สีจิ้นผิงพบปูติน ประกาศความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย “มั่นคงดุจภูผา” สร้างระเบียบโลกที่เท่าเทียมและเป็นธรรม ส่งสัญญาณสนับสนุนซึ่งกันและกันเรื่องไต้หวัน-ยูเครน
ผู้นำจีนและรัสเซียพบกันนอกรอบการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่อุซเบกิสถาน เมื่อวันที่ 15 กันยายน เป็นการเดินทางออกนอกประเทศจีนครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ของผู้นำจีนหลังเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นการพบกันครั้งแรกหลังสงครามรัสเซีย-ยูเครน
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญ เพราะจีนและรัสเซียต่างต้องการกันและกันในการสนับสนุนประเด็นความมั่นคงของประเทศตน คือเรื่องไต้หวัน และยูเครน
ในวันเดียวกัน คณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภาสหรัฐฯ อนุมัติผ่าน “ร่างรัฐบัญญัตินโยบายไต้หวัน” ซึ่งจะเปิดทางให้สหรัฐฯ เพิ่มความช่วยเหลือทางทหารมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์แก่ไต้หวัน และยกระดับให้ไต้หวันได้รับฐานะเป็น “พันธมิตรสำคัญนอกนาโต”
ขณะที่รัสเซียกำลังเผชิญการโต้กลับจากยูเครน ที่ได้รับการสนับสนุนอาวุธเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ และนาโต จนสามารถยึดคืนพื้นที่ได้หลายแห่ง
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยืนยันสนับสนุนนโยบาย “จีนเดียว” และกล่าวว่า “สหรัฐฯ พยายามสร้างโลกแบบขั้วอำนาจเดียว และในช่วงนี้ยิ่งกระทำการอย่างน่าเกลียดอย่างยิ่ง และยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง”
ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง กล่าวว่า จีนจะทำงานร่วมกับรัสเซียตามความรับผิดชอบในฐานะประเทศที่สำคัญ และมีบทบาทนำในการสร้างเสถียรภาพ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและความไร้ระเบียบในโลก
ทั้งจีน และรัสเซียต่างเผชิญการท้าทายจากชาติตะวันตกมากขึ้น การประชุม SCO ครั้งนี้จึงเป็นเวทีของกลุ่มประเทศที่ “ยืนตรงข้ามตะวันตก” เพื่อหวังสร้างระเบียบโลกใหม่ และยังเกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ครั้งใหญ่
จีนหวังศึกยูเครนยุติโดยเร็ว
ผู้นำรัสเซียคาดหวังให้จีนแสดงการสนับสนุนเพิ่มขึ้น แต่จีนยังสงวนท่าทีต่อสงครามยูเครน และไม่ได้สนับสนุนยุทโธปกรณ์ให้รัสเซีย จีนประณามมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก และก็ไม่ได้ฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรเช่นกัน จีนพยายามสนับสนุนรัสเซียด้วยวิธีการอื่นๆ ที่ไม่ใช่การสนับสนุนทางการทหาร
ตั้งแต่เกิดสงครามยูเครน จีนนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียเพิ่มขึ้น 17% ก๊าซธรรมชาติเหลวเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ถ่านหินเพิ่มขึ้น 6% ในช่วงครึ่งปีนี้ จีนเพิ่มการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียเกือบ 100%
ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยชิงฮวาของจีน ระบุว่า การนำเข้าพลังงานจากรัสเซียที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นเพราะจีนได้ราคาพิเศษ แต่จีนต้องการให้สงครามยูเครนยุติลงโดยเร็ว เนื่องจากสงครามนี้ทำให้ทั่วโลกเผชิญความยากลำบากทางเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อการค้าของจีนเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในทางการเมืองก็เกิดการแบ่งขั้นมากขึ้น แม้แต่ในประเทศจีนเองก็มีทั้งกลุ่มที่สนับสนุนรัสเซียและต่อต้านรัสเซีย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทั้งการเมืองภายในประเทศจีนของ และสร้างความยากลำบากในการดำเนินนโยบายต่างประเทศด้วย.