สหรัฐฯ ส่งเรือพิฆาตล่องผ่านช่องแคบไต้หวันอีกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 สัปดาห์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดกับแดนมังกร
กองทัพเรือสหรัฐฯ แถลงวันนี้ (31 ส.ค.) ว่า เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีชั้นอาร์เลห์เบิร์ก ยูเอสเอส ฮัลซีย์ (USS Halsey) ได้กระทำภารกิจ “เดินทางผ่านช่องแคบไต้หวันตามวงรอบปกติ” เมื่อวันอาทิตย์ (30) โดยปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศทุกประการ
“การล่องเรือผ่านช่องแคบไต้หวันสะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของสหรัฐฯ ที่จะธำรงไว้ซึ่งความเปิดกว้างและเสรีภาพในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก กองทัพเรือสหรัฐฯ จะยังคงทำการบิน, ล่องเรือ และปฏิบัติการในที่ใดๆ ก็ตามที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาต” เรียนน์ มอมม์เซน โฆษกหญิงประจำกองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ ระบุ
ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า เรือพิฆาตของสหรัฐฯ ได้ล่องผ่านช่องแคบไปทางด้านทิศใต้ และยังคงมุ่งหน้าต่อไปในทิศทางเดิม พร้อมยืนยันว่าสถานการณ์ทุกอย่างอยู่ในภาวะ “ปกติ”
ก่อนหน้านี้ เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี ยูเอสเอส มัสติน (USS Mustin) ของสหรัฐฯ ก็ได้เดินทางผ่านช่องแคบไต้หวันเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ซึ่งกองทัพจีนได้ออกมาเตือนว่าเป็นพฤติกรรมยั่วยุที่ “อันตรายอย่างยิ่ง”
จีนและสหรัฐฯ ต่างแข่งกันแสดงแสนยานุภาพทางทหารทั้งในน่านน้ำทะเลจีนใต้ รวมถึงบริเวณรอบเกาะไต้หวัน ซึ่งล่าสุดประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน แห่งไต้หวันก็ออกมาเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กิจกรรมทางทหารเหล่านี้อาจนำไปสู่เหตุกระทบกระทั่งโดยไม่ตั้งใจ
ปมพิพาทไต้หวันนับเป็นประเด็นละเอียดอ่อนอย่างยิ่งสำหรับจีนซึ่งถือว่าเกาะแห่งนี้เป็น ‘มณฑล’ หนึ่งของตน และไม่เคยปฏิเสธการใช้กำลังนำไต้หวันกลับมาอยู่ภายใต้การปกครอง
สหรัฐฯ ประกาศยอมรับหลักการจีนเดียว (One China) ตั้งแต่ปี 1979 และไม่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันเช่นเดียวกับอีกหลายๆ ประเทศ แต่ถึงกระนั้นอเมริกาก็ยังเป็นซัปพลายเออร์อาวุธและเป็นผู้สนับสนุนไต้หวันรายใหญ่ที่สุดในเวทีโลก
ที่มา: รอยเตอร์