เอเจนซี - คิดไปก็อนิจจัง กรีซให้กำเนิดโอลิมปิก แต่โอลิมปิก นี่เองคือเหตุปัจจัยแห่งความล่มพังพาบของวิหารเศรษฐกิจกรีซ นับแต่วันที่ได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกซึ่งไม่มีใครรู้อนาคตเลย เพราะมัวแต่ปลาบปลื้มที่โอลิมปิกได้กลับคืนไปจัดยังประเทศผู้ให้กำเนิดอีกครั้งในประวัติศาสตร์
วิกฤติเศรษฐกิจของกรีซนี้เองทำให้ชาติต่างๆ ที่จะเสนอตัวเข้ารับงานเจ้าบ้านมหกรรมกีฬานี้ ต้องคิดแล้วคิดอีก เหลียวซ้าย แลขวา ในเวลานี้ก็คงมีเพียงประเทศเดียวในโลก คือจีนเท่านั้น ที่สามารถเปิดบ้านเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงใหญ่นี้ ซึ่งล่าสุด ปักกิ่ง ก็ได้รับคัดเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก ฤดูหนาว 2022 ตามคาดหมาย แม้พิจารณาคุณสมบัติหลายๆ ด้านอาจจะขัดสายตาวงการฯ อยู่มาก
วันศุกร์ที่ 31 ก.ค. เจ้าหน้าที่จีนต่างส่งเสียงร้องด้วยความดีใจ เมื่อนายโทมัส บัค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ประกาศกลางงานประชุมพิเศษซึ่งจัดขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียว่า กรุงปักกิ่งได้รับคัดเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 อย่างเป็นทางการ เฉือนเอาชนะนครอัลมาตีของคาซัคสถานด้วยคะแนนเสียง 44 ต่อ 40 (งดออกเสียง 1) โดยคณะกรรมการฯ ระบุว่า ปักกิ่งที่เคยเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 นั้นเป็นตัวเลือกที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ แม้ว่าจะประสบภาวะขาดแคลนหิมะธรรมชาติก็ตาม
ปักกิ่งและอัลมาตีต่างตกเป็นม้านอกสายตาเมื่อสนามแข่งเป็นเจ้าภาพฯ เริ่มต้นขึ้นในสองปีก่อน ทว่าทั้งคู่ก็กลายเป็นสองตัวเลือกสุดท้ายที่เหลือหลังจากมหานคร 4 แห่งในยุโรป ได้แก่ ออสโลของนอร์เวย์, สตอกโฮล์มของสวีเดน, กรากุฟของโปแลนด์ และลวีฟของยูเครน พากันถอนตัวด้วยเหตุผลทางการเงินและการเมือง
ทั้งนี้กรุงปักกิ่งจะร่วมกับนครจังจยาโข่ว เมืองที่อยู่ห่างออกไปราว 140 กม. ในมณฑลเหอเป่ย แบ่งสถานที่จัดการแข่งขัน โดยใช้สเตเดียมที่สร้างขึ้นเพื่อกีฬาโอลิมปิก 2008 แข่งกีฬาประเภทลานน้ำแข็ง และบรรดาสกีรีสอร์ท (Ski resort) ในจังจยาโข่ว ซึ่งมีลานหิมะกว่า 90 แห่ง เป็นสนามกีฬาประเภทลานหิมะ ส่วนการเชื่อมเส้นทางคมนาคมสองเมืองนั้น จีนจะลงมือก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อปักกิ่งกับเขตหุบเขาอันเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน เพื่อร่นระยะเวลาในการเดินทางเหลือเพียง 50 นาทีอีกด้วย ส่วนเรื่องงบประมาณสำหรับการจัดการแข่งขันทั้งหมด จีนระบุว่าร้อยละ 90 จะมาจากแหล่งเงินทุนนอกรัฐบาล
คริสตัน แครปปส์ คอลัมนิสต์เว็บไซต์ Citylab พูดถึงจุดค้านสายตาคนทั่วไปในการเป็นเจ้าภาพของปักกิ่ง ซึ่งกลายเป็นเมืองแรกของโลกที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาว ว่าไม่เหมาะสมนัก เพราะปักกิ่งเองนั้นไม่ใช่เมืองที่มีหิมะปกคลุมตามธรรมชาติ พื้นที่จัดการแข่งขันหิมะจริงจึงต้องไปอยู่ที่เมืองจังจยาโข่ว ตรงรอยต่อของปักกิ่งกับมองโกเลียใน และว่าไปแล้ว พื้นที่ตรงนั้นแม้มีหิมะแต่ก็เป็นเขตที่มีหิมะเบาบางที่สุดในเอเชีย
ดิอีโคโนมิสต์ รายงานว่า จีนทุ่มเงินราว 90 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อบริหารจัดการน้ำปริมาณมหาศาลให้เพียงพอในการปฏิบัติแผนวงล้อมฤดูหนาว (Winter Belt) อันเกี่ยวเนื่องกับการสร้างหิมะเทียมรอบกรุงปักกิ่ง ขณะที่ได้ใช้งบประมาณไปแล้วราว 62,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ดึงน้ำจากใต้ขึ้นเหนือเพื่อแก้ปัญหาน้ำ ดังนั้นจะใช้เงินอีกแค่ 90 ล้านเหรียญฯ เพื่อการนี้ หรือจะบานปลายเป็น 900 ล้านฯ ก็เป็นแค่หยดน้ำในถังเท่านั้น มิต้องพูดถึงว่าการทำหิมะเทียมจะเป็นปัญหากับคณะกรรมการโอลิมปิกหรือไม่
นอกจากไม่มีหิมะเป็นธรรมชาติของตนเองแล้ว ปักกิ่งยังมองข้ามสิทธิมนุษยชน แรงงานอพยพ ที่ไหลบ่าเข้ามาสร้างสาธารณูปโภคโอลิมปิกทั้งหลาย แม้เหล่านี้จะทำให้ต้นทุนของจีนในการเนรมิตสนามกีฬา ถนนหนทาง ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับมหกรรมกีฬาลดต่ำกว่านานาประเทศ แต่ก็เป็นเพราะการละเมิดสิทธิแรงงานฯ
สื่อต่างประเทศ ยังจับประเด็นเรื่องการไม่เคารพสิทธิทางปัญญา โดยยกเพลง The Snow & Ice Dance ซึ่งเป็นเพลงทางการหนึ่งในสิบเพลงของปักกิ่ง 2022 นั้น ทำนองดูคล้ายจะลอกเพลง Frozen จากภาพยนตร์อนิเมชันดังของวอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส ด้วย ขนาดเสียดสีไปถึงจิตวิญญาณโอลิมปิกว่า ไม่สนเรื่องการขโมยปัญญาผู้อื่นแล้ว
อย่างไรก็ตาม คอลัมนิสต์ Citylab แจงว่า คณะกรรมการฯ คงปวดหัวดีดลูกคิดลำบากจริงๆ ว่าจะเลือกใครดีระหว่าง อัลมาตี กับปักกิ่ง เพราะทั้งสองต่างก็คล้ายๆ กัน ปกครองปิดกั้นเสรีภาพประชาชนเหมือนกัน ไม่คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชนเหมือนกัน หนำซ้ำปัญหาทุจริตก็อาจส่อแววไม่น้อยไปกว่าความฉาวของโซชิ เกมส์ 2014 ที่รัสเซีย ที่ทำเสื่อมเสียมาถึงองค์กรกีฬาโลกนี้
สิ่งที่อัลมาตี ต่างจากปักกิ่ง คือมีหิมะของจริง และความที่สามารถจัดการแข่งขันได้ทุกรายการในรอบรัศมีเพียง 28.9 กิโลเมตร อันเป็นข้อได้เปรียบมากในการบริหารต้นทุนทั้งหลาย และลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจในอนาคต
ถึงกระนั้นก็ตาม แม้จีนต้องใช้งบประมาณมาก แต่รัฐบาลจีนก็คงไม่ห่วงใดๆ ต่อให้งบฯ บานปลายเกินที่ตั้งไว้ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะยังต่ำมากเมื่อเทียบกับที่เคยใช้ในการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ซึ่งตอนนั้นใช้เงินราว 40,000 ล้านเหรียญฯ ความมือใหญ่ของจีน พ.ศ. นี้ นี่เอง จึงไม่มีใครกล้าทาบฯ และยังน่าจะเป็นจุดแข็งจุดเดียวที่จีนสามารถแบกรับการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกทั้งร้อน-หนาวได้ดีกว่าชาติต่างๆ โดยมองข้ามข้อเสียอื่นๆ เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ คงได้เรียนรู้จากฝันร้ายของกรีซ และยอมรับว่า จีนคือตัวเลือกที่เหมาะสมแข็งแกร่งที่สุดแล้ว ดีกว่าที่จะปล่อยให้ประเทศอื่นๆ ต้องเสี่ยงล่มจมในอนาคตเพราะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฯ
