นานมาแล้ว ณ อำเภอหนึ่งเกิดเหตุอุทกภัยใหญ่ในปีหนึ่ง ก่อนที่ปีถัดมาจะเกิดภัยแล้งติดๆ กัน ส่งผลให้ประชาราษฎร์ได้รับความทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เหล่าชาวบ้านที่ประสบกับความยากลำบากจึงทยอยกันมาขอความช่วยเหลือกับท่านนายอำเภอให้กรุณางดเว้นการจัดเก็บอากรภาษี
ระหว่างการเข้าพบ นายอำเภอก็เอ่ยถามผู้ใหญ่บ้านขึ้นว่า “ผลผลิตข้าว ข้าวสาลี และฝ้ายได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง เจ้าจงบอกกล่าวมา?” ผู้ใหญ่บ้านจึงเอ่ยตอบว่า “ผลผลิตข้าวเหลือเพียง 3 ส่วน (จาก 10 ส่วน) ข้าวสาลีเหลือก็เพียง 3 ส่วน ส่วนฝ้ายยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เหลือเพียง 2 ส่วนเท่านั้น”
ได้ฟังดังนั้นนายอำเภอก็ตะคอกกลับด้วยสุ้มเสียงอันดังว่า “ช่างบังอาจยิ่งนัก ผลผลิตรวมแล้วได้ถึง 8 ส่วน พวกเจ้ายังมีหน้ามาร้องเรียนข้าเรื่องผลผลิตตกต่ำอีก!”
ด้านชาวบ้านทั้งหมดพอได้ยินก็ตะลึงงัน นิ่งเงียบไปชั่วขณะเพราะไม่นึกว่านายอำเภอจะด้อยปัญญา ใช้วิธีคิดคำนวณความตกต่ำของผลผลิตทางการเกษตรด้วยวิธีชั้นต่ำเช่นนี้ ก่อนที่สักพักผู้เฒ่าของหมู่บ้านจะก้าวเท้าออกมา พร้อมกับคุกเข่ากล่าวเรียนกับนายอำเภอว่า “ท่านนายอำเภอโปรดระงับโทสะเอาไว้ก่อน สิ่งที่พวกเราร้องเรียนนั้นเป็นความจริงทุกประการ เพราะแม้แต่ข้าที่เกิดมา 150 ปีแล้ว ยังไม่เคยพบเห็นเภทภัยที่ร้ายแรงเยี่ยงนี้มาก่อน!”
ได้ฟังดังนั้นนายอำเภอยิ่งระเบิดโทสะกล่าวเสียงดังขึ้นไปอีกว่า “ไอ้เฒ่ายังมีหน้ามาโกหกข้าอีก ผมของเจ้ายังไม่ขาวสักเส้น ดวงตาก็ยังไม่ฝ้าฟาง ยังจะกล้าบอกว่าอายุ 150 ปี” ด้านผู้เฒ่าจึงตอบว่า “เป็นความจริงแท้แน่นอนท่านนายอำเภอ ปีนี้ข้าน้อยอายุ 72 บุตรชายคนโตอายุ 41 ส่วนบุตรชายคนรองอายุ 37 รวมกันอายุ 150 ปี พอดี”
“เฮอะ! อายุของคนสามคนเจ้านำมารวมกันได้เยี่ยงไร” นายอำเภอตะคอกกลับ ด้านผู้อาวุโสจึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “วิธีคิดคำนวณเช่นนี้ วันนี้ข้าน้อยก็เพิ่งเรียนรู้จากท่านนายอำเภอนี่แหละ จะผิดพลาดไปได้อย่างไรล่ะท่าน!”
เรียบเรียงจาก 《丹午杂记》โดย กู้กงเซี่ย (顾公燮) , ราชวงศ์หมิง