ส่องนวัตกรรมวัสดุตกแต่งบ้าน ขานรับวิถีชีวิตใหม่ยุคนิว นอร์มอล แบบไหนที่ใช่ ใช้ได้กับบ้านของเรา

จบไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ “สถาปนิก 65” งานแฟร์ที่ว่าด้วยเรื่องของเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ทรงพลังที่สุดประจำปี ที่ดึงดูดให้สถาปนิกและดีไซเนอร์ในแวดวงออกแบบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่เป็นทั้งผู้นำเสนอผลงานต่างๆ อย่างน่าสนใจ และเป็นทั้งผู้เยี่ยมชม รวมถึงประชาชนทั่วไปที่สนใจการตกแต่งบ้าน มาอัปเดตเรื่องราวใหม่ๆ เห็นถึงความเป็นไปได้ของวัสดุที่เปลี่ยนไป ก่อนจะนำไปรังสรรค์เป็นผลงานที่สร้างสรรค์และยั่งยืนต่อไปในอนาคต

หลังจากที่ห่างหายกันไปนานเกือบ 2 ปี จากโควิดเอฟเฟกต์ ในฐานะผู้ชมทางบ้าน หรือเจ้าของบ้านที่กำลังมองหาเทรนด์ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ของวัสดุตกแต่งบ้านที่สามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับบ้านยุคสมัยใหม่ที่เขาเรียกกันว่า นิว นอร์มอลว่ามีอะไรที่น่าสนใจและน่าจะนำมาใช้กับบ้านเราได้ง่ายๆ โดยไม่ยุ่งยากกันดีกว่า

นวัตกรรมแบบ Health & Wellness

นวัตกรรมของวัสดุตกแต่งกลุ่มนี้นับว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่เพียงแค่ดีไซน์ที่สวยงาม หลากหลายให้เลือก แต่ยังผสมผสานนวัตกรรมใหม่ๆ ที่คำนึงถึงความสมดุลและความลงตัวของการใช้ชีวิตและธรรมชาติที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องปูพื้น บุผนัง หรือก๊อกน้ำ และสุขภัณฑ์ ให้พื้นที่ภายในบ้านเป็นพื้นที่ความสดชื่น Refresh และ Restart การเริ่มต้นใหม่ในแต่ละวันด้วยสุขอนามัยที่ดี เริ่มต้นที่

กระเบื้อง AIR ION กระเบื้องฟอกอากาศที่สามารถดักจับฝุ่น PM2.5 ได้ถึง 89% พร้อมเพิ่มมวลอากาศสดชื่นตลอด 24 ชม.โดยไม่ใช้ไฟฟ้า ด้วยการปล่อยไอออนลบระดับ 3,000 ions/cm3 เพื่อทำปฏิกิริยาเข้าจับฝุ่นที่ลอยในอากาศ และนำฝุ่นละอองตกลงสู่พื้นให้คุณหายใจในอากาศที่สะอาด เมื่อติดตั้งกระเบื้อง AIR ION เพียง 40% ของพื้นที่ภายในห้อง หรือเท่ากับผนัง 2 ด้านของห้อง หรือพื้น+ผนัง 1 ด้าน สามารถดูแลรักษาทำความสะอาดได้เหมือนกับกระเบื้องทั่วไป

กระเบื้อง Hygienic Tile กระเบื้องยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่มีการผสมสารซิลเวอร์นาโน สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้มากกว่า 90% ตลอดอายุการใช้งาน ที่ผ่านการรับรองผลการทดสอบ และควบคุมโดยมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น JIS Z-2801 ทนต่อทุกสภาพการใช้งาน ช่วยให้ลดความเสี่ยงจากการได้รับเชื้อจากการสัมผัส และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม เป็นอีกหนี่งนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัย เพราะเชื้อแบคทีเรียเกิดขึ้นได้ทุกวัน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น ห้องครัว ห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น ห้องที่มีทางเดินเข้าจากภายนอกอาคาร

ที่มาฟังก์ชันอัตโนมัติที่หลากหลายครบครัน โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่จะช่วยเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพการควบคุมได้อย่างเหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นระบบชำระล้างอัตโนมัติ “Powerful Jet” รวดเร็ว หมดจด ทรงพลัง ใช้น้ำเพียง 3.8 ลิตร ประหยัดน้ำได้ถึง 35% เมื่อเทียบกับสุขภัณฑ์รุ่นทั่วไป และระบบเปิดปิดฝาอัตโนมัติ ตรวจจับความเคลื่อนไหวผ่าน Microwave Technology ทำให้ระบบมีความรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น และระบบฝารองนั่งอุ่น เพื่อความรู้สึกผ่อนคลายในระหว่างใช้งาน พร้อมเทคโนโลยีสารเคลือบ Ultra Clean+ ลดการสะสมแบคทีเรียได้เองถึง 99% ภายใน 24 ชม.

นวัตกรรมที่ “เลือกได้” เพื่อความสมดุลของชีวิตรูปแบบใหม่

นวัตกรรมของวัสดุกลุ่มนี้นับว่ามีสีสันถูกใจนักออกแบบเจน Y หรือแม้กระทั่งผู้ที่ชอบเลือกสรรไอเท็มตกแต่งในบ้านเองไปหลายคนในในปีนี้ คือการนำเสนอ “SOLUTION IN A BOX” อีกหนึ่งไอเดียใหม่ของสุขภัณฑ์ก๊อกน้ำคอตโต้ ที่ช่วยลดขั้นตอนให้ทุกอย่าง “ง่ายขึ้น” เปิดประสบการณ์ใหม่ Mix & Match ทั้งสีสันและรูปแบบให้ลูกค้าออกแบบ ปรับ หรือเปลี่ยน และเพิ่มเติมสีสันให้มุมโปรดในห้องน้ำ อย่างก๊อกน้ำ อ่างล้างหน้า และเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างถูกใจลงตัว พร้อมส่งถึงบ้านง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว เพียงเข้าชมสินค้าได้ที่ www.cotto.com/in-a-box

โดยในปีนี้คอตโต้มีซีรีส์ใหม่มานำเสนอในงาน หลังจากที่สุขภัณฑ์ระบบไร้สัมผัสได้รับความนิยมเป็นอย่างดี ด้วยรูปแบบการใช้งานง่าย และติดตั้งโดยไม่ต้องต่อไฟฟ้า เพราะติดตั้งเหมือนสุขภัณฑ์ปกติทั่วไปได้เลย โดยรุ่นใหม่เสริมหลักในด้าน ergonomic นอกจากไม่ต้องเอื้อมหรือบิดตัวไปกดชำระล้าง เนื่องจาก unit ส่งสัญญาณจะติดตั้งที่ใดก็ได้ในระยะ 3 เมตรจากตัวโถแล้ว ตัวฝารองนั่งยังเพิ่มดีไซน์โค้งเว้าพิเศษเพื่อรองรับสรีระ ให้นั่งสบายยิ่งขึ้น พร้อมทั้งพื้นผิวภายในโถสุขภัณฑ์สะอาดด้วยเทคโนโลยีสารเคลือบ Ultraclean+ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย 99% ภายใน 24 ชั่วโมง

ก๊อกน้ำเซ็นเซอร์ SENSOR FAUCET ก๊อกน้ำคอตโต้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมายาวนานกว่า 22 ปี ด้วยการช่วยประหยัดน้ำมากกว่า 45% และได้ช่วยประหยัดน้ำไปแล้วกว่า 1,800 ล้านลิตรต่อปี สำหรับก๊อกน้ำเซ็นเซอร์จากคอตโต้ เพิ่มเรื่องความแม่นยำของระบบไร้สัมผัส พร้อม Auto Shut-off 30 วินาทีเพื่อการใช้น้ำที่มีคุณค่ามากขึ้น และติดตั้งง่ายด้วยระบบติดตั้งใหม่ไม่ต้องต่อไฟ ใช้เพียงถ่านไฟฉายก็ใช้พลังงานได้นานกว่าปี และปลอดภัยไร้กังวลเพราะชุดเซ็นเซอร์ผ่านมาตรฐานป้องกันน้ำและความชื้น

ปิดท้ายกันด้วยนวัตกรรมพิเศษสุดที่สะท้อนถึงการตระหนักในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่น่าสนใจในปีนี้คือ กระเบื้องในกลุ่ม ECO COLLECTION จาก COTTO ที่ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ โดยการนำ WASTE ในกระบวนการการผลิตนำหมุนกลับมาใช้ใหม่ 80% ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ 80% ลดการปล่อยก๊าซ Co2 จากการขนส่ง 75% เทียบเท่ากับเราปลูกต้นไม้ใหญ่กว่า 944 ต้น กระบวนการหมุนเวียนน้ำ ลดการใช้น้ำใหม่ 25% อีกทั้งปราศจากสารอินทรีย์ระเหย และสารเคมีโลหะหนักที่มีผลต่อธรรมชาติ และมนุษย์