xs
xsm
sm
md
lg

ชาวจีนรำลึกครบรอบ 10 ปี อสัญกรรมอดีตนายกฯ ‘เจ้า จื่อหยาง’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพถ่าย เจ้า จื่อหยาง ที่ติดอยู่ในบ้านพักอันสถานที่ที่เจ้าใช้ชีวิตบั้นปลายภายใต้การกักบริเวณนานมากกว่าสิบปี วันที่ 17 ม.ค. 2558 (รอยเตอร์ส)
เอเจนซี - เนื่องจากวาระครบรอบ 10 ปี (17 ม.ค.) การจากไปของ “เจ้า จื่อหยาง” บุคคลสำคัญแห่งประวัติศาสตร์การเมืองแดนมังกร ที่ถูกริดอำนาจลดบทบาทด้วยเหตุคัดค้านการใช้กำลังทหารปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 2532 จนต้องใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ภายใต้การกักบริเวณในบ้านตราบสิ้นชีพ

ประชาชนผู้ศรัทธา เพื่อนเก่าแก่ และอดีตเจ้าหน้าที่พรรคฯ ระดับอาวุโส หลายร้อยคนเดินทางไปรวมตัวกันบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านพักของเจ้า ณ หมู่บ้านฟู่เฉียง หูท่ง หมายเลข 6 ในกรุงปักกิ่ง เพื่อร่วมพิธีรำลึกอสัญกรรม วางช่อดอกไม้และพวงหรีด โดยมีกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตาดูอย่างใกล้ชิด

อดีตของเจ้า จื่อหยาง เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ เขาถือเป็นดาวรุ่งของแวดวงการเมืองจีนในช่วงนั้น ที่หากไม่มี ‘ข้อผิดพลาด’ ก็จะสืบทอดบัลลังก์ต่อจากเติ้ง เสี่ยวผิง โดยความโดดเด่นของเจ้าคือ ความไว้วางใจจากเติ้งให้เป็น ‘จอมทัพ’ ในสนามปฏิรูปเศรษฐกิจจีน ซึ่งได้ผลิดอกออกผลแห่งความสำเร็จให้เห็นแล้วในปัจจุบัน

ทว่าชะตาชีวิตก็พลิกผันสู่จุดตกต่ำ เจ้าถูกสั่งปลดฐานต่อต้านการสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยกันเต็มจัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2532 โดยปักกิ่งกล่าวหาว่า “เจ้าทำให้พรรคฯ แตกแยกและสนับสนุนเหตุความวุ่นวาย” จึงสำเร็จโทษกักบริเวณให้อยู่แต่ในบ้านจนกระทั่งเสียชีวิตด้วยวัย 85 ปี ในวันที่ 17 ม.ค. 2548

“หากตอนนั้นเขามีโอกาสได้แสดงความบริสุทธิ์ จีนวันนี้คงขับเคลื่อนอยู่บนถนนสายประชาธิปไตยแล้ว” ร่วน จี้จง ชาวมณฑลหูเป่ยที่มาร่วมงานทุกปีกล่าว “ทุกคนคิดเช่นนี้เหมือนกันหมด แต่ไม่มีใครกล้าพูดมันออกมาเท่านั้นเอง”

พรรคคอมมิวนิสต์พยายามกดทับมรดกทางการเมืองที่เจ้าทิ้งไว้ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้จะล่วงเลยมานานหลายสิบปีหลังเขาหมดอำนาจในมือ แต่ความวิตกกังวลในหมู่ผู้นำจีนต่ออิทธิพลที่หลงเหลืออยู่ของเจ้ากอปรกับความแตกต่างทางความคิดในการปฏิรูปการเมืองของประเทศ ก็ยังปรากฏให้เห็นในทุกวันนี้

“เพื่อรักษาผลประโยชน์ใหญ่ของพวกเขา กลุ่มผู้นำเลยตอกหมุดฝังรากระบบการเมืองแบบเผด็จการ และกลบรัศมีเก่าของเจ้าให้หมดสิ้นไปจากใจสาธารณชนจีน” ตู้ กวง อดีตหัวหน้าสำนักความคิดที่คอยให้คำปรึกษาการปฏิรูปการเมืองแก่รัฐบาลกล่าว
ประชาชนคุกเข่าโค้งคำนับเพื่อแสดงการรำลึกถึงเจ้า จื่อหยาง ในวาระครบรอบ 10 ปี แห่งการอสัญกรรม วันที่ 17 ม.ค. 2558 (รอยเตอร์ส)
อย่างไรก็ดี ผู้คนที่มาร่วมงานบางส่วนเช่น ตู้ เต่าเจิ้ง วัย 91 ปี ผู้ตีพิมพ์นิตยสารเหยียนหวง ชุนชิว (炎黄春秋) ที่มีเนื้อหาเน้นความเป็นเสรีนิยม กล่าวว่า ทางการจีนดูผ่อนปรนการคุมเข้มและข้อห้ามต่างๆ นับตั้งแต่สี จิ้นผิง ก้าวเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2555 โดยชี้ว่าปัจจุบันเป็นไปได้ที่จะค้นหาชื่อเจ้า จื่อหยาง บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแผ่นดินใหญ่

“แต่คงด่วนสรุปไม่ได้ว่าประธานาธิบดีสีจะส่งเสริมพิมพ์เขียวแผนปฏิรูปการเมือง ที่เจ้าทิ้งไว้เมื่อครั้งบริหารงานช่วงปลายทศวรรษ 80 … ได้แต่หวังว่าสีจะดำเนินการปฏิรูปตามความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นหลังเขาครองอำนาจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะเห็นผล” ตู้กล่าว

บริเวณห้องโถงที่ใช้จัดพิธีฯ เนืองแน่นไปด้วยพวงหรีดจำนวนมาก ซึ่งส่งมาจากบรรดาอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของพรรคฯ อาทิ อดีตรองนายกฯ เถียน จี้อวิ๋น, เป้า ถง อดีตผู้ช่วยมือหนึ่งของเจ้า, ไป๋ เหมยชิง อดีตรองเลขาธิการคณะมุขมนตรี (คณะรัฐบาล) และเกา อี๋ว์ นักหนังสือพิมพ์และนักวิเคราะห์การเมืองจีนที่ต้องโทษจำคุก

อนึ่ง ทางการอนุญาตให้เถียน จี้อวิ๋น เข้าร่วมงานพิธีที่บ้านพักของเจ้าได้ แต่สั่งห้ามเป้า ถง ซึ่งเป็นลูกน้องที่เจ้าให้ความไว้วางใจมากที่สุด โดยเจี่ยง จงเฉา ภรรยาของเป้าเล่าผ่านสื่อจีนแห่งหนึ่งว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์มาที่บ้านและนั่งเฝ้าทั้งคืนเพื่อจับตาดูสามี พร้อมกับเตือนไม่ให้เขาปริปากพูดอะไรกับสื่อ

แต่ไม่นานก่อนหน้านี้เป้าได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์สไว้ว่า เจ้าผู้เป็นหัวหน้าของเขามีความใส่ใจในการทำงานมาก โดยมักจะเดินทางไปตามโรงงานและหมู่บ้านชนบท เพื่อพูดคุยซักถามสภาพความเป็นอยู่หรือปัญหาต่างๆ

“เจ้าให้ความสำคัญกับปัญหาเหล่านี้ของประชาชน ไม่ใช่มัวเมากับเรื่องอื่นเป็นต้นว่าจะพัฒนาลัทธิมาร์กซิสให้เจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร” เป้าพูดด้วยอารมณ์เผ็ดร้อน
เป้า ถง อดีตลูกน้องคนสนิทของเจ้า จื่อหยาง โชว์ภาพถ่ายผู้เป็นนายระหว่างให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ส วันที่ 14 ม.ค. 2558 ทั้งนี้ ทางการจีนสั่งห้ามเป้าเข้าร่วมพิธีรำลึกการจากไปของเจ้า จื่อหยาง (รอยเตอร์ส)
บรรยากาศโดยรอบของการจัดกิจกรรมเป็นไปอย่างเรียบร้อย จะมีเพียงเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้นไม่ให้นักข่าวต่างชาติเข้าไปในตัวบ้านพัก โดยทางการปล่อยให้สื่อจากเกาะฮ่องกงเท่านั้น ที่เข้าไปสัมภาษณ์นางหวัง เยี่ยนหนัน บุตรสาวของเจ้า และนายหวัง จื้อหวา สามีของเธอได้

นางหวังกล่าวว่า เปรียบเทียบกับหลายปีที่แล้วมา มาตรการควบคุมของปีนี้ดูโอนอ่อนผ่อนคลายพอสมควร วัดได้จากนักข่าวที่เข้ามาทำข่าวซักถามเธอได้เช่นนี้

ด้านแหล่งข่าวใกล้ชิดกับครอบครัวของเจ้าเผยว่า จนถึงวันนี้เถ้ากระดูกของเจ้ายังคงถูกเก็บไว้ในบ้าน คู่กับเถ้ากระดูกของภรรยา นางเหลียง ปั๋วฉี ที่เสียชีวิตเมื่อเดือนธ.ค. 2556 เพราะครอบครัวยังตกลงกับทางการไม่ได้ว่าจะฝังไว้ ณ ที่ใด ทำให้อัฐิของเจ้ายังคงไร้สุสานหรือหลุมฝังต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น