เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์--กลุ่มนักลงทุนแห่ซื้อหุ้นในภาคอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการป้องกันดินแดนในตลอดฮ่องกงและตลาดแผ่นดินใหญ่เป็นวันที่สอง หลังจากที่ศาลประจำอนุญาโตตุลาการแห่งกรุงเฮก ตัดสินว่าจีนไม่มีสิทธิตามกฎหมายในการอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้เมื่อวันอังคาร(12 ก.ค.)
บรรยากาศการซื้อหุ้นภาคอุตสาหกรรมป้องกันดินแดนยิ่งคึกคักเมื่อรัฐบาลจีนประกาศจัดตั้งบริษัทเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินแห่งชาติ ซึ่งจะเป็นใจกลางของการพัฒนาการป้องกันดินแดนและอากาศยานของประเทศในอนาคต
หุ้นบริษัท China Aerospace International Holdings ดีดตัว 1.02 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 99 สตางค์ฮ่องกง คิดเป็นอัตราเพิ่มรวม 3.2 เปอร์เซ็นต์ในวันอังคาร
ขณะที่หุ้นของ AviChina Industry & Technology ขยับขึ้น0.34 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 5.87 เหรียญฮ่องกง หลังจากที่ไต่ขึ้น 2.3 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงการซื้อขายก่อนหน้า
ส่วนหุ้นของ China Shipbuilding Industry ในตลาดเซี่ยงไฮ้ ไต่ขึ้นมา 0.42 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 7.32 หยวน ขณะที่หุ้น Sainty Marine Corp ในตลาดเซินเจิ้น ขยับขึ้น 4.97 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 10.13 หยวน หลังจากที่ได้ดีดตัวขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ในวันก่อนหน้า
คณะกรรมการกำกับดูแลทรัพย์สินแห่งรัฐ (Assets Supervision and Administration Commission) แถลงในเว็บไซต์องค์กรเมื่อวันพุธ (13 ก.ค.) คณะกรรมการฯได้รับรองแผนการลงทุนของรัฐบาลเพื่อจัดตั้งรัฐวิสาหกิจรายใหม่คือ China Aerospace Engine Group
กลุ่มนักวิเคราะห์ชี้ว่า China Aerospace Engine Group จะเป็นอภิมหาบรรษัทที่เกิดจากการควบรวมหน่วยปฏิบัติการต่าง 46 หน่วย โดยมีเป้าหมายเสริมสร้างความสามารถด้านการผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน
เป็นที่คาดว่าพญามังกรจะอัดฉีดงบฯอีกหลายแสนล้านในภาคอุตสาหกรรมการสร้างเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินทหาร ในอดีตจีนพึ่งพิงการนำเข้าเครื่องยนต์เหล่านี้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นข้อจำกัดในการขยายความสามารถทางทหาร
ทั้งนี้พญามังกรจัดให้การพัฒนาเครื่องยนต์กังหันก๊าซและเครื่องยนต์เครื่องบิน เป็นภารกิจสำคัญที่สุดในรายการพัฒนาภาคหลักๆ 100 รายการในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฯ 5 ปี ฉบับที่ 13 ที่จะดำเนินไปถึงปี 2020
ศาลอนุญาโตตุลาการแห่งกรุงเฮกได้ตัดสินเมื่อวันอังคาร (12 ก.ค.) ว่า การอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนหมู่เกาะเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ของจีนนั้น ไม่มีพื้นฐานทางกฎหมาย ขณะที่ทางพญามังกรปฏิเสธหัวชนฝา
“เราจะเกาะหุ้นภาคการป้องกันดินแดนต่อไป และแนะนำให้นักลงทุนเข้ามาซื้อ” บริษัทหลักทรัพย์ปั๋วไห่ (Bohai Securities) เขียนในรายงานเมื่อวันพุธ(13 ก.ค.)
Louis Tse Ming-kwong ผู้อำนวยการบริษัท VC Brokerage ว่า หากข้อพิพาทบานปลาย หรือเกิดความขัดแย้งปะทุขึ้นอีก แต่อย่างไรก็ตาม “ตลาดฮ่องกงและตลาดแผ่นดินใหญ่ก็จะระส่ำหนัก”
Ben Kwong Man-bun ประธานกรรมการบริหารแห่ง KGI Asia กล่าวว่าคำตัดสินของศาลกรุงเฮกยังไม่มีผลกระทบอย่างสำคัญใดต่อตลาด
“จีนและสหรัฐฯกำลังงัดข้อกันในประเด็นนี้ แต่กลุ่มนักลงทุนโดยทั่วไปไม่เชื่อว่าจะเกิดการประจันหน้ากันทางทหารในทันที
ความตึงเครียดไม่สะเทือนตลาดหุ้นเนื่องจากการปิดตัวสูงทุบสถิติในดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่นิวยอร์ก ทั้งยังได้ช่วยให้ตลาดทั่วโลกกลับมาคึกคัก”
“ขณะที่ตลาดสหรัฐฯทำสถิติสูง และอังกฤษได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเบร็กซิต ก็ซาลง”
“ราคาทองและเงินเยนตกลง แสดงว่ากลุ่มนักลงทุนออกจากหลุมหลบภัย และเริ่มกลับมาลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งจะกระตุ้นตลาดฮ่องกงขณะที่การซื้อขายซบเซา”