xs
xsm
sm
md
lg

(ชมภาพ) จิตรกรจีนวาดทั้งสวนมรดกโลก ลงไว้ในใบไม้เดียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ได้แก่ สวนจัวเจิ้ง ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของสวนโบราณที่สำคัญที่สุดของประเทศจีน คำว่า จัวเจิ้ง หมายถึง สวนของขุนนางผู้ถ่อมตน สร้างขึ้นตามแบบสวนจีนที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสวนที่มีความประณีตงดงามมากที่สุดในทางตอนใต้ของประเทศจีน
ไชน่าคัลเจอร์ สื่อจีน เผย (28 เม.ย.) ภาพจิตรกรรมบนใบไม้ของศิลปินจีน ผัง ยั่นเต๋อ ซึ่งวาดรูปสวนโบราณต่างๆ ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู บนใบ้ไม้แห้ง

รายงานข่าวกล่าวว่า ภาพชุดสวนจีนโบราณบนใบ้ไม้ของศิลปินจีนชุดนี้ เป็นภาพของสวนจีนโบราณ มรดกโลกที่สำคัญต่างๆ ในเมืองซูโจว ได้แก่ สวนจัวเจิ้ง ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของสวนโบราณที่สำคัญที่สุดของประเทศจีน คำว่า "จัวเจิ้ง" หมายถึง สวนของขุนนางผู้ถ่อมตน สร้างขึ้นตามแบบสวนจีนที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสวนที่มีความประณีตงดงามมากที่สุดในทางตอนใต้ของประเทศจีน และได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลกโดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

สวนหลิว (留园) เป็นอีกหนึ่งในสวนจีนโบราณที่มีชื่อเสียง อยู่ทางด้านตะวันตกของเมืองซูโจว ที่ได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลก โดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997 สวนหลิวยังมีมรดกโลกทางด้านศิลปะอีก 2 ชิ้นคือ ผิงถาน และกู่ฉินด้วย

ชางลั่งถิงหรือพลับพลาเกลียวคลื่น (沧浪亭) เป็นหนึ่งในสวนโบราณ ในเมืองซูโจวที่ได้รับการยกย่องโดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ให้เป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่ง สวนแห่งนี้เป็นหนึ่งในสี่สวนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองซูโจว เช่นเดียวกับสวนจัวเจิ้ง และยังเป็นสวนที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากสามารถสืบค้นประวัติของสวนย้อนหลังได้ถึงสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ (ในราวปี ค.ศ. 906-1127)

เขาหูชิว (虎丘) จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของเมืองซูโจว ชื่อเขาหูชิวหรือเขาเนินเสือนั้นมาจากลักษณะของเนินเขาที่คล้ายกับเสือในท่าหมอบเตรียมวิ่งหรือกระโจนไปข้างหน้า และยังมีที่มาจากอีกตำนานเล่าขานว่า เมื่อครั้งกษัตริย์เหอหลู๋แห่งแคว้นอู๋ สิ้นพระชนม์ผ่านไปไม่กี่วัน บนเนินเขาแห่งนี้ก็ได้ปรากฏเสือขาวที่ไม่มีใครเคยพบเห็นตัวหนึ่ง สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมานานกว่าพันปี โดยมีหลักฐานเป็นบทกวีสลักที่หินบนเนินเขานี้ และยังมีบทกลอนของกวีที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์ซ่ง ชื่อ ซูซื่อ (苏轼) กล่าวถึงเขาหูชิวไว้ว่า "นับว่าเสียดายยิ่ง หากครั้งหนึ่งในชีวิตได้มาเยือนซูโจว แต่ไม่ได้ชมความงามของเขาหูชิว "

ทั้งนี้ ซูโจวเป็นเมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีชื่อเสียงในภูมิประเทศแห่งสายน้ำ ภูเขา พื้นที่ร้อยละ 55 เป็นพื้นที่ราบ ร้อยละ 3 เป็นเนินเขา และ ร้อยละ 42 เป็นพื้นน้ำ มีลำคลองรายรอบเมืองอยู่เป็นจำนวนมาก และยังมีคลองที่ไหลผ่านตัวเมืองมากมายหลายสาย และต่อเชื่อมถึงกันหมด โดยมีสะพานหินหลายร้อยแห่งที่ทอดข้าม จึงได้รับกล่าวนามเปรียบเป็น "เวนิสตะวันออก" จนทุกวันนี้

ข้อมูลประวัติศาสตร์ระบุว่า ในศตวรรษที่ 16-18 ซูโจวเคยมีสวนโบราณมากกว่า 200 แห่ง ในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ซึ่งซูโจวเป็นหนึ่งในเมืองที่เจริญที่สุดในสมัยนั้น และเป็นเมืองที่มีความงดงามมากจนได้รับฉายาว่าเป็น “เมืองสวรรค์ในโลกมนุษย์" ปัจจุบันมีสวนที่ได้รับการอนุรักษ์ตามแบบแผนแท้จริงแห่งอารยธรรมจีนโบราณอย่างสมบูรณ์แล้วกว่า 10 แห่ง

(ชมภาพ จิตรกรรมบนใบไม้ของศิลปินจีน ผัง ยั่นเต๋อ ซึ่งวาดรูปสวนโบราณต่างๆ ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู - ภาพจากไชน่าคัลเจอร์)
สวนหลิว (留园) เป็นอีกหนึ่งในสวนจีนโบราณที่มีชื่อเสียง อยู่ทางด้านตะวันตกของเมืองซูโจว ที่ได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลก โดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997 สวนหลิวยังมีมรดกโลกทางด้านศิลปะอีก 2 ชิ้นคือ ผิงถาน และกู่ฉินด้วย
ชางลั่งถิงหรือพลับพลาเกลียวคลื่น (沧浪亭) เป็นหนึ่งในสวนโบราณ ในเมืองซูโจวที่ได้รับการยกย่องโดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ให้เป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่ง สวนแห่งนี้เป็นหนึ่งในสี่สวนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองซูโจว เช่นเดียวกับสวนจัวเจิ้ง และยังเป็นสวนที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากสามารถสืบค้นประวัติของสวนย้อนหลังได้ถึงสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ (ในราวปี ค.ศ. 906-1127)
เขาหูชิว (虎丘) จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของเมืองซูโจว สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมานานกว่าพันปี โดยมีหลักฐานเป็นบทกวีสลักที่หินบนเนินเขานี้ และยังมีบทกลอนของกวีที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์ซ่ง ชื่อ ซูซื่อ (苏轼) กล่าวถึงเขาหูชิวไว้ว่า นับว่าเสียดายยิ่ง หากครั้งหนึ่งในชีวิตได้มาเยือนซูโจว แต่ไม่ได้ชมความงามของเขาหูชิว

กำลังโหลดความคิดเห็น