กลุ่มสื่อจีนรายงาน (20 ต.ค.) องค์การการค้าโลกชี้มาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดของสหรัฐฯ 13 ข้อ ขัดกฎการค้าโลก
ในเดือน ธ.ค. 2556 รัฐบาลจีนได้ยื่นเรื่องร้องเรียนให้ องค์การการค้าโลก (WTO) บังคับให้สหรัฐอเมริกาปฎิบัติตามกฎการค้าโลก หลังจากที่วอชิงตันตั้งกำแพงกีดกันสินค้าจากประเทศจีน โดยอ้างว่าเป็นมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาด
หลังจากกระบวนการพิจารณานานนับ 3 ปี วันพุธที่ผ่านมา (19 ต.ค.) คณะผู้พิจารณาขององค์การการค้าโลกได้ชี้ว่า มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกานำมาใช้จำนวน13 ข้อ ละเมิดกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก เช่น วิธีการคำนวณส่วนเหลื่อมการทุ่มตลาดแบบ “Targeted Dumping” ซึ่งเป็นการพิจารณาจากการขายตัดราคาของผู้ส่งออกต่างชาติในบางช่วงเวลา หรือในบางพื้นที่ในสหรัฐฯ และวิธีการคำนวณ “Zeroing” ซึ่งทำค่าเฉลี่ยของส่วนเหลื่อมการทุ่มตลาด สูงกว่าการคำนวณตามปกติ
อย่างไรก็ดี ข้อเรียกร้องหลายข้อของจีนก็ถูกปฎิเสธโดยคณะกรรมการ เช่น ข้อกล่าวหาว่าสหรัฐฯใช้มาตรการพิเศษ ในการกำหนดอัตราการตอบโต้การทุ่มตลาดที่สูงเป็นพิเศษต่อวิสาหกิจของรัฐบาลจีน
กระทรวงพานิชย์จีนระบุในแถลงการณ์ว่า คณะผู้พิจารณาฯ เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของจีน ต่อมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดอันไม่ชอบด้วยกฎหมายของสหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมา อุตสาหกรรมหลายแขนงของจีนต่างได้รับผลกระทบจากแนวปฎิบัติดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล อุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเบา อุตสาหกรรมโลหะและแร่ธาตุ ซึ่งรวมกันแล้วมีมูลค่าการส่งออกต่อปีสูงถึง 8.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 2.9 แสนล้านบาท
ทางด้านโฆษกหน่วยงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (The United States Trade Representative : USTR) ระบุว่า สหรัฐรู้สึกผิดหวังต่อคำวินิจฉัยดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะทำการตรวจสอบรายงานอย่างละเอียด เพื่อพิจารณาการดำเนินงานขั้นต่อไป ทั้งนี้ ไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถริดรอนความพยายามในการต่อต้านการทุ่มตลาดของสหรัฐได้
อย่างไรก็ดี รายงานระบุว่า ทั้งจีนและสหรัฐยังมีสิทธิอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะผู้พิจารณาได้ภายในเวลา 60 วัน