จีนระบุในวันพุธ (21 ก.ย.) ว่ายินดีใช้ความพยายามเต็มที่ที่สุดเพื่อรวมชาติกับไต้หวันอย่างสันติ หลังจากเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่แล้วเพิ่งซ้อมรบใหญ่รอบเกาะมังกรน้อย ขณะเดียวกัน อเมริกายังยั่วยุไม่เลิก ด้วยการส่งเรือพิฆาตติดอาวุธนำวิถีแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน พร้อมกับเรือฟรีเกตของกองทัพเรือแคนาดา
ปักกิ่งประกาศมาตลอดว่า ไต้หวันเป็นดินแดนในอธิปไตยของตนที่จะต้องนำกลับมารวมชาติกับจีนแผ่นดินใหญ่ โดยหากจำเป็นก็พร้อมใช้กำลัง ขณะที่ทางการไทเปซึ่งในอดีตก็เคยอ้างตนเองเป็นตัวแทนของจีนทั้งหมด แต่ในช่วงสิบกว่าปีหลังนี้ได้เปลี่ยนเสียงหันมาเน้นว่าตนเป็นดินแดนปกครองตนเอง และยืนกรานว่า ชาวไต้หวันเท่านั้นที่มีสิทธิกำหนดอนาคตของตนเอง
เมื่อต้นเดือนที่แล้ว จีนเปิดการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดรอบเกาะไต้หวัน เพื่อตอบโต้การเยือนไทเปของแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการยิงขีปนาวุธข้ามเกาะไต้หวัน
ทว่า ในวันพุธ (21) หม่า เสี่ยวกวง โฆษกของสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน แถลงที่กรุงปักกิ่ง ก่อนการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์ทั่วประเทศ ที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้าว่า จีนยินดีที่จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรวมชาติกับไต้หวันอย่างสันติ และย้ำความมุ่งมั่นในการปกป้องดินแดนของจีน
ทั้งนี้ จีนเสนอหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” สำหรับไต้หวัน ซึ่งคล้ายกับหลักการสำหรับฮ่องกงที่อังกฤษส่งมอบคืนสู่การปกครองของปักกิ่งในปี 1997
หม่าเสริมว่า ไต้หวันจะมีระบบสังคมต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งรับประกันว่า คนไต้หวันจะมีเสรีภาพในการดำเนินชีวิต ซึ่งรวมถึงเสรีภาพทางศาสนา แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดล่วงหน้าที่รับประกันอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ในการพัฒนาของประเทศ
ข้อเสนอเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และพวกพรรคการเมืองกระแสหลักทั้งหมดในไต้หวันได้ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งแทบไม่ได้รับการสนับสนุนจากชาวไต้หวันเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากปักกิ่งบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงในปี 2020 หลังจากมีการประท้วงใหญ่ต่อต้านรัฐบาลและต่อต้านจีนอย่างรุนแรงที่นั่น
นอกจากนั้น จีนยังไม่เคยปฏิเสธว่าอาจจะใช้กำลังเข้าควบคุมไต้หวัน รวมทั้งในปี 2005 ยังผ่านกฎหมายที่ให้กองทัพจีนสามารถจัดการไต้หวันได้ หากไต้หวันแยกประเทศหรือดูเหมือนเตรียมการแยกประเทศ
ตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ขึ้นครองอำนาจในไต้หวันเมื่อปี 2016 จีนก็ปฏิเสธไม่ยอมเจรจาด้วย เนื่องจากเห็นว่าเธอเป็นพวกสนับสนุนการแบ่งแยกประเทศ ทั้งนี้ ไช่เสนอหลายครั้งให้มีการเจรจาอย่างเท่าเทียมและเคารพกันและกัน
แต่ก่อนหน้านั้น เมื่อปี 2015 หม่า อิงจิ่ว ประธานาธิบดีไต้หวันคนก่อนหน้าไช่ ได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่สิงคโปร์ ซึ่ง ฉิว ไคหมิง หัวหน้าแผนกวิจัยของสำนักงานไต้หวันของพรรคก๊กมินตั๋งของหม่า กล่าวให้ความเห็นว่า การพบกันระหว่างสีกับหม่าแสดงถึงความยืดหยุ่นทางยุทธศาสตร์ที่มีต่อไต้หวัน และทำให้โลกเห็นว่า คนจีนทั้งสองฟากฝั่งช่องแคบไต้หวันฉลาดและมีความสามารถเพียงพอในการแก้ปัญหาของตนเอง
สำหรับการแถลงของโฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีนคราวนี้ เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากเรือรบของอเมริกาและของแคนาดา แล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน ในภารกิจที่มุ่งท้าทายจีน
กองทัพเรือสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันอังคาร (20) ว่า การปฏิบัติภารกิจร่วมกับกองทัพเรือแคนาดาคราวนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของอเมริกาและพันธมิตรซึ่งมีต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง
ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบหนึ่งเดือนที่เรือของกองทัพเรืออเมริกันล่องผ่านช่องแคบไต้หวัน และครั้งที่ 2 นับจากเดือนตุลาคมปีที่แล้วที่เป็นปฏิบัติการร่วมกันระหว่างอเมริกากับแคนาดา
ขณะที่ สือ อี้ โฆษกกองทัพจีน แถลงว่า กองทัพได้ติดตามและเตือนเรือพิฆาตติดอาวุธนำวิถี ยูเอสเอส ฮิกกินส์ ของอเมริกา และเรือฟรีเกต เอชเอ็มซีเอส แวนคูเวอร์ของแคนาดา และเสริมว่า กองทัพจีนจะปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างเด็ดขาด
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)