ในวงการแฟชั่นจีน มีดีไซเนอร์หญิงอยู่ผู้หนึ่ง ชื่อ ‘กัวเผย’ ปัจจุบันวัย 55 ปี เธอสร้างสรรค์ผลงานออกแบบได้อย่างโดดเด่น จนได้เป็น ‘กูตูริเยร์’ (ผู้สร้างสรรค์เสื้อผ้าแฟชั่นชั้นสูง) คนแรกของเอเชีย และผลงานของเธอได้ผงาดบนแคตวอล์กระดับอินเตอร์ไม่ขาดสายมาตลอดช่วง 5-6 ปีมานี้
ผลงานโดดเด่นชุดล่าสุดของกัวเผยจัดแสดงอยู่ที่นิทรรศการ "Guo Pei: Couture Fantasy" ที่พิพิธภัณฑ์ Legion of Honor ในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน ไปจนถึงวันที่ 5 กันยายน 2022 โดยผลงานการออกแบบเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจจากองค์ประกอบอันวิจิตรในสมัยราชวงศ์จีน เสื้อผ้าในราชสำนักของยุโรป และสถาปัตยกรรมของมหาวิหาร การสร้างสรรค์ชุดราตรีและเครื่องประดับที่วิจิตรงดงามราวกับหลุดออกมาจากโลกจินตนาการเทพนิยายนั้นได้ก้าวข้ามขอบเขตงานแฟชั่น ศิลปะ และประติมากรรม ชุดอาภรณ์ล้ำยุคสมัยไปจนถึงเสื้อคลุมอลังการที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องลายคราม ล้วนมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
ความคิดสร้างสรรค์ของกัวเผยได้พัฒนาขึ้นท่ามกลางสภาพชีวิตที่ยากลำบาก เธอเกิดในปี 1967 ซึ่งเป็นช่วงต้นการปฏิวัติวัฒนธรรมจีน ช่วงนั้นครอบครัวเธอมีฐานะยากจน พ่อเป็นผู้นำหน่วยทหาร แต่เธอได้รับแรงบันดาลใจจากคุณยายที่เกิดในครอบครัวชนชั้นสูงในสมัยราชวงศ์ชิงตอนปลาย แม้ว่าคุณย่าจะถูกบังคับให้ทำลายข้าวของสมบัติส่วนตัวทั้งหมด ทั้งเสื้อผ้าเครื่องประดับ และรูปถ่ายเก่าๆ แต่ท่านได้เล่าบรรยายความงามของเครื่องแต่งกายอันวิจิตรแบบโบราณให้กัวเผยฟังบ่อยๆ ค่อยๆ หว่านเมล็ดพันธุ์จินตนาการความงามของเครื่องแต่งกายให้แก่เธอในวัยเด็ก
ต่อมาในปี 1978 สองปีหลังอสัญกรรมของเหมา เจ๋อตง และยุคปฏิวัติวัฒนธรรมจบสิ้นลงแล้ว ผู้นำ เติ้ง เสี่ยวผิง ได้ขึ้นสู่อำนาจและดำเนินนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิดประเทศ ทำให้มีการเปิดกว้างทางสัมคม กัวเผยจึงได้เข้าโรงเรียนการออกแบบแฟชั่นที่จัดตั้งขึ้นใหม่ของรัฐบาล แต่ในขณะนั้นทั้งนักเรียนและครูแทบไม่รู้จักหรือได้เห็นผลงานแฟชั่นระดับโลกกันสักเท่าไร กัวเผยจึงได้แต่หาแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ อย่างเช่น Gone with the Wind และนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ของโลกตะวันตก ครูได้ส่งเธอไปเรียนที่โรงละคร ระหว่างยุคปฏิวัติวัฒนธรรมยังมีการแสดงทางศิลปะหลงเหลืออยู่บ้าง นั่นก็เพราะนางเจียงชิง ผู้นำการปฏิวัติวัฒนธรรม และภรรยาของเหมา เจ๋อตง เป็นอดีตนักแสดง
ในยุคนั้นประชาชนทั้งประเทศจีนสวมชุดสีน้ำเงินและชุดสีเทา มีเพียงโรงละครเท่านั้นที่เป็นเวทีให้นักออกแบบเครื่องแต่งกายสามารถแสดงออกศิลปะการออกแบบของพวกเขาได้ และ เวทีการแสดงนี้เองได้ส่งอิทธิพลอย่างลึกซึ้งให้กัวเผย ในด้านการออกแบบเครื่องแต่งกายและการแสดงแฟชั่นโชว์บนแคตวอล์ก
กัวเผยเปิดเผยอีกว่า "ตอนที่ฉันทำโปรเจกต์เพื่อจบการศึกษา ฉันอยากทำชุดกระโปรงบานมากเป็นพิเศษ อย่างกระโปรงแบบที่ฉันเห็นในภาพยนตร์ตะวันตก แต่ฉันไม่รู้วิธีเย็บด้านในของกระโปรง ก็เลยไปที่โรงละครและถามช่างตัดเสื้อผ้าว่าพวกเขาสามารถช่วยฉันได้ไหม พวกเขาพาฉันไปที่หลังเวทีและแสดงให้ฉันเห็นโครงไม้ไผ่และกระโปรงซับในที่ซ่อนอยู่ในกระโปรงชั้นนอก ซึ่งช่วยเปิดหูเปิดตาโลกแฟชั่นให้แก่ฉัน ช่วยการออกแบบงานตัดเย็บของฉันจนสำเร็จ ประสบการณ์จากโรงละครเป็นจุดเริ่มต้นการทำกระโปรงบานของฉัน”
และแล้ว กัวเผยก็สำเร็จการศึกษาด้วยคะแนนสูงสุดในชั้นเรียน และเข้าสู่วงการแฟชั่นซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเกิดใหม่ของจีนได้สำเร็จ แต่เธอไม่อาจปล่อยพลังสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ จนกระทั่ง เธอได้ก่อตั้งบริษัทออกแบบของตัวเอง คือ Rose Studio ในปี 1997 จากนั้นก็เริ่มปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ของเธออย่างเต็มที่
งานออกแบบของกัวเผยขึ้นชื่อเรื่องการปักที่วิจิตรประณีตแบบที่อลังการ แม้ว่าช่วงที่เธอเริ่มออกแบบแฟชั่นแทบจะหาช่างปักผู้เชี่ยวชาญไม่ได้เลย เพราะการสอนงานปักในจีนถูกละทิ้งตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930 จนถึงช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม ดังนั้น จึงแทบไม่หลงเหลือช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญงานปักอยู่เลย กัวเผยจึงต้องเดินทางไปยังพื้นที่ชนบทรอบกรุงปักกิ่งเพื่อค้นหาช่างที่มีฝีมือในงานตัดเย็บแต่งานของพวกเขายังเป็นงานพื้นๆ กัวเผยจึงใช้งานปักลวดลายที่เธอได้จากยุโรปมาเป็นแบบการสอน และค่อยๆ ฝึกฝนพัฒนาทักษะของช่างปัก ดังนั้น งานปักลวดลายของกัวเผยจึงเป็นแบบที่ผสมผสานความงดงามแบบตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน และกลายเป็นเอกลักษณ์ผลงานออกแบบชุดเสื้อผ้าของกัวเผย
นิทรรศการผลงานออกแบบชุดเสื้อผ้าของกัวเผยครั้งแรก คือ "China : Through the Looking Glass" จัดแสดงเมื่อปี 2015 ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทนในนิวยอร์ก ชุดเสื้อผ้าที่ถูกนำมาแสดงในงาน รวมถึงผลงานซิกเนเจอร์ของกัวเผย คือชุด "มหาสุวรรณ" (大金) ตัวเสื้อท่อนบนและกระโปรงทรงระฆังขนาดมหึมานั้นปักด้วยด้ายสีทองและสีเงินทั้งผืน ต้องใช้เวลา 2 ปีกว่าจะตัดเย็บได้สำเร็จ และค่าใช้จ่ายในการตัดเย็บถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 34 ล้านบาท)
ความสามารถของกัวเผยได้รับความสนใจจากนานาชาติอย่างมาก เมื่อเธอออกแบบชุดราตรีสีเหลืองมะนาวที่ตกแต่งอย่างหรูหราให้ริฮานน่า (Rihanna) เพื่อเข้าร่วมงาน Met Gala 2015 ผู้คนทั่วโลกต่างตะลึงกับกระโปรงยาว 4.3 เมตร หนัก 25 กิโลกรัม ชาวตะวันตกได้เห็นถึงพรสวรรค์ของนักออกแบบแฟชั่นชาวจีนจากผลงานสร้างสรรค์แฟชั่นชุดเสื้อผ้าของกัวเผย ที่ผงาดบนเวทีแฟชั่นระดับอินเตอร์มาตลอด 5-6 ปี
โทมัส พี. แคมป์เบลล์ ผู้อำนวยการ และซีอีโอของ Fine Arts Museums of San Francisco กล่าวถึงผลงานของกัวเผยว่า
“เธอไม่ได้ถูกพันธนาการด้วยความรู้สึกที่หวือหวาหหรือฉาบฉวย แนวทางการสร้างสรรค์ความงามของเธอหล่อหลอมขึ้นจากหลากหลายแนวที่กระตุกจินตนาการอันรุ่มรวย ฉันยังไม่เห็นใครที่ถ่ายทอดความงามได้อย่างกว้างขวางและไปไกลที่สุดเท่าเธอ"
ที่มา : 中国时装设计师郭培锦绣华袍惊天下