xs
xsm
sm
md
lg

จีนเพิ่มเครื่องมือไว้แก้เผ็ดสหรัฐฯ ออกกฎหมายให้ปักกิ่งตอบโต้ได้ ถ้าปท.ไหนควบคุมการส่งออกอย่างมิชอบ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จีนออกกฎหมายฉบับใหม่ที่มุ่งจำกัดการส่งออกสิ่งซึ่งมีความอ่อนไหว เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองความมั่นคงแห่งชาติ นับเป็นการเพิ่มเติมเครื่องมือทางนโยบายที่ปักกิ่งอาจนำเอามากวัดแกว่งเล่นงานตอบโต้สหรัฐฯ ขณะที่ความตึงเครียดโดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยี ระหว่างประเทศยักษ์ใหญ่ 2 รายนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


กฎหมายฉบับนี้ ซึ่ง คณะกรรมการประจำ ของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (รัฐสภา) ของจีน ผ่านออกมาเมื่อวันเสาร์ (17 ต.ค.) กำหนดเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม และมีเนื้อหาเปิดทางให้รัฐบาลจีน “ดำเนินมาตรการต่างตอบแทน” เพื่อตอบโต้เล่นงานพวกประเทศซึ่งใช้มาตรการควบคุมการส่งออกในทางมิชอบ และแสดงท่าทีเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติของแดนมังกร

ตามคำแถลงในเว็บไซต์ของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ การส่งออกที่จะถูกจำกัดควบคุมตามกฎหมายใหม่นี้ มีอาทิ ผลิตภัณฑ์ทางทหารและผลิตภัณฑ์ด้านนิวเคลียร์ ตลอดจนสินค้า เทคโนโลยี และบริการอื่นๆ รวมทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้วย

มาตรการล่าสุดของปักกิ่งนี้ จะทำให้จีนมีพื้นที่ช่องทางเพื่อการตอบโต้เอาคืนเพิ่มมากขึ้น ในสงครามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โจมตีใส่พวกบริษัทเทคของจีนไม่หยุดหย่อน โดยที่ทำเนียบขาวกำลังเคลื่อนไหวเพื่อเล่นงานพวกแพลตฟอร์มยอดนิยม และบริษัทสำคัญๆ ของจีน เป็นต้นว่า แอป ติ๊กต็อก และ วีแชท, บริษัทเทครายยักษ์อย่าง หัวเว่ย, และบริษัทผู้ผลิตชิป เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ป (SMIC) รวมทั้งล่าสุด มีรายงานว่า คณะบริหารทรัมป์ยังกำลังพิจารณาที่จะขึ้นบัญชีดำ “แอนต์ กรุ๊ป” เจ้าของแอปการชำระเงินยอดนิยม “อาลีเพย์” ซึ่งเป็นกิจการในเครือกลุ่มอาลีบาบา ของ แจ็ก หม่า

กฎหมายใหม่ฉบับนี้ “จัดร่างขึ้นเพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติและผลประโยชน์ต่างๆ ของประเทศชาติ” เนื้อหาของกฎหมายนี้ระบุ ขณะที่ผู้สังเกตการณ์มองว่า มันเท่ากับเป็นการเพิ่มเติมเครื่องมือด้านระเบียบกฎหมายของจีน หลังจากก่อนหน้านี้ปักกิ่งได้ประกาศปรับปรุงเพิ่มเติมรายการการส่งออกเทคโนโลยีที่จะถูกจำกัดคุมเข้ม และนำเอามาตรการบัญชีรายชื่อกิจการและบุคคลที่เชื่อถือไม่ได้ ออกมาบังคับใช้

“เมื่อมีประเทศใดๆ หรือดินแดนใดๆ ใช้มาตรการควบคุมการส่งออกไปในทางมิชอบ ซึ่งเป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติและผลประโยชน์ต่างๆ ของสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว จีนก็อาจจะใช้มาตรการต่างตอบแทน” กฎหมายฉบับนี้ระบุ

นอกจากนั้น กฎหมายฉบับนี้บอกด้วยว่า ทางการจีนจะจัดทำและปรับปรุงแก้ไขรายชื่อของสิ่งที่จะถูกควบคุมการส่งออกตามกฎหมายฉบับนี้ ตลอดจนนำออกมาประกาศเผยแพร่ “อย่างทันการณ์”

ไม่เพียงแค่ประเทศหรือดินแดนเท่านั้น บุคคลชาวต่างประเทศหรือกลุ่มชาวต่างประเทศ ก็จะถูกลงโทษตามกฎหมายฉบับนี้เช่นกัน หากพบว่าละเมิดกฎระเบียบควบคุมการส่งออก

ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตันเสื่อมทรามลงมาก จากการรณรงค์อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนของทรัมป์ ซึ่งทั้งนำเอามาตรการการขึ้นภาษีศุลกากรมาใช้กับสินค้าจีน และใช้การข่มขู่คุกคามว่าจะแบนและแซงก์ชั่นเพื่อเล่นงานกิจการด้านเทคของจีน

ขณะที่ทรัมป์กำลังเผชิญกับงานหนักหนาสาหัสในการรณรงค์หาเสียงเพื่อให้ได้รับเลือกตั้งอีกสมัยในวันที่ 3 เดือนหน้าอยู่นั้น พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้ให้เหตุผลสำหรับการดำเนินมาตรการเล่นงานจีนทั้งหลายว่าเพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ --และมันก็กลายเป็นการเร่งให้ปักกิ่งทำการตอบโต้เอาคืน

ในเดือนกันยายน จีนได้ประกาศเปิดตัวบัญชี “รายชื่อกิจการและบุคคลที่เชื่อถือไม่ได้” (unreliable entities list) ซึ่งถูกมองกันอย่างกว้างขวางว่าคืออาวุธสำหรับการตอบโต้เอาคืนสหรัฐฯ ซึ่งได้ใช้เครื่องมือทางนโยบายของตนที่เรียกว่า “รายชื่อกิจการและบุคคล” (entity list) เพื่อปิดทางไม่ให้ หัวเว่ย ดำเนินกิจการในตลาดสหรัฐฯ รวมไปถึงการห้ามพวกบริษัทอเมริกัน และกระทั่งพวกบริษัทต่างชาติที่ใช้ส่วนประกอบหรือเทคโนโลยีอเมริกัน จัดส่งชิปมาขายให้แก่หัวเว่ย อย่างไรก็ตาม เวลานี้ปักกิ่งยังไม่ได้ระบุชื่อใครในบัญชีดังกล่าวของตน ซึ่งพวกนักวิเคราะห์มองว่า จีนอาจจะรอผลเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน เพราะถ้า โจ ไบเดน เป็นผู้ชนะ เขาก็อาจจะยกเลิกนโยบายเช่นนี้ของทรัมป์

ก่อนหน้านั้น ในเดือนสิงหาคม กระทรวงพาณิชย์จีนได้ปรับปรุงเพิ่มเติมกฎระเบียบบัญชีรายการเทคโนโลยีที่จะถูกจำกัดการส่งออก โดยรวมเอาพวกเทคโนโลยี “ใช้ในด้านพลเรือน” เข้าไปในบัญชีด้วย ซึ่งนักวิเคราะห์บอกว่าปักกิ่งมุ่งให้ครอบคลุมถึง แอปติ๊กต็อก ซึ่งขณะนั้นกำลังถูกทรัมป์คุกคามให้เร่งขายกิจการในสหรัฐฯแก่พวกบริษัทอเมริกัน

(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์/MGRออนไลน์)




กำลังโหลดความคิดเห็น