นายกฯ จีนเตือนหายนะหากยังขัดแย้ง กระตุ้นนานาชาติร่วมสร้างสันติสุขแห่งผืนสมุทร

เอเจนซี - นายกฯ จีนเผย อยากให้นานาชาติร่วมกันสร้างสันติสุขเหนือผืนทะเล สกัดหายนะที่อาจเกิดขึ้นเพราะความบาดหมางใจครั้งอดีต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน (22 มิ.ย.) ว่า นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เอ่ยในที่ประชุมสุดยอดกิจการทางทะเล ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศกรีซเมื่อวันศุกร์ (20) ที่ผ่านมา ระบุ “จีนต้องการสนับสนุนการพัฒนาความสงบสันติในอาณามหาสมุทรอันกว้างใหญ่” ขณะเดียวกันก็เตือนว่า “ความขัดแย้งในอดีตอาจนำพาความหายนะสู่มวลมนุษยชาติได้”

ถ้อยคำของผู้นำอันดับสองแห่งแดนมังกรนี้ ปรากฏขึ้นท่ามกลางการโต้เถียงระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้านในประเด็นกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้ ซึ่งกำลังปะทุความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลังจากจีนอ้างสิทธิ์การครอบครองเกือบทั้งหมด และปฏิเสธคำแย้งจากเวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน มาเลเซีย และบรูไน ก่อเกิดปมขัดแย้งเรื้อรังครั้งใหญ่ในภูมิภาคเอเชียที่หลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าอาจกลายเป็นสงครามสู้รบในอนาคต

“จีนจะไม่เปลี่ยนทิศทางแห่งการพัฒนาสันติสุข และจะต่อต้านทุกการกระทำที่แสดงถึงการครอบครองความเป็นเจ้าในกิจการทางทะเล” หลี่กล่าว “การร่วมมือกันพัฒนามหาสมุทรย่อมช่วยให้หลายชาติเจริญรุ่งเรือง ส่วนการใช้มาตรการสู้รบก็ย่อมนำไปสู่หายนะของมนุษยชาติ”

ขณะที่การประชุม ณ นครหลวงปักกิ่ง นายหยัง เจี๋ยฉือ นักการทูตระดับสูงและสมาชิกแห่งคณะมุขมนตรี (รัฐบาลจีน) ซึ่งสัปดาห์ก่อนได้เยือนเวียดนามเพื่อหารือข้อพิพาทจากการที่จีนตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันในเขตน่านน้ำที่รัฐบาลฮานอยอ้างสิทธิ์ กล่าวว่า ปักกิ่งมีความสุขุมอดทนและจริงใจในการเจรจาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่จีนจะไม่ยินยอมสูญเสียอำนาจอธิปไตยของชาติเด็ดขาด

“จีนจะรักษาผลประโยชน์หลักของชาติ และหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจทำร้ายอธิปไตย ความมั่นคง และการพัฒนาของประเทศ” หยังกล่าว

ทั้งนี้ สำนักข่าวซินหวาของทางการจีน รายงาน (20 มิ.ย.) ว่า เวียดนามพยายามส่งเสริมชาวประมงให้เข้ามาจับปลาในเขตพิพาทรอบหมู่เกาะพาราเซล ที่จีนเรียกว่าหมู่เกาะซีซา และเวียดนามเรียกว่าหมู่เกาะ Hoang Sa ด้วยการใช้เงินล่อใจชาวบ้านท้องถิ่น

“เจ้าหน้าที่ได้จับกุมชาวเวียดนามที่ทำประมงอย่างผิดกฎหมายจีน โดยทั้งหมดสารภาพว่าได้รับเงินก้อนใหญ่จากรัฐบาลเวียดนาม ให้เข้ามาจับปลาในเขตพิพาท”

“นอกจากนั้น เรือประมงติดอาวุธของเวียดนามยังได้ปล้นสะดมเรือประมงจีนอยู่หลายครั้ง ส่อเค้าการคุกคามร้ายแรงต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของชาวประมงจีนอีกด้วย”