กลุ่มสื่อต่างประเทศ รายงาน (30 ต.ค.) รัฐบาลกลางหมู่เกาะโซโลมอนระบุว่า ข้อตกลงของระหว่างเกาะ Tulagi ทางตอนกลางของประเทศกับบริษัท China Sam Enterprise Group ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของรัฐวิสาหกิจของจีน ในการเช่าพื้นที่เกาะเป็นระยะเวลา 75 ปีนั้นขัดต่อกฎหมาย
รายงานระบุว่า ก่อนหน้าเมื่อเดือน ก.ย. 2562 รัฐบาลท้องถิ่น Tulagi ได้ลงนามในสัญญาเช่าฯ เพื่อพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยจะมีการสร้างท่าอากาศยานและท่าเรือน้ำลึก และคลังเก็บน้ำมัน ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวสร้างความกังวลใจให้แก่ชาติตะวันตก ที่หวั่นเกรงว่าจีนจะใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อประโยชน์ทางการทหารในอนาคต ซึ่งจะเป็นการพัฒนาจุดยุทธศาสตร์ทางการทหารของจีนในมหาสมุทรแปซิฟิกให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
ทางด้านนายเกิ่ง สวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนให้ความเห็นระหว่างการแถลงข่าวประจำวัน ระบุว่า จีนเข้าใจดีว่ารัฐบาลท้องถิ่นได้ลงนามโดยยังไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลกลาง ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ย้ำกับบริษัทจีนอยู่เป็นระยะว่า จะต้องเคารพกฎหมายท้องถิ่นและกฎหมายระหว่างประเทศในการดำเนินกิจการในต่างประเทศ และขอให้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้หารือกับรัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอนเพื่อแก้ไขประเด็นดังกล่าวอย่างถูกต้อง
“ผมขอบอกว่าเป็นเรื่องปกติมากสำหรับบริษัทจีนในการลงทุนหรือแสวงหาโอกาสทางการค้าในในต่างประเทศ รวมถึงในพื้นที่หมู่เกาะแปซิฟิก และก็อาจจะมีประเด็นต่าง ๆ เกิดขึ้นในกระบวนการดังกล่าว” นายก่วงกล่าว
พื้นที่ในมหาสมุทรแปซิฟิกเคยเป็นที่มั่นด้านการทูตของสหรัฐฯ นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง อย่างไรก็ดี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนได้พยายามขยายอิทธิพลด้านการเมืองและการเงินในพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เมื่อเดือน ก.ย. 2562 ไต้หวันประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับหมู่เกาะโซโลมอน หลังรัฐบาลโซโลมอนตัดสินใจรับรองความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน เป็นอันยุติความสัมพันธ์ที่มีระหว่างกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526