พญามังกรหั่นอัตราดอกเบี้ยช่วยเศรษฐกิจ

เอเจนซี--ธนาคารกลางจีน ประกาศตัดลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืม อีก 25 จุด มาอยู่ที่ 4.85 เปอร์เซ็นต์ ในวานนี้ (27 มิ.ย.) นับเป็นการตัดลดครั้งที่สี่จากเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเร่งฝีพายการลดค่าใช้จ่ายในการกู้ยืม และรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

ธนาคารประชาชนแห่งจีน หรือธนาคารกลางจีน ยังได้หั่นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากพื้นฐานระยะเวลา 1 ปี อีก 25 จุด (basis points) มาอยู่ที่ 2 เปอร์เซ็นต์

แบงค์ชาติแดนมังกรได้แถลงการณ์ปรับลดดอกเบี้ยในเว็บไซต์ขององค์กร และว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (28 มิ.ย.) พร้อมระบุว่า “เพื่อช่วยเศรษฐกิจที่แท้จริง และหนุนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ”

ก่อนหน้า ธนาคารกลางจีนหั่นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดในวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมพื้นฐานระยะเวลา 1 ปี 25 จุด ทำให้อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมตอนนั้น ปรับลงมาที่ 5.1 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไประยะเวลา 1 ปี อีก 25 จุด มาอยู่ที่ 2.25 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ จะมีการปรับลดอัตราเงินสดสำรองของกลุ่มธนาคารที่ปล่อยกู้ให้แก่ภาคเกษตรกรรม และกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก อีก 50 จุด จะสนองเป้าหมายผู้คุมกฎภาคธนาคาร

ธนาคารกลางจีนยังได้ลดอัตราเงินสดสำรองของกลุ่มบริษัทการเงิน อีก 300 จุด ซึ่งว่ากันว่าจะช่วยลดแรงกดดันค่าใช้จ่ายและทุนของกลุ่มวิสาหกิจรัฐ

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ยังพยายามที่จะช่วยกลุ่มธุรกิจภาคเทคโนโลยีสตาร์อัพ โดยให้สถาบันการเงินลดค่าใช้จ่ายการกู้ยืม ทั้งนี้ จีนกำลังทยอยออกนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงระบบอัตราดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งจะทำให้กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กเข้าถึงเงินทุน

จากปัจจัยภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง ความสามารถล้นเกินในภาคโรงงาน และหนี้ภาครัฐของรัฐบาลท้องถิ่น จึงเป็นที่คาดกันว่าเศรษฐกิจจีน จะชะลอตัวเป็นประวัติการณ์ในรอบ 25 ปี โดยอัตราเติบโตในปีนี้จะอยู่ที่ราว 7 เปอร์เซ็นต์ ตกต่ำจากระดับ 7.4 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2557 และขณะนี้คาดกันว่าพญามังกรจะระดมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอีก

การประกาศมาตรการลดดอกเบี้ยในวันเสาร์ และยังมีกระแสคาดการณ์ว่าจะมีอีกนั้น เกิดขึ้นไล่หลังจากที่ตลาดหุ้นมังกร ดิ่งเหวไปถึง 20 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสองสัปดาห์มานี้ โดยในวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปรับลด เกือบ 8 เปอร์เซ็นต์

“แม้จีนระดมมาตรการในต้นปี แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่น่าพอใจเลย โดยมาตรการที่นำออกมาใช้นั้น ยังไม่สามารถลบล้างแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว ” นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส E Yongjian แห่งธนาคารเพื่อการสื่อสาร (Bank of Communications)