เอเจนซี- ผู้เชี่ยวชาญชี้ มวลน้ำโครงการคลองผันน้ำจากแดนใต้สู่แดนเหนือ แม้ช่วยบรรเทาสถานการณ์ขาดแคลนน้ำในเมืองหลวงปักกิ่ง แต่ก็มีผลกระทบต่อเมืองต้นน้ำอีกหลายแห่ง และอาจต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะประเมินความเสียหายทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้
ชาวปักกิ่งกำลังได้เฮ เพราะจะได้น้ำจากแหล่งใหม่ที่เดินทางไกลกว่า 1,200 กิโลเมตร คนเมืองกรุงถึง 1 ใน 4 ได้กินได้ใช้น้ำจากคลองผันน้ำใหม่ และหลังจากนั้นก็จะมีน้ำจากอ่างเก็บน้ำตันเจียงโข่วที่อยู่ระหว่างหูเป่ยกับเหอหนัน เดินทางมาเสริมทัพ โดยน้ำจากอ่างเก็บน้ำตันเจียงโข่วจะใช้เวลาเดินทาง 10-15 วัน
โครงการคลองผันน้ำจากใต้สู่เหนือนี้ ประกอบด้วยระบบคลองสามสายด้วยกัน โดยคลองฯที่อัดฉีดน้ำให้ปักกิ่งเป็นคลองสายกลาง ความยาว 1,567 กิโลเมตร ซึ่งเพิ่งมีการปล่อยน้ำเข้าคลองอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา
แน่นอนว่า น้ำมวลมหึมาที่กำลังจะมาถึง ย่อมเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับชาวปักกิ่งจำนวนมาก ทว่า ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน ต่างก็วิตกกังวลกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นและอาจกลายเป็นหายนะทางนิเวศวิทยาได้ เช่น แม่น้ำฮั่นก็อาจได้รับผลกระทบระยะยาวเพราะมีการผันน้ำออก ทำให้พื้นที่ตอนกลางและตอนล่างของแม่น้ำสายนี้ ได้รับผลกระทบไปด้วย
ในขณะที่เจ้าหน้าที่จากคณะมุขมนตรี หรือคณะรัฐบาลจีน ที่ดูแลโครงการนี้แต่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ กล่าวว่าตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา มีการปิดโรงงานที่ปล่อยมลพิษมากกว่า 1,000 แห่ง ในบริเวณพื้นที่ที่มีการผันน้ำ โดยใช้งบประมาณในการนี้ไปถึง 18,000 ล้านหยวน หรือราวๆ 90,000 ล้านบาท
“น้ำในอ่างเก็บน้ำตันเจียงโข่ว ยังเสถียรและมีคุณภาพดี แต่ความท้าทายมันอยู่ที่ว่า จะรักษาคุณภาพนี้ต่อไปได้อย่างไรในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ขณะนร้มีการพัฒนาเขตเมืองในท้องถิ่นเหล่านี้” เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีการแสดงความวิตกกังวลต่อสภาพเมืองอื่นๆ ที่อยู่ตามลำน้ำฮั่น ไม่ว่าจะเป็นอู่ฮั่น เซียงหยาง และสือเยี่ยน
ชาวบ้านในอู่ฮั่น กล่าวว่าหน้าร้อนที่ผ่านมา เกิดสาหร่ายบูมในแม่น้ำนานไปถึงเดือนธ.ค. ซึ่งปีก่อนๆสาหร่ายบูมหายไปเร็วกว่านี้ หูเป่ย เดลี และซังเจียง ไทม์ส รายงานอ้างคำกล่าวของชาวบ้านในละแวกนั้น นอกจากนี้ ยังมีเสียงบ่นจากชาวบ้านระบุด้วยว่า แม่น้ำสกปรกขึ้น และมีปลาน้อยลง
ด้านศูนย์วิจัยแอนเบานด์ (Anbound Information) คลังสมองของภาคเอกชนในปักกิ่ง ระบุว่า สิ่งเหล่านั้นแสดงให้เห็นหายนะทางระบบนิเวศที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ อันเป็นผลจากการผันน้ำออกจากแม่น้ำฮั่นไปเติมให้พื้นที่ทางเหนือ
ตามแผนงานฯ จะมีการผันน้ำ 9,500 ล้านลบ.ม. ต่อปี ดูดน้ำจากแม่น้ำฮั่นในมณฑลหูเป่ยไปถึง 24 เปอร์เซ็นต์ ย่อมกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่อย่างรุนแรง แอนเบานด์ฯ ระบุในผลการวิจัย
ส่วนรายงานของเจ้าหน้าที่จากเซียงหยางที่ส่งให้รัฐบาลกลาง ก็มีการระบุถึงผลกระทบจากโครงการผันน้ำฯ ดังกล่าว และเรียกร้องให้มีการชดเชยให้แก่เมืองเซียงหยางด้วย โดยพวกเขาระบุว่า เซียงหยางต้องจ่ายค่าก่อสร้างระบบชลประทานและสร้างแหล่งน้ำใหม่สูงมาก เนื่องจากระดับน้ำและอัตรากระแสน้ำไหลลดลง ส่วนค่าใช้จ่ายดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมก็จะสูงขึ้นด้วยเพราะน้ำที่ใช้ในการเจือจางมลพิษมีน้อยลง ด้านผลผลิตทางการเกษตรก็จะลดลงตาม อีกทั้งทำล่ยความหลากหลายทางชีวภาพ รายงานฯ ดังกล่าว ระบุ
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนทุ่ม 62,000 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับผุดโครงการผันน้ำจากใต้สู่เหนือ ในแต่ละปีจะมีการผันน้ำจากแม่น้ำฉังเจียงหรือแยงซีเกียง 44,800 ล้านคิวบิคเมตร เข้าสู่ที่ราบลุ่มแม่น้ำเหลืองทางภาคเหนือซึ่งเป็นพื้นที่แห้งแล้งกว่า