เอเจนซีส์ - หน่วยงานรัฐบาลจีนออกมายอมรับเกี่ยวกับโครงการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปรุ่นใหม่ ตงเฟิง-41 (DF-41) ซึ่งสามารถส่งหัวรบนิวเคลียร์พร้อมกันหลายลูกไปโจมตีเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปนับหมื่นกิโลเมตร ไม่เว้นกระทั่งแผ่นดินสหรัฐฯ สื่อของปักกิ่งรายงานวันนี้ (1 ส.ค.)
หนังสือพิมพ์โกลบัลไทม์สอ้างคำแถลงบนเว็บไซต์ของศูนย์สังเกตการณ์สิ่งแวดล้อมของจีนในมณฑลส่านซีว่า ฐานทัพแห่งหนึ่งในมณฑลดังกล่าวถูกใช้เป็นสถานที่พัฒนาขีปนาวุธ ตงเฟิง-41
ตงเฟิง-41 ถูกออกแบบเพื่อโจมตีเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปสูงสุดถึง 12,000 กิโลเมตร และจัดอยู่ในกลุ่มขีปนาวุธพิสัยยิงไกลที่สุดในโลกในปัจจุบัน ตามรายงานของ Jane’s Strategic Weapon Systems
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในรายงานเมื่อเดือนมิถุนายนว่า ขีปนาวุธตงเฟิง-41 ของจีนอาจติดตั้งบนยานลำเลียงที่สามารถยิงได้พร้อมกันหลายหัวรบ (multiple independently targetable re-entry vehicle – MIRV)
โครงการพัฒนาอาวุธของจีนถือเป็นความลับสุดยอด โดยโกลบัลไทม์สชี้ว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานจีนไม่เคยยอมรับถึงการมีอยู่ของขีปนาวุธ ตงเฟิง-41 อย่างเปิดเผยเช่นนี้
ข้อมูลบนเว็บไซต์ของหน่วยงานจีนในมณฑลส่านซีดูเหมือนจะถูกลบทิ้งไปในวันนี้ (1 ส.ค.) ทว่า โกลบัลไทม์สก็ได้นำภาพแคปหน้าจอมาเสนอ
สื่อฉบับนี้ยังอ้างความเห็นนักวิเคราะห์ด้านการทหารของจีนที่ว่า “สหรัฐฯ เองก็ไม่หยุดพัฒนาศักยภาพระบบป้องกันขีปนาวุธ ดังนั้น การที่จีนจะพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นที่ 3 ซึ่งสามารถติดหัวรบได้พร้อมกันหลายๆ หัว ถือว่าเป็นไปตามกระแสโลก”
เมื่อเดือนมกราคมหลังจากที่มีกระแสข่าวว่าจีนทดสอบยานลำเลียงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง กระทรวงการต่างประเทศจีนก็ได้ออกมายืนยันว่าการทดสอบทางทหารของจีนไม่มีจุดประสงค์เพื่อข่มขู่ชาติใดเป็นการเฉพาะ
เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ปักกิ่งก็ได้ออกมาพูดในทำนองเดียวกันเมื่อถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธตงเฟิง-41
หลายปีมานี้ รัฐบาลจีนเพิ่มงบประมาณกลาโหมเป็นตัวเลข 2 หลักทุกปีเพื่อพัฒนาศักยภาพของกองทัพให้มีความทันสมัย ซึ่งเวลานี้กองทัพจีนถือว่ามีแสนยานุภาพยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ
เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้กล่าวเตือนว่าการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในทุกรูปแบบ “จะเป็นหายนะสำหรับทั้งสองฝ่าย รวมถึงประชาคมโลก”
สถาบันที่ปรึกษากลาโหม Jane’s ระบุว่า ขีปนาวุธของจีนที่มีพิสัยยิงไกลที่สุดรุ่นก่อนหน้านี้คือ DF-5A ซึ่งสามารถส่งหัวรบนิวเคลียร์ลูกเดี่ยวๆ ไปโจมตีเป้าหมายได้ไกลถึง 12,000 กิโลเมตร ทว่าศักยภาพของขีปนาวุธรุ่นนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่ที่ว่าต้องใช้เวลาเติมเชื้อเพลิงนานถึง 2 ชั่วโมงก่อนยิง
