ไชน่าเดลี่ - กระทรวงต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (4 พ.ค.) เรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นหยุดชี้นิ้วกล่าวโทษประเทศจีนในข้อพิพาททะเลจีนใต้
นางหวา ชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวตอบโต้คำพูดของนาย แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และพันธมิตรญี่ปุ่น เก็น นาคาทานิ ที่การประชุมสุดยอดด้านความมั่นคงที่ประเทศสิงคโปร์ ว่าประเทศภายนอกควรเคารพต่อพันธะสัญญาและไม่ควรแทรกแซงอธิปไตย
ตามแถลงข่าวจากกระทรวงฯ ในช่วงการพูดคุยของผู้แทนสหรัฐฯ และญี่ปุ่นในวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น คาร์เตอร์และ นาคาทานิ ได้หารือเกี่ยวกับปัญหาทะเลจีนใต้ ด้วยท่าทีกล่าวโทษประเทศจีนอย่างไม่มีเหตุผล โดยแอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเตือนในที่ประชุมเดียวกันว่า การก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ของจีนบนเกาะในทะเลจีนใต้ที่ฟิลิปปินส์ จะเป็นเหตุอ้างสิทธิ์ของสหรัฐอเมริกาและชาติอื่นๆ ในการ “การดำเนินการ” เช่นเดียวกัน
การปราศรัยของคาร์เตอร์เมื่อวันเสาร์ ระบุว่า ปักกิ่งเสี่ยงที่จะโดดเดี่ยวตัวเองด้วยการขยายกำลังทหารในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาท
หวา กล่าวว่า สหรัฐฯ และญี่ปุ่นยังคงย้ำซ้ำท่าทีเดิมๆ ของพวกเขา อันไม่สอดคล้องความเป็นจริง และเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาโคมลอยกับสิ่งปลูกสร้างอันถูกต้องตามกฎหมายของจีน บนเกาะที่เกี่ยวข้อง
หวา เสริมว่า การกล่าวโทษจีนว่าก่อปัญหาความมั่นคงในภูมิภาค ทั้งที่จีนต่างหาก ที่ตกเป็นเหยื่อของการหว่านบ่มความขัดแย้งระหว่างจีนและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
"จีนขอโต้แย้งอย่างหนักแน่นในข้อกล่าวโทษนี้ และคณะผู้แทนจีนที่เข้าร่วมประชุมฯ ได้แสดงจุดยืนของเราชัดเจน" หวา กล่าวเน้นย้ำ
ประการแรก ประเทศจีนมีอธิปไตยอันไม่อาจโต้แย้งเหนือหมู่เกาะหนานซาและน่านน้ำที่อยู่ติดกัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย จีนไม่เคยยอมรับในสถานะพิพาทที่เกิดขึ้นจากการกล่าวอ้างสิทธิเหนือดินแดนจีนอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายของประเทศอื่น ๆ และจะไม่ทำเช่นนั้น
ประการที่สอง การก่อสร้างของจีนได้ดำเนินการในดินแดนของตัวเอง ขณะทีบางประเทศกลับเป็นฝ่ายมีเจตนานำแสนยานุภาพทางทหารเข้ามาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ประการที่สาม กรณีอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้ ที่เริ่มต้นเพียงฝ่ายเดียวโดยฟิลิปปินส์ ไม่ได้หมายถึงการแก้ไขยุติข้อพิพาท แต่กลับเพื่อลบล้างสิทธิและอ้างสิทธิในอาณาเขตทางทะเลของจีน รวมถึงส่วนได้เสียในทะเลจีนใต้ กรณีอนุญาโตตุลาการนี้ ได้ทำลายความศักดิ์สิทธิ์และความสมบูรณ์ของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) ละเมิดสิทธิมนุษยชนและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างรุนแรง ประเทศจีนได้แสดงความชัดเจนว่าไม่ยอมรับกระบวนการฯ อีกทั้งไม่เข้ามีส่วนร่วมใดๆ ในกระบวนการอนุญาโตตุลาการนี้
ประการที่สี่ จีนและประเทศในกลุ่มอาเซียนได้ยึดกฎเกณฑ์ ที่เคยลงนามร่วมกันในปี 2002 ได้แก่ DOC ซึ่งเป็นกฎภูมิภาคอันจะต้องยึดถือโดยทุกฝ่าย
หวากล่าวเพิ่มว่า ประเทศจีนยืนยันตลอดมาว่าอำนาจอธิปไตยและดินแดนทางทะเลสิทธิและผลประโยชน์ในทะเลจีนใต้ จะได้รับการแก้ไขอย่างสันติระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรง ผ่านการเจรจาบนพื้นฐานของการเคารพข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์
เธอกล่าวว่า จีนสนับสนุนวิธีการแก้ปัญหาพิพาทแบบคู่ขนาน ซึ่งการแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้จะต้องได้รับการแก้ไขโดยประเทศที่เกี่ยวข้องโดยตรง ผ่านการเจรจาต่อรองและปรึกษาหารือ โดยจีนและประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกันจะปกปักรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลจีนใต้
"จีนเสนอความร่วมมือที่ยั่งยืน แนวโน้มการรักษาความมั่นคงสำหรับภูมิภาคและเชื่อมั่นในจุดยืนที่ว่า ประเทศในภูมิภาคจะต้องทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างและแบ่งปันเส้นทางของความมั่นคงในภูมิภาคที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคน" หวา กล่าว