กลุ่มสื่อต่างชาติ รายงาน (23 ต.ค.) หัวเหวย (Huawei) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนเปิดเผยว่า รายได้ของบริษัทในไตรมาส 3/2563 ชะลอตัวลงอย่างรุนแรง จากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
รายงานระบุว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ หัวเหวยมีรายได้ 6.713 แสนล้านหยวน หรือราว 31.46 แสนล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 9.9 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งหัวเหวยเติบโตถึงร้อยละ 24.4
ในไตรมาส 3 หัวเหวยมีรายได้รวม 2.173 แสนล้านหยวน หรือราว 10.17 แสนล้านบาท เติบโตเพียงร้อยละ 3.7
หัวเหวยระบุว่า ห่วงโซ่อุปทานของบริษัทอยู่ในภาวะกดดันอย่างมาก นอกจากนี้ ฝ่ายการผลิตก็พบกับอุปสรรคที่มากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ จะพยายามหาทางเอาตัวรอดและก้าวไปข้างหน้าต่อไป
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำหัวเหวย และออกคำสั่งที่กำหนดให้บรรดาบริษัทซัปพลายเออร์ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์การผลิตงดเว้นการดำเนินธุรกิจกับหัวเหวยโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอ้างว่าอาจสร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติอเมริกัน หลังจากที่จีนและสหรัฐฯโรมรันสงครามการค้าซึ่งมีชนวนจากข้อพิพาทด้านเทคโนโลยีอย่างมาราธอนตั้งแต่ปี 2561
มาตรการดังกล่าวบีบบังคับให้กูเกิลตัดความสัมพันธ์กับหัวเหวย ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของหัวเหวยไม่สามาถใช้ซอฟแวร์บางอย่างของกูเกิลได้ ส่งผลกระทบต่อยอดจำหน่ายสินค้าของหัวเหวยโดยตรง
นอกจากนี้ สหรัฐฯ กดดันบรรดาซัพพลายเออร์ชิปทั่วโลก ทำให้หัวเหวยไม่สามารถเข้าถึงปเซตเรือธงอย่างคิริน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโทรศัพท์มือถือได้อีกต่อไป