขนาดใหญ่กว่าของจีนบุกไต้หวันได้อย่างยากลำบาก แบบเดียวกับกองกำลังยูเครนที่มีขนาดเล็กกว่าแต่สามารถยันกองทัพมอสโกอย่างเหนียวแน่น

ระหว่างการปราศรัย ไช่บอกว่า ไต้หวันจะแสดงให้โลกเห็นว่า สามารถป้องกันตนเองได้ และเผยว่า ไต้หวันกำลังเพิ่มการผลิตขีปนาวุธที่มีความแม่นยำสูงและกองเรือประสิทธิภาพสูง รวมทั้งจัดซื้อระบบอาวุธเคลื่อนที่ขนาดเล็กที่มีความแม่นยำสูงที่จะช่วยส่งเสริมศักยภาพการรบแบบอสมมาตรที่ครอบคลุม เพื่อให้มั่นใจว่า ไต้หวันเตรียมพร้อมเต็มพิกัดในการรับมือภัยคุกคามทางทหารจากภายนอก

ผู้นำไต้หวันยังเน้นย้ำความจำเป็นในการระดมพลและฝึกฝนพลเรือนเพิ่มเพื่อให้ทำงานร่วมกับกองทัพ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ยูเครนใช้ได้ผลเป็นอย่างดีหลังถูกรัสเซียรุกราน

นอกจากนั้น ความตึงเครียดทางการทหารในช่องแคบไต้หวันยังทำให้เกิดความกังวลมากขึ้น โดยเฉพาะในอเมริกา เกี่ยวกับการที่การผลิตชิปกระจุกตัวอยู่ในไต้หวัน

อย่างไรก็ดี ไช่ยืนยันว่า อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไต้หวันไม่ได้อยู่ในความเสี่ยง และรัฐบาลจะยังคงปกป้องความได้เปรียบและศักยภาพในกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ล้ำสมัย รวมทั้งช่วยทั่วโลกปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ และส่งเสริมบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ไต้หวันให้มีบทบาทโดดเด่นยิ่งขึ้นในตลาดโลก

ทางด้าน เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้แถลงในวันเดียวกันว่า พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของไช่เป็นต้นเหตุความตึงเครียดในปัจจุบัน พร้อมยืนยันปักกิ่งเปิดกว้างสำหรับการรวมชาติอย่างสันติ แต่จะไม่ยอมให้ไต้หวันประกาศเอกราชหรือเคลื่อนไหวเพื่อแยกตัวเด็ดขาด

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น