กู่อ้ายหลิง (谷爱凌) เป็นสาวนักกีฬาสกีฟรีสไตล์ ลูกครึ่งจีน-อเมริกันวัย 19 ปี เจ้าของฉายาใน“เจ้าหญิงหิมะ” ผู้เป็นที่รักที่ชื่นชมของชาวจีน เนื่องจากเธอมีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามโดดเด่นและทรงความสามารถหลายด้าน โดยเฉพาะการที่เธอย้ายสังกัดมาอยู่ทีมชาติจีนตอนอายุ 15 (ปี 2019) และลงสนามแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่จีนเป็นเจ้าภาพ ในที่สุดกู่อ้ายหลิงก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในสนามแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง โดยคว้าเหรียญในทุกรายการที่ลงแข่งขัน ได้แก่ เหรียญทอง 2 เหรียญ และ เหรียญเงิน 1 เหรียญ เรียกได้ว่าทำแต้มให้ปักกิ่งได้เชิดหน้าชูตาในงานระดับโลกอย่างการแข่งขันโอลิมปิกที่จีนสู้อุตส่าห์ทุ่มทุนสร้างมหาศาล หลังปิดฉากการแข่งขันในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ‘เจ้าหญิงหิมะ’ ก็ได้กลับไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ
ในวันที่ 8 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นปักกิ่ง กู่อ้ายหลิงได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอด ‘ไทม์ 100’ ประจำปี 2022 (TIME100 summit 2022; TIME100) ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีของ 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของนิตยสารไทม์ และยังได้ขึ้นเวทีปราศรัย
ในการประชุมสุดยอดของนิตยสารไทม์ปีนี้ กู่อ้ายหลิงนับเป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุด และต้องเผชิญกับคำถามที่แหลมคมจากพิธีกร ในหัวข้อต่างๆ แต่เธอก็วางตัวดีและตอบได้อย่างเหมาะสม คำตอบของเธออย่างเช่น “ฉันไม่เคยเสียใจที่ได้เป็นตัวแทนของทีมจีนในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง” “เมื่ออายุได้ 15 ปี ฉันตัดสินใจเล่นให้ทีมจีน โดยในตอนนั้นทั้งทีมจากอเมริกาและทีมจีนได้ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนโดยไม่คิดเรื่องผลประโยชน์ใด”
จากนั้นพิธีกรก็ถามคำถามที่สำคัญขึ้นว่า “เมืองซอลท์เลกซิตี้ (Salt Lake City) ของสหรัฐฯ กำลังเตรียมการเพื่อยื่นขอเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2030 และ 2034 คุณจะเปลี่ยนใจไหมถ้าเราได้เป็นเจ้าภาพจริงๆ” กู่อ้ายหลิงจึงตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า "ตอนนี้ฉันเป็นทูตการรณรงค์ยื่นขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซอลท์เลกซิตี้โอลิมปิก 2030 และปี 2034 ฉันคิดว่านี่เป็นบทพิสูจน์อันยอดเยี่ยมของโลกาภิวัตน์ ซึ่งเราสามารถหลอมรวมกลุ่มคนจากทุกพื้นที่เข้าหากันผ่านน้ำแข็งและหิมะ ฉันหวังว่าจะสร้างแรงดึงดูดให้นักกีฬามาฝึกซ้อมและเข้าร่วมการแข่งขันในเมืองซอลท์เลกซิตี้นี้มากขึ้น และยังวางแผนที่จะเชิญกลุ่มประเทศหน้าใหม่ 15 ประเทศ มาเข้าร่วมในโอลิมปิกฤดูหนาวอีกด้วย นับเป็นเรื่องที่สวยงามและสมบูรณ์แบบมาก"
นี่เป็นครั้งแรกที่ กู่อ้ายหลิงได้พูดคุยเกี่ยวกับบทบาทของเธอในฐานะทูตยื่นขอเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวของสหรัฐฯ ซึ่งได้จุดกระแสการสนทนาในประเด็นต่างๆ อย่างดุเดือดในหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะชาวเน็ตจีนบางกลุ่มดูจะผิดหวังไปตามๆ กัน เพราะกู่อ้ายหลิงเป็นเชื้อสายจีนและได้ย้ายสังกัดมาลงทีมชาติจีน กลายเป็น “ลูกรักของจีน” ชาวจีนต่างชื่นชมเธอจนเกิด “ฟีเวอร์กู่อ้ายหลิง” ขึ้นในจีน สื่อจีนหลายสำนักระบุว่า กู่อ้ายหลิงได้ใช้ ‘สัญชาติจีน’ ในการลงทะเบียนแข่งขันกีฬาในทีมชาติจีน (แต่ตัวเธอเองไม่เคยออกมาพูดชัดเจนว่า ‘เธอทิ้งสัญชาติอเมริกันไปแล้ว’ หรือไม่ ซึ่งกลายเป็นประเด็นถกเถียงไปทั่วโลก) ดังนั้น การที่เธอหันมาเชียร์และช่วยสหรัฐฯ ชิงตำแหน่งเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์จึงก่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะในกลุ่มชาวเน็ตจีนที่คลั่งไคล้เธอ
เพียง 2 วัน ที่มีข่าวแพร่ออกไปว่า “กู่อ้ายหลิงจะเป็นทูตยื่นขอเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2030 และ 2034 ให้สหรัฐฯ” คลื่นความเห็นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่า 440 ล้านชิ้น ก็ไหลบ่าเข้ามาในเวยปั๋วซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียยอดนิยมของจีนคล้านทวิตเตอร์ โดยบางความเห็นรุนแรงถึงกับว่า “เธอเป็นคนของประเทศไหนกันแน่?!” บ้างก็จวกว่า “เมื่อเธอทำเงินในจีนก็เป็นคนจีน เมื่อเธอทำเงินในสหรัฐฯ ก็เป็นอเมริกัน”
ทั้งนี้ กู่อ้ายหลิงเป็นลูกครึ่งเลือดผสมจีน-อเมริกัน เกิดที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ และเคยลงแข่งขันให้ทีมชาติสหรัฐฯ มาก่อนจนอายุ 15 ปี (ปี 2019) ก็เป็นพื้นฐานที่เธอจะรับตำแหน่งทูตตัวแทนของสหรัฐฯ ในการยื่นขอเป็นเจ้าภาพจัดงานซอลท์เลกซิตี้โอลิมปิก 2030 และ 2034
เมื่อสิบปีที่แล้ว หลิวเซียง (刘翔) (นักกระโดดข้ามรั้ว 110 เมตรชาวจีน) ได้ออกมาปฏิเสธว่าเขาไม่ได้เป็นทูตการรณรงค์ยื่นขอเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิก2012 ของปารีส ซึ่งขณะนั้นเขาเป็นเพียงทูตวัฒนธรรมของฝรั่งเศสในการสนับสนุนและรณรงค์ยื่นขอเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกเท่านั้น อีกทั้งปารีสก็ชวดได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2012 โดยลอนดอนได้ครองฐานะเจ้าภาพ
แต่กู่อ้ายหลิงพูดอย่างชัดเจนว่า “นี่เป็นบทพิสูจน์อันยอดเยี่ยมของโลกาภิวัตน์ ซึ่งเราสามารถหลอมรวมกลุ่มคนจากทุกพื้นที่เข้าหากันผ่านน้ำแข็งและหิมะได้” คำพูดนี้แสดงให้เห็นว่า กู่อ้ายหลิงข้ามพ้นขอบเขตน้ำแข็งและหิมะได้ และเป็นที่ประจักษ์ว่า นักกีฬาระดับโลกอย่างเธอนั้นมีอิทธิพลระดับโลก จากความสำเร็จในสนามแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง ทำให้เธอเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ทั้งเสียงชื่นชมและยกย่องจากผู้คนทุกหนทุกแห่ง
ในปี 2007 เซินเสวี่ยและจ้าวหงปั๋ว (申雪,赵宏博) นักเล่นสเก็ตคู่ชาวจีนชื่อดัง ก็เคยทำหน้าที่เป็นทูตการรณรงค์ยื่นขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาพย็องชังโอลิมปิกให้เกาหลีใต้ และในปี 2008 ติงจวิ้นฮุย (丁俊晖) ทำหน้าที่เป็นทูตการรณรงค์ยื่นขอเป็นเจ้าภาพจัดงานลอนดอนโอลิมปิกของอังกฤษด้วยเช่นกัน
ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าหญิงหิมะผู้นี้ก็มีสิทธิเลือกว่าจะทำหน้าที่ให้ฝ่ายใด ในช่วงนี้เธอต้องออกงานอีเวนต์มากมายและตารางงานของเธอก็แน่นเอี้ยดมาก ทำให้มีเวลาน้อยมากในการฝึกเล่นสกี แต่เธอยังหวังว่าจะได้กลับมามีเวลาเล่นสกีมากขึ้นและสร้างชื่อเสียงให้ทีมชาติจีนอีกครั้งในอนาคต
ที่มาข่าว : 谷爱凌将担任美国申奥大使:这是全球化一个绝佳的佐证
US-born skier Eileen Gu, who won Olympic gold forChina, is now an ambassador for Salt Lake City's Winter Olympics bid
New China Insights : สาวน้อยลูกครึ่งมากความสามารถ ‘กู่อ้ายหลิง’ ทำไมถึงได้ดังปัง?
"กู่ อ้ายหลิง" กับการสละสัญชาติอเมริกัน