วันที่สองในคาซการ์
กลิ่นอายความเป็นเมืองที่มีอารยธรรมมานับพันๆปีของคาซการ์นับว่ามีไม่น้อยไปกว่าอูหลู่มู่ฉี เมืองเอกของซินเจียงเลย ไม่ว่าจะมองไปทางไหนล้วนมีร่องรอยให้สืบสาววิถีความเป็นมา
หลังจากตื่นนอน ลุกขึ้นมาดื่มด่ำกับน้ำชาระอุกรุ่น เหม่อมองแนวเขาสีขาวยามเช้า พยายามเก็บภาพด้วยความสายตา หวังจะให้ภาพเหล่านั้นติดตาตรึงใจเก็บบันทึกเข้าไปในก้นบึ้งของความทรงจำ พอละสายตาก็เปิดอ่านคู่มือการเดินทางประจำวัน แค่เห็นรายการแรกเท่านั้นเองหัวใจก็เต้นถี่ๆ
10.30น. เยือนคณะนักร้องคาซการ์ คาเสิน สัมภาษณ์ชีวิตส่วนตัว “ไหมไหม่ ถีหมิง” นักร้อง-นักแสดงชนเผ่าที่รับงานแสดงยังประเทศเพื่อนบ้านมามากมาย
'ไหมไหม่ ถีหมิง นักร้อง นักแสดงชนเผ่า' อ่านแล้ว อ่านอีก เหมือนท่องจำซ้ำๆ ขณะที่ภาพของหญิงสาวหน้าตาสวย รูปร่างสัดส่วนโค้งเว้าได้ที่ ดวงตาสุกสดใส ตลอดทั้งองคาพยพมีออร่าดาราไม่น้อยไปกว่า “หลินชิงเสีย” ดาราสาวชื่อดังของฮ่องกง จากหนังดัง เดชคัมภีร์เทวดา บูรพาไม่แพ้ ขวัญใจตลอดกาลของเราลอยวนเวียนอยู่ในสมอง
อยากจะเลียนเยี่ยงจอมยุทธ์ในนิยาย ประคองถ้วยชาขึ้น กรอกตาไปมา โยกคลอนหัวไปซ้ายทีขวาที ปากก็โพร่งคำว่า 'ประเสริฐ ประเสริฐ' ดังๆสักสองสามรอบ ก่อนจะส่งน้ำชาผ่านลำคอ อมยิ้มกรุ้มกริ่มให้ตัวเอง
….
ที่โรงแสดงของคณะคาเสิน
เวทีเปิดโล่ง ม่านการแสดงเปิดแล้ว เห็นฉากหลังเป็นเถาองุ่นเลื้อยพันไปตามเสาที่แกะสลักสวยงาม ทุกอย่างพร้อมแล้วรอเพียง ไหมไหม่ ถีหมิง ปรากฎกายขึ้นร่ายรำ ร้องเพลงโชว์ความสามารถ
คาราวานนักข่าวเองก็เตรียมพร้อมรับศิลปินชื่อดัง ที่แบกอุปกรณ์ต่างก็จัดแจงหาทำเลตั้งกล้อง ที่รอสัมผัสใกล้ชิดเพื่อสัมภาษณ์ก็ควักปากกา สมุดโน๊ตรอท่า สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เวที
คาซการ์ ตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ถูกยกให้เป็นดินแดนแห่งการร่ายรำ และ ขับร้อง กว่าพันปีที่ล่วงมาในยุคสมัยของราชวงศ์สุย และ ถัง คาซการ์ถือเป็นศูนย์กลางศิลปะการร่ายรำและขับร้องและถูกนำไปเผยแพร่ยังที่ต่างๆของจีน สร้างชื่อเสียงให้คาซการ์อย่างมาก
คนจีนต่างยกย่องยอมรับคนคาซการ์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าอุยกูร์ว่า เป็นเผ่าพันธุ์ที่เกิดมาเพื่อร้องรำทำเพลง พวกเขาร่ายรำ และ ร้องเพลง ด้วยอารมณ์สนุกสนานที่ออกมาจากจิตวิญญาน เสื้อผ้าแพรพรรณที่สวยงามพลิ้วไหวไปกับจังหวะ ลีลาร่ายรำสอดคล้องเข้ากับทำนองเพลงที่สนุก เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทันสมัยอยู่เสมอ
จากวันนั้นถึงวันนี้รากฐานทางการร่ายรำและขับร้องของจีนส่วนหนึ่งจึงมาจากอดีตของคาซการ์เมืองเส้นทางสายไหมโบราณเมืองนี้
ไหมไหม่ ถีหนิง เป็นชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ก็อาจจะรับมรดกทางวัฒนธรรมของบรรพบุรุษมาเต็มที่ เธอต้องเกิดมาเพื่อสิ่งนี่แน่ๆ ร่ายรำดุจผีเสื้อเริงระบำ เสียงสดใสดั่งระฆังเงิน ...
ไม่นานนักที่ประตูทางเข้า ชายวัยกลางคน รูปร่างสันทัด เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มอันอับอุ่น เขายื่นมือมาให้เราได้สัมผัสทักทายก่อนจะเดินผ่านคณะของนักข่าวไปอย่างรวดเร็วตรงไปที่ข้างเวที
การรอคอยแม้นานและทรมานคน แต่ที่สุดก็สิ้นสุด
เมื่อชายกลางคนมาถึงข้างเวที กระซิบกระซาบกับผู้กำกับดูแลเวที ในใจเราคิดว่า ตามธรรมเนียมทั่วไปก่อนดาราชูโรงจะออก โฆษกกลางคนท่านนี้คงจะขึ้นไปปล่าวประกาศแนะนำ เลดี้ แอนด์ เจิ้นเทิ่ลแมน...หัวใจเต้นตึก ตึก จะได้เจอ ไหมไหม่ ถีหมิง เสียที
เขาก้าวขึ้นเวที กล่าวทักทาย อิสลัมมาเลกุม และพูดอะไรบางอย่างที่เราฟังไม่รู้เรื่อง เดาว่า คงเป็นการบอกเล่า สิ่งที่ท่านผู้ชม ผู้ฟัง ด้านล่างเวทีจะได้สัมผัส นั่นเป็นธรรมดาของคนทำหน้าที่โฆษก จากนั้นก็จะหลบฉากไป แต่แล้ว...เสียงเพลงค่อยๆขึ้น โฆษกท่านนั้นยืนถือไมค์ไม่ได้ลงจากเวทีกลับอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมจะร้องเพลง
เขาร้องเพลง 3-4 เพลงรวด ด้วยเสียงที่ทรงพลัง ก้องกัววานปนหวานพลิ้วในลูกเอื้อนจากลูกคอเพลงสุดท้ายเป็นเพลงที่จำง่าย เนื้อร้องกล่าวถึง ปากีสถาน ซ้ำไปซ้ำมา ภายหลังกลายเป็นเพลงประจำของกลุ่มเพื่อนใหม่ที่สนิทกันกับเราร้องตามกันได้
จนแล้วจนรอดไม่มีทีท่าจะมีสาวงาม นักร้อง นักแสดงที่เฝ้าไฝ่ฝันถึงมาหลายชั่วโมงโผล่ออกมา เมื่อเพลงสุดท้ายจบ ชายกลางคนรูปร่างสันทัดก้าวลงจากเวทีตรงดิ่งมาที่คณะนักข่าวด้านล่าง
นั่นเองที่เราต่างได้ทราบว่า ไหมไหม่ ถีหมิง ได้มายืนตรงหน้าพวกท่านแล้ว!
----
บุคคลิกภาพส่วนใหญ่ของคนอุยกูร์ดูเป็นมิตร เป็นกันเอง ไหมไหม่ ถีหนิงในวัย 60 เศษก็เป็นเช่นเดียวกัน เขาตระเวณเปิดการแสดงไปทั่วประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเคยได้รับคำเชิญมาไทยด้วยเมื่อนานมาแล้ว ชีวิตของเขาอุทิศให้กับการเผยแพร่ศิลปะการร่ายรำและการขับร้องในแบบฉบับคาซการ์
เราผิดหวังอยู่บ้างที่ไม่ได้เจอนางในฝัน แต่ไม่ผิดหวังเลยที่ได้ชมการแสดงของเขา ไหมไหม่ ถีหมิง
ออกจากโรงแสดงคาเสินด้วยความอิ่มเอมใจ เป้าหมายต่อไป คือ ดูเรื่องการจ้างงาน และ ธุรกิจเครื่องนุ่งห่มของเขตเศรษฐกิจพิเศษคาซการ์
คาซการ์อยู่ในแผนพัฒนาของเส้นทางสายไหมใหม่เช่นเดียวกับอูหลู่มู่ฉี ธุรกิจของที่นี่กำลังเบ่งบาน รัฐบาลจัดโซนพิเศษให้สิทธิพิเศษทั้งเรื่องภาษี และ ใกล้แรงงานที่มีทักษะแต่ค่าจ้างไม่สูงจนเกินไป บรรดานักลงทุนที่มาตั้งโรงงานผลิตสินค้าต่างๆซึ่งส่วนใหญ่มาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษเสินเจิ้นที่ประสบความสำเร็จมาก่อนนี้แล้ว โอกาสที่ธุรกิจของพวกเขาจะทำได้เหมือนเสินเจิ้นก็มีสูง
ตระเวณดูโรงงานผลิตเสื้อผ้าอยู่ 2-3 โรง มีส่วนที่คล้ายกัน คนหนุ่มสาววัยทำงานได้รับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำวันละใกล้เคียงกับบ้านเรา 60หยวนหรือประมาณ 300 บาท หากคิดเป็นเดือนละก็ราว 9,000-12,000 บาท ขึ้นอยู่กับทักษะฝีมือด้วย
---
เข้าๆออกๆโรงงานทอผ้าจนไม่อยากสบตาสาวฉันทนา
เนื่องเพราะ อาการระโหยโรยแรงแสดงออกมาทางหนังตา หย่อนจนรู้สึกหนักปรือลงทุกที ไม่มีกะใจจะไปสบตากับใครในสภาพเช่นนั้น ความรู้สึกอ่อนล้ากับอากาศที่ร้อนแห้งจากแสงแดดจัดทำให้ ชิวิตดี๊ดีย์ ในตอนเช้าระเหิดกลายเป็นไอลอยไปจนไม่เหลือเค้า
รถวิ่งออกจากโซนเศรษฐกิจพิเศษโดยไม่รู้ที่ไป หลับไปตอนไหนไม่ทราบตื่นมาอีกครั้งตอนที่รถจอดดับเครื่องสนิท
มองเห็นสภาพด้านนอก ผู้คนขวักไขว่ รถราจอดเรียงราย ความกระตือรือร้นกลับคืนสู่ร่างโดยทันทีที่รู้ว่า นี่คือ ตลาดคาซการ์ (Kashgar Grand Bazaar) หรือ ชื่ออย่างเป็นทางการ East Gate Grand Bazaar หรือ东门大巴扎ในภาษาจีน
Bazaar เป็นภาษาถิ่นของชาวอุยกูร์ มีความหมายว่า ตลาด ทั่วทั้งคาซการ์มี Bazaar กว่า 20 แห่ง ที่นี่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด และมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุด ข้อมูลพื้นฐานระบุว่า เกิดขึ้นมาพร้อมๆกับการเดินทางของพวกพ่อค้าวานิชตั้งแต่ยุคเส้นทางสายไหมโบราณรุ่งเรือง หรือ มากกว่า 2,000 ปีมาแล้ว
สมัยนั้นตลาดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างชาวตะวันตก จากอาณาจักรโรมัน เปอร์เซีย ไล่เรียงมาตามเส้นทางสายไหมรวมไปถึงอินเดียก่อนจะเข้าสู่จีน ชาวฮั่นคนแรกที่ค้นพบตลาดแห่งนี้ Zhang Qian ซึ่งทำหน้าที่เป็นทูตของราชวงศ์ฮั่นขณะนั้นถึงกลับรู้สึกประหลาดใจที่จะเห็นความใหญ่โตโอฬารของตลาดที่เต็มไปด้วยสินค้ามากมายก่ายกอง
สินค้าของตลาดคาซการ์ตั้งแต่ยุคนั้นจนถึงปัจจุบันมีทั้ง ผ้าไหม แพรพรรณ,พรม,ชา,ผลไม้แห้ง เช่น มะเดื่อ องุ่น , เครื่องประดับ, เครื่องดนตรี , ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน , มีด, หมวก สารพัด เนื้อที่ของตลาดครอบคลุมพื้นที่ 250 มู่ (หน่วยวัดของจีน) หรือราว 166,000 ตารางเมตร มีร้านค้ากว่า5,000 คูหา และ แผงลอยจำนวนมาก ปริมาณการค้าขายกว่า 125 ล้านหยวนต่อปี วันที่คึกคักที่สุดสำหรับตลาดนี้เป็นวันอาทิตย์ที่มีฝูงชนมาจับจ่ายใช้สอยกว่า 100,000 คน
เราได้มีโอกาสพูดคุยกับพ่อค้าผู้ซึ่งเป็นขาใหญ่ของตลาด ในร้านของเขามีสินค้าตั้งแต่เครื่องประดับหรู พรม ผ้าไหมราคาแพงไปจนถึงของที่ระลึกราคาไม่กี่หยวน เล่าให้ฟังว่า การค้าขายในช่วงหลังไม่สู้ดีนัก ลูกค้ายิ่งมายิ่งน้อยลง คาดว่า เพราะ ความทันสมัยของเทคโนโลยี การค้าขายผ่านอินเตอร์เน็ต หรือ ชอปปิ้งออนไลน์เข้ามาเบียดแย่งลูกค้าไปเยอะ
อย่างไรก็ดี ใครมาคาซการ์ก็ต้องมาเที่ยวชมร่องรอยอารยธรรมเส้นทางสายไหมที่นี่ เป็นสถานที่ที่พลาดไม่ได้
สำหรับเราไม่เพียงชื่นชมอารยธรรมพันปี หากแต่มีคำสั่งซื้อของทั้งผ้าไหมและผลไม้แห้งจำพวกองุ่นรออยู่ อาศัยเวลาที่ไม่มาก แต่สินค้ามากมีละลานตา จึงกระซิบกระซาบเหล่านางงามที่เคยผนึกกำลังกันพิชิตพ่อค้าองุ่นแห้งในตลาดอู่หลู่มู่ฉีอีกครั้ง
หลังจากบอกความต้องการของตัวเองกับนางงามสองคนเดิม แผนนางงามจึง เริ่มต้นก็อีกครั้ง
ผ้าไหมแท้100%จากราคาบอกผ่านของพ่อค้าเงินหยวนหลายสิบใบ แผนนางงามหลอกซ้ายโจมตีขวาเจรจาต่อรองจนแทบจะลดลงมาครึ่งต่อครึ่ง ผืนสอง ผืนสาม ผืนสี่...ตามมาอย่างราบรื่น
กระทั่งมาถึงแผงขายผลไม้แห้ง ไมเคิล ไกด์ท้องถิ่นลูกหลายอุยกูร์ชาวคาซการ์แท้ๆ บอกว่า ผลไม้แห้งที่นี่คือผลิตผลจากท้องถิ่นจริงๆ แต่คนคาซการ์อย่างเขาและเพื่อนๆชอบกินถั่วมากกว่า องุ่นจากคาซการ์ไม่เหมือนองุ่นจากอูหลูมู่ฉี ลูกโต รสชาติดี เมื่อมาถึง Bazaar ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ซื้อติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้าน
ดังนั้นเอง นางงามทั้งสองจึงปรี่เข้าประกบพ่อค้า ส่งสัญญานให้เราทำหน้าที่ชิมแล้วเลือก เมื่อเลือกได้ให้ใช้นิ้วชี้งอเข้าหานิ้วโป้งเป็นรูปตัวโออีกสามนิ้วที่เหลือกางออกชี้ขึ้นฟ้า พวกเธอจะเริ่มส่งภาษาจีนเผด็จศึกทันที
ทว่า ชิมองุ่นแห้งไม่กี่กระบะ หนึ่งในสองของนางงามก็เดินมาบอกว่า ไม่ต้องต่อรองราคาแล้ว ที่นี่ยังถูกกว่าที่อูหลู่มู่ฉีที่พวกเราต่อรองราคาแทบตายมากนัก คุณซื้อในราคาที่เขาบอกได้เลย เท่ากับว่าแผนนางงามไม่จำเป็นต้องใช้ที่นี่
อุดหนุนองุ่นแห้งไปเท่าที่จะหิ้วขึ้นเครื่องได้ โดยรู้สึกดีที่ราคาถูก จ่ายเงินหยวนไปไม่มากกลับได้ของมามากกว่าที่อูหลู่มู่ฉี อดไม่ได้ที่จะหวนคิดถึงพ่อค้าในตลาดอูหลู่มู่ฉีคนนั้นกับแผนนางงามของเรา
ที่แท้ใครชนะ ใครแพ้ รอยยิ้มที่มุมปากวูบนึงของเขาก่อนลานั้นได้เฉลยออกมาที่ตรงนี้เอง.
(โปรดติดตามอ่านตอนต่อไปได้ในวันอังคาร)
อ่านย้อนหลัง : ตอนที่ 1 เส้นทางสายไหมไดอารี่:ไม่ถึงซินเจียงไม่รู้ความไพศาลของผืนแผ่นดิน
:ตอนที่ 2 เส้นทางสายไหมไดอารี่(2) : ล้อหมุน
ตอนที่3 : เส้นทางสายไหม ไดอารี่ (3) อูหลู่มู่ฉีวัฒนธรรมพันปีมีอยู่ทุกที่ ทุกเวลา
ตอนที่ 4 เส้นทางสายไหมไดอารี่(4) : หุยชางจี๋ และ ความฝันครั้งใหม่
ตอนที่ 5 เส้นทางสายไหม ไดอารี่ (5) : คาซการ์