เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - นักวิจัยฮ่องกงเตือนผู้ป่วยโรคมะเร็ง ระวังการกินวิตะมินซีต้านโรค เพราะผลการวิจัยล่าสุดพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระ ที่เคยมองกันมานานว่า เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพนั้น ยังเป็นสารจำเป็นสำหรับการเติบโตของเนื้องอกด้วยเช่นกัน
ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยฮ่องกงระบุว่า สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีคุณสมบัติต่อสู้กับสารอนุมูลอิสระ ( free radicals) ที่ไปทำลายเซลล์ของร่างกายนั้น ยังช่วยให้เซลล์มะเร็งตับเจริญเติบโต โดยดร.คาร์เมน หว่อง ชุก-ลุย ( Dr. Carmen Wong Chuk-Lui) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำแผนกพยาธิวิทยาของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ระบุว่า สารต้านอนุมูลอิสระมีประโยชน์ต่อสุขภาพอาจเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะเซลล์มะเร็งก็ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระมากด้วยเช่นกัน
การศึกษาพบว่า เซลล์มะเร็งผลิตสารต้านอนุมูลอิสระผ่านทางเอนไซม์ทรานสคีโทเลส ( transketolase) ซึ่งช่วยให้เนื้องอกเติบโต มะเร็งชนิดอื่น ๆ เช่นมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งปอดก็เติบโตด้วยวิธีการเดียวกัน โดยหากเอนไซม์ชนิดนี้ถูกกด นักวิจัยพบว่า เนื้องอกจะมีขนาดเล็กลงร้อยละ30-40
จากผลการศึกษาชิ้นนี้ คณะนักวิจัยชี้ว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่กินสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตะมินซี เป็นอาหารเสริม อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลง
“ ผู้คนมักคิดว่าสารต้านอนุมูลอิสระมีประโยชน์ในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง ผลการวิจัยนี้ทำให้เราต้องเขียนเครื่องหมายคำถามตัวโตแย้ง” ศาสตราจารย์ไอรีน อึ้ง ออย-หลิน ( Irene Ng Oi-Lin) หัวหน้าคณะนักวิจัยกล่าว
เธอแนะนำว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งอาจไม่จำเป็นต้องหยุดกินวิตะมินซี แต่ต้องพิจารณาว่า จำเป็นต้องกินอย่างต่อเนื่องหรือไม่ เพราะวิตะมินซีเม็ดหนึ่งอาจมีปริมาณ 500 - 2,000 มิลลิกรัม ซึ่งสูงเกินกว่าปริมาณ ที่ผู้ใหญ่จำเป็นต้องกินในแต่ละวันคือ 100 มิลลิกรัมอย่างมาก
ขณะที่ดร.หว่องระบุว่า ผลการวิจัยนี้มิได้หมายความว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งต้องหยุดกินผลไม้ ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ส้ม มะนาว และมะละกอ เพราะนอกจากอุดมด้วยวิตะมินแล้ว ผลไม้เหล่านี้ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยอีกด้วย เพียงแต่ควรงดเว้นการกินอาหารเสริมสุขภาพที่มากมายเกินไป
การค้นพบครั้งนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์พบวิธีการใหม่ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับ ซึ่งมีสถิติการเสียชีวิตสูงนี้ เนื่องจากผู้ป่วยร้อยละ 80 ไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการผ่าตัด และเซลล์มะเร็งอาจต้านเคมีบำบัด ซึ่งเป็นวิธีการรักษาในปัจจุบัน