เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ไต้หวันคว้าแชมป์เมือง ที่ชาวต่างชาตินิยมไปอาศัยมากที่สุด ขณะที่ฮ่องกงหล่นวูบจากอันดับต้น ๆ ด้วยหลายสาเหตุ เช่น ค่าครองชีพ ที่พุ่งสูง
ผลสำรวจประจำปีของเอ็กซ์แพต อินไซเดอร์ ( Expat Insider) ซึ่งเผยแพร่ใน อินเตอร์เนชั่นส์ (InterNations) เว็บไซต์เครือข่ายผู้อาศัยในต่างประเทศเมื่อวันจันทร์ ( 29 ส.ค. 2559) พบว่า ฮ่องกงตกอันดับเมืองยอดนิยมจากอันดับที่ 26 มาอยู่ที่อันดับ 44 เปรียบเทียบกับเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งฮ่องกงติดอันดับ 10 เป็นการตกอันดับมากกว่าใครเพื่อน ในบรรดา 66 ชาติ ที่ถูกสำรวจ ยกเว้นเพียง 2 ชาติ
นอกจากนั้น เมื่อพิจารณาในแง่เมือง ที่การใช้ชีวิตกับการทำงานมีความสมดุลกัน ฮ่องกงติดอันดับที่ 59 โดยชาวต่างชาติในฮ่องกงทำงานเฉลี่ย 48.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ขณะที่ไต้หวันติดอันดับ 5
นอกจากนั้น ฮ่องกงยังเป็นเมืองค่าครองชีพแพง ที่สุดในโลก ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาในปีนี้ของ เมอร์เซอร์ บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก และตกจากอันดับที่ 37 มาอยู่ที่อันดับ 48 เมืองที่ผู้คนในท้องถิ่นมีความเป็นมิตร ในสายตาของชาวต่างชาติ โดยชาวต่างชาติ ที่รู้สึกว่า อุปสรรคด้านภาษาทำให้เกิดปัญหา มีอัตราเฉลี่ย 5 ใน 6 คน
ขณะที่ไต้หวันเปล่งประกายออร่าสดใสเหนือเสือเอเชียตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง เกาหลีใต้ และสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม ฮ่องกงมิได้เสื่อมความนิยมไปเสียทั้งหมด เพราะหากพิจารณา ในแง่โอกาสการหางานทำ ฮ่องกงยังรักษาฟอร์มไว้ได้ โดยติดอันดับ 24 เมือง ที่ชาวต่างชาติพอใจย้ายมาประกอบอาชีพใหม่
ผลสำรวจชิ้นนี้ระบุว่า ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ยังแฮปปี้กับเศรษฐกิจของฮ่องกง และอัตราการเสียภาษี ที่ต่ำ ตลอดจนระบบการขนส่งมวลชน ระบบการดูแลสุขภาพ และคุณภาพด้านการศึกษา
นาย ไช่ ชุน หลิน โฆษกของชุมชนชาวไต้หวันในฮ่องกง ซึ่งย้ายมากินตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการเงินประจำมหาวิทยาลัยฮ่องกงเมื่อ 7 ปีก่อน ระบุว่า ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีโอกาสดีในการเริ่มอาชีพใหม่ ซึ่งชาวไต้หวันส่วนใหญ่ ที่เขารู้จัก ย้ายมาอยู่ที่นี่ ก็เพราะเหตุผลดังกล่าว มากกว่าเหตุผลว่า ต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เขาเห็นว่า ผู้ถูกสำรวจหลายคนน่าจะเป็นผู้มีตำแหน่งการงานดี รายได้สูง จึงหันมาคำนึงถึงเรื่องการมีคุณภาพชีวิต ที่ดี ซึ่งไต้หวันมีให้ ไม่ว่าจะเป็นอัตราคดีอาชญากรรม ที่ต่ำมาก อาหารอร่อย มีร้านกาแฟอยู่ทั่วทุกหนแห่ง และมีระบบสาธารณสุขที่ดี เขาเองก็อยากกลับไปไต้หวัน ถ้ามีโอกาสได้ทำงานอย่างในฮ่องกงขณะนี้
ส่วนนาย ดริว วอเตอร์ ประธานหอการค้าออสเตรเลียในฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งอาศัยในฮ่องกงมานาน 11 ปีแล้ว กล่าวว่า สมาชิกหอการค้าของเขายังมองว่า ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีความเป็นมิตรด้านธุรกิจ และสามารถสร้างผลกำไรด้านการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นประตูสู่จีนแผ่นดินใหญ่
การสำรวจครั้งนี้เป็นการสอบถามชาวต่างชาติทั้งหมด 14,300 คน จาก 174 สัญชาติ ใน 191 ประเทศ