เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - สะท้านกันทั่วหน้า เมื่อมีข่าวว่า พญามังกรเตรียมส่ง ตงเฟิง -41 (DF-41) ขีปนาวุธข้ามทวีป ซึ่งมีพิสัยไกลที่สุดในโลก และสามารถยิงเหยียบจมูกสหรัฐฯ เข้าประจำการณ์ในกองทัพปีนี้ ทว่าพิษสงจะร้ายกาจถึงขั้นเจาะทะลวงโล่ห์ป้องกันขีปนาวุธ ที่พี่กันดักไว้หลายชั้นได้หรือไม่นั้น ยังเป็นที่สงสัย
จากรายงานของกันวา เอเชียน ดีเฟนซ์ (Kanwa Asian Defence) นิตยสารด้านการทหารในแคนาดา ตงเฟิง- 41 ซึ่งสามารถยิงได้ไกลถึง 14,500 กิโลเมตร และวอชิงตันเองยอมรับว่า เป็นขีปนาวุธ ที่มีพิสัยไกลที่สุดในโลกนั้น ได้เข้าสู่การทดสอบในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว และจะเข้าประจำการณ์ครั้งแรกปีนี้ในกองกำลังจรวดในเมืองซิ่นหยัง มณฑลเหอหนัน ซึ่งเป็นกองกำลังล้ำสมัย ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ในกองทัพปลดแอกประชาชนจีน
นิตยสารฉบับนี้ระบุว่า หากยิงจากซิ่นหยัง ข้ามขั้วโลกเหนือ ขีปนาวุธตงเฟิง - 41 จะพุ่งทะยานถึงสหรัฐฯ ได้ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง หรือถ้ายิงข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกก็ใช้เวลาเดินทางกว่า 30 นาทีเล็กน้อย
แต่ก็ยังไม่แน่ว่า จะสามารถทะลุทะลวงระบบป้องกันขีปนาวุธ ที่สหรัฐฯ สยายครอบคลุมเหนือภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกได้
“ ไม่มีใครสงสัยหรอกครับเรื่องตงเฟิง-41 มีพิสัยยิงได้ไกลที่สุดเกือบ ๆ 15,000 กิโลเมตร แต่ยิงได้แค่ไม่กี่นาทีก็อาจแป้กซะก่อน เพราะเจอระบบป้องกันของสหรัฐฯ ที่ฐานทัพเรือบนเกาะกวมสกัด” ศาสตราจารย์ เหอ ฉีซ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายกลาโหมประจำมหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์เซี่ยงไฮ้ ระบุ
กันวารายงานว่า มีการทดสอบตงเฟิง-41 ซึ่งใช้เชื้อเพลิงแข็งและเคลื่อนย้ายได้ทางรถยนต์ ที่ศูนย์ทดสอบด้านขีปนาวุธและอวกาศอู่ไจ้ หรือที่รู้จักกันว่า ศูนย์ปล่อยดาวเทียมไท่หยวน ในมณฑลซานซีมาตั้งแต่ฤดูร้อนปีที่แล้ว
ขณะที่วอชิงตัน ฟรี บีคอน (Washington Free Beacon) เว็บไซต์ข่าวในสหรัฐฯ ระบุว่า นับตั้งแต่เดือนก.ค. 2557 ขีปนาวุธข้ามทวีปฤทธิ์เดชน่าครั่นคร้ามนี้ถูกทดสอบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง นอกจากนั้น หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ยังจับได้ว่า พญามังกรได้มีการทดสอบยิงจากฐานยิงเคลื่อนที่บนรางรถไฟเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2558 ซึ่งเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการพัฒนาอาวุธยุทธศาสตร์ นอกเหนือจากการยิงขีปนาวุธจากฐานยิงเคลื่อนที่ทางรถยนต์
นอกจากนั้น นายอังเดรย์ ฉาง หัวหน้าบรรณาธิการของกันวายังระบุด้วยว่า อัตราการยิงโจมตีของตงเฟิง-41 จะยิ่งพัฒนารุดหน้าไปอีก หลังจากปี 2563 ไปแล้ว ซึ่งจีนจะสร้างระบบดาวเทียมนำทางเป๋ยโต่วของตนเองเสร็จสมบูรณ์ ไม่ต้องพึ่งพาระบบจีพีเอสของสหรัฐฯ อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ก็อาจพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรบกวนสัญญาณระบบเป๋ยโต่วก็เป็นได้ โดยสหรัฐฯ ไม่เคยหยุดยั้งที่จะพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธ ซึ่งจนถึงขณะนี้เขามองว่า เป็นแค่เกมการข่มขู่ ที่พวกชาติมหาอำนาจกำลังเล่นกันอยู่เท่านั้นเอง