เอเจนซี—รายงานข่าวชายโรคจิตสังหารโหด ตัดศีรษะเด็กหญิงวัยสี่ขวบตอนกลางวันแสกๆในกรุงไทเปเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งคลื่นอำมหิตเขย่าขวัญไปทั่วเกาะไต้หวัน
ฆาตกรโหดรายนี้ คือ นาย หวัง จิ่งอี้ว์ วัย 33 ปี ได้สังหารเด็กหญิงโคมน้อย (ชื่อสมมุติ) โดยใช้มีดบังตอฟันจนศีรษะหลุดไปต่อหน้าต่อตาแม่และตา บริเวณใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน เขตเน่ยหู ทางทิศตะวันออกของกรุงไทเป ไต้หวัน
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าชายโรคจิตได้พุ่งเข้าไปผลักเหยื่อล้มขณะที่เธอกำลังขี่จักรยาน จากนั้นก็ใช้มีดปังตอกระหน่ำฟันเด็กอย่างไม่ยั้ง ผู้เป็นแม่แซ่หลิว และคนอื่นๆในบริเวณใกล้ๆนั้นได้เข้าไปฉุดกระชากพยายามหยุดฆาตกรใจโหด แต่ก็ไม่สำเร็จ ผู้คนเข้ามากลุ้มรุมตะลุมบอนจับตัวชายโรคจิต จนมีคนบาดเจ็บกว่า 1 คน ต่อมาตำรวจก็มาจับกุมตัวฆาตกรโหดไป ขณะที่ผู้เป็นแม่ร้องไห้ และตกอยู่ในอาการช็อค
แม่ของเด็กหญิงเล่าว่าเธอเดินตามหลังลูกที่กำลังขี่รถจักรยานห่างกันราว 1 เมตร ขณะพากันมุ่งไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน เพื่อไปพบกับญาติที่นัดกันไว้ ตอนที่เธอเห็นชายโรคจิตเดินเข้าไปหาลูกสาว ก็คิดว่าเขาจะเข้าช่วยเด็ก แต่ในชั่วพริบตานั้นเองเขาก็ใช้มีดปังตอฟันเด็ก 12 ครั้ง จนศีรษะหลุด หลังเกิดเหตุฯนางหลิวร้องไห้คร่ำครวญว่า “ไม่คิดเลยว่าสังคมจะอันตรายขนาดนี้ รัฐบาลทำอะไรสักอย่างเพื่อให้พ่อแม่สบายใจเมื่อจะพาลูกออกนอกบ้าน”
สื่อไต้หวัน Eastern Broadcasting ได้อ้างคำกล่าวพ่อของฆาตกรโหด ซึ่งโยกย้ายมาจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน เขาบอกว่านายหวังเป็นลูกชายคนเดียวของเขา มีปัญหาโรคจิต เคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ยังเคยเสพยาเสพติดและถูกจับกุมตัว
สื่อฮ่องกงอ้างคำกล่าวของตำรวจเผยว่า นายหวังมีความคิดฟุ้งซ่านเลอะเทอะมาตั้งแต่ปี 2549 โดยคิดว่าการได้สังหารคนจากมณฑลเสฉวน จะช่วยให้เขาสืบทอดสายบรรพบุรุษ และความคิดบ้าบอนี้ก็ดูจะปะทุขึ้นในหัวสมองของนายหวังในเช้ามืดของวันที่เกิดเหตุฯ จากนั้นเขาก็ไปซื้อมีดปังตอสำหรับทำครัว เดินพล่นพล่านไปมา จนได้พบเหยื่อและจู่โจมฯเมื่อเวลาราว 11.00น.
สื่อไต้หวัน ยูไนเต็ด เดลี่ (United Daily) รายงานว่าฆาตกรคิดว่าเหยื่อมาจากมณฑลเสฉวน
คดีฆาตกรรมโหดครั้งนี้ นับเป็นเหตุการณ์สังหารแบบสุ่มกรณีที่สามที่อุบัติในไต้หวันระหว่างช่วงห้าปีมานี้ ได้แก่ กรณีฯเมื่อพ.ค.ปีที่แล้ว (2558) ฆาตกรคือนาย ข่ง จงอัน วัย 29 ปี ได้สะกดรอยตามเด็กหญิงวัย 8 ขวบ และสังหารเธอในบริเวณห้องสุขาที่โรงเรียนประถมศึกษาในนครไทเป อีกกรณีเกิดที่เมืองไถหนันในเดือนธ.ค. 2555 ชายตกงานชื่อ เจิง เหวินชิน ได้ล่อลวงเด็กชายวัย 10 ขวบ ไปที่ห้องสุขาและลงมือสังหาร โดยประกาศว่าเขาสังหารเด็กชายเพราะอยากเข้าไปอยู่ในคุก
สำหรับฆาตกรทั้งสองรายแรกถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายหวังที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งล่าสุดนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเขากระทำการฯเนื่องจากเมายาหรือจากอาการโรคจิต
ขณะนี้นายหวังถูกจับกุมตัว โดยตามเนื้อตัวเขามีรอยฟกช้ำ โดยเขาบอกว่าเกิดจากการรุมประชาทัณฑ์ของผู้คนที่โกรธแค้นระหว่างตำรวจคุมตัวเขามายังสถานีตำรวจ
ตามกฎหมายไต้หวันระบุว่าผู้ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มพิการทุพพลภาพในระดับต่างๆ จะได้รับสิทธิพิเศษทางสังคม อาทิ การอุดหนุนต่างๆ และการฝึกฝนอาชีพ ส่วนกลุ่มที่เป็นโรคจิตไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มคนพิการโดยขึ้นอยู่กับการประเมินของจิตแพทย์
ระหว่างที่ตำรวจไปค้นบ้านของนายหวัง ก็ได้พบสมุดบันทึก 29 เล่ม จดบันทึกรายละเอียดในชีวิตประจำวันของเขา และมีบันทึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จักรพรรดิยุคโบราณของจีน อาทิ จิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้รวบรวมแผ่นดินใหญ่ในราชวงศ์โจว จักรพรรดิกุบไลข่าน ผู้สถาปนาราชวงศ์หยวน และพระนางซูสีไทเฮาแห่งราชวงศ์ชิงราชวงศ์สุดท้ายของจีน นายหวังยังอ้างด้วยว่าชาติก่อนเขาเคยเป็นพระเจ้าเหยาจักรพรรดิจีนองค์แรกในตำนานปรัมปรา หวังยังได้เขียนชื่อของตนระหว่างบรรทัดประวัติศาสตร์เหล่านี้ นอกจากนี้ยังมีเขียนคำว่า “ข่มขืนและฆ่า” เต็มหน้าสมุดบันทึกหลายเล่มของเขา
ช็อค!
พ่อของนายหวังบอกว่าลูกชายของตนตกงานและอยู่แต่ในบ้านมาตลอดหลายปี
กรณีสังหารเด็กหญิงสี่ขวบที่น่าสยดสยองนี้ ส่งคลื่นอำมหิตช็อกสังคมไต้หวัน กลุ่มนักการเมืองและนักรณรงค์ทั้งหลายก็ออกมาเรียกร้องให้ทบทวนกฎหมายประหารชีวิตฉบับปัจจุบัน
สภานิติบัญญัติไต้หวันหรือรัฐสภาหยวนจะเปิดการประชุมในวันพฤหัสฯ(31 มี.ค.) เพื่อถกเถียงญัตติการปรับแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ได้แก่ มาตราบทลงโทษสำหรับฆาตกรที่สังหารเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี โดยกลุ่มวุฒิสมาชิกเรียกร้องว่า ไม่ควรให้ประกันตัว และควรลงโทษประหารชีวิต หรือไม่ก็โทษจำคุกตลอดชีวิต
ในไต้หวันมีการกำหนดโทษประหารชีวิตสำหรับผู้ที่กระทำผิดฆาตกรรม แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มรณรงค์คือ สมาคมพิทักษ์สังคมกุหลาบขาว ( White Rose Social Care Association) กล่าวว่าที่ผ่านมาไต้หวันก็ไม่เคยบังคับใช้มาตรากฎหมายฯนี้อย่างเคร่งครัดในคดีฆาตกรรมที่คล้ายคลึงกันนี้ พร้อมกับเรียกร้องไม่ควรผ่อนปรนโทษประหารชีวิตด้วยเหตุผลการป่วยไข้ทางจิต