กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แจ้งเตือนไปยังสถาบันการเงินต่างชาติว่าอาจเผชิญมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรง หากยังคงทำธุรกรรมกับบุคคลซึ่งอยู่เบื้องหลังการปราบปรามผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง
กระทรวงได้ส่งรายงานไปยังสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ (14 ต.ค.) โดยระบุรายชื่อบุคคล 10 คน หนึ่งในนั้นคือนาง แคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งทั้งหมดล้วนถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรไปแล้วก่อนหน้าจากกรณีการปราบผู้ประท้วงฮ่องกง พร้อมระบุว่าในอีก 60 วัน กระทรวงจะเปิดเผยรายชื่อสถาบันการเงินต่างชาติที่ยังคงทำธุรกรรมกับบุคคลที่อยู่ในบัญชีดำเหล่านี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นมาตรการตอบโต้ล่าสุดจากสหรัฐฯ หลังจากที่จีนนำกฎหมายความมั่นคงใหม่มาบังคับใช้กับเกาะฮ่องกง โดยกำหนดระวางโทษจำคุกสูงสุดตลอดชีวิตสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมบ่อนทำลายรัฐ, ก่อการร้าย, แบ่งแยกดินแดน, และสมคบคิดร่วมมือกับต่างชาติ
สหรัฐฯ และชาติตะวันตกมองว่ากฎหมายนี้ขัดต่อหลักการ “หนึ่งประเทศ-สองระบบ” ที่จีนเคยรับปากเอาไว้
รายงานของกระทรวงการต่างประเทศซึ่งจัดทำขึ้นตามระเบียบของกฎหมาย Hong Kong Autonomy Act มีขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนดิ่งเหวถึงขีดสุดในรอบหลายสิบปีจากข้อขัดแย้งต่างๆ เช่น สงครามการค้า, ประเด็นสิทธิมนุษยชน และอื่นๆ
เมื่อเดือน ส.ค. สหรัฐฯ ได้ประกาศคว่ำบาตร ลัม รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจและเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคน โดยอ้างถึงพฤติกรรมกดขี่และลิดรอนเสรีภาพทางการเมืองของประชาชนชาวฮ่องกง
ทั้งนี้ รายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้เพิ่มชื่อบุคคลใหม่ๆ และไม่ได้ระบุชื่อธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เสี่ยงถูกอเมริกาลงโทษคว่ำบาตร
อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนให้สถาบันการเงินต่างๆ รับทราบถึงความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญบทลงโทษขั้นทุติยภูมิ (secondary sanctions) ซึ่งอาจหมายถึงข้อจำกัดในเรื่องเงินกู้, อัตราแลกเปลี่ยน, ธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ การส่งออก รวมไปถึงบทลงโทษต่อตัวผู้บริหารธนาคารนั้นๆ ด้วย
นักการเมืองสหรัฐฯ และอังกฤษเคยออกมาวิจารณ์ธนาคาร HSBC และ สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด หลังจากสถาบันการเงินทั้ง 2 แห่งประกาศสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง
กฎหมาย Hong Kong Autonomy Act ที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้เมื่อวันที่ 14 ก.ค. กำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฯ จัดทำรายชื่อบุคคลที่มีส่วนทำให้จีนละเมิดพันธกรณีต่อฮ่องกงภายใน 90 วัน เพื่อนำไปสู่การคว่ำบาตร นอกจากนี้ยังให้จัดทำรายชื่อสถาบันการเงินซึ่งยังทำธุรกรรมอย่างเข้มข้นกับบุคคลเหล่านี้ภายในอีก 60 วันให้หลัง
กฎหมายฉบับนี้เปิดทางให้ผู้นำสหรัฐฯ สามารถคว่ำบาตรบุคคลหรือสถาบันการเงินที่มีชื่ออยู่ในบัญชีดำ ภายใน 1 ปีนับจากวันที่ประกาศ
ที่มา: รอยเตอร์