กลุ่มสื่อต่างประเทศรายงาน (31 ส.ค.) “หวัง อี้” มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า จีนจะทำให้สาธารณรัฐเช็กต้องจ่ายราคาอย่างหนักจากพฤติกรรมที่ไร้วิสัยทัศน์และการฉวยโอกาสทางการเมือง
รายงานระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์ (30 ส.ค.) นายไมลอส วิสเตอร์ซิล ประธานวุฒิสภาสาธารณรัฐเช็กพร้อมคณะ 90 คนเดินทางถึงไทเป โดยในระหว่างกำหนดการเยือน 5 วัน จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติไต้หวัน และเข้าเยี่ยมคารวะ “ไช่ อิง-เหวิน” ผู้นำหญิงแห่งไต้หวัน
ประธานวุฒิสภาสาธารณรัฐเช็กเปิดเผยก่อนออกเดินทางว่า สาธารณรัฐเช็กจะไม่โอนอ่อนต่อการคัดค้านของปักกิ่ง
เมื่อวันพฤหัสบดี (27 ส.ค.) นายจ้าว หลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า การเดินทางของนายวิสเตอร์ซิลเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจและเป็นการจงใจทำลายรากฐานการเมืองของความสัมพันธ์จีนกับสาธารณรัฐเช็ก
ก่อนหน้านี้ (10 ส.ค.) นายอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ เข้าพบประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน แห่งไต้หวันที่ทำเนียบประธานาธิบดี กรุงไทเป โดยส่งมอบคำยืนยันจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าพร้อมจะให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างเข้มแข็ง พร้อมเอ่ยชมความสำเร็จในการรับมือโควิด-19 ของรัฐบาล ไช่ ว่ายอดเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทั้งนี้ นายอเล็กซ์เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐฯ ที่ไปเยือนไต้หวันในรอบ 40 ปี
การเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีผู้นี้สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อจีนซึ่งยังคงถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน โดยปักกิ่งขู่จะมีมาตรการตอบโต้การกระทำของสหรัฐฯ
สถานการณ์ตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันเริ่มคุกรุ่นเมื่อผู้นำหญิง ไช่ อิงเหวิน จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าหรือดีพีพีซึ่งสนับสนุนอินระภาพดินแดน ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีเมื่อปี 2559
ทั้งนี้ จีนถือไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของมาตุภูมิ และย้ำเตือนมาตลอดว่าจะใช้กองกำลังในการรวมดินแดนไต้หวันกับแผ่นดินใหญ่หากจำเป็น