ASTVผู้จัดการออนไลน์--อดีตที่ปรึกษาใหญ่ของอดีตประธานาธิบดีหู จิ่นเทา คือนาย ลิ่ง จี้ฮว่า ถูกไต่สวนอย่างเป็นทางการแล้ว นับเป็นหนึ่งใน “เสือใหญ่” ที่พรรคฯได้จัดการนำตัวเข้าสู่กระบวนการศาลยุติธรรมในขั้นตอนไต่สวนและดำเนินคดี เช่นเดียวกับเสือใหญ่ที่ถูกล้มอย่างไม่น่าเชื่อ ได้แก่ โจว หย่งคัง อดีต “ซาร์ความมั่นคง” จีน และสีว์ ไฉโฮ่ว อดีตรองประธานคณะกรรมการการทหารกลางฯ
สำนักข่าวซินหวารายงาน คณะกรรมการตรวจสอบวินัยพรรคฯแถลงเมื่อวานนี้(22 ธ.ค.) ดำเนินการไต่สวนนาย ลิ่ง จี้ฮว่า วัย 58 ปี รองประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาการเมืองของพรรคฯ ควบตำแหน่งฝ่ายการแนวร่วมกลางฯ ในข้อกล่าวหาพัวพันการ “ละเมิดวินัยพรรคคอมมิวนิสต์อย่างร้ายแรง” ซึ่งเป็นวลีที่มักหมายถึงการคอรัปชั่น
ลิ่ง จี้ฮว่า เป็นผู้นำสูงสุดระดับแถวหน้ารายล่าสุด ที่ถูกดำเนินการตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่น นับจากวันที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เปิดฉากปราบปรามคอรัปชั่นครั้งใหญ่เมื่อสองปีกว่าที่แล้ว โดยลั่นวาจากวาดล้างทั้ง “เสือใหญ่และแมลงวัน” ที่เขมือบผลาญผลประโยชน์ของชาติ
ก่อนหน้าไม่กี่เดือน พี่น้องในตระกูลลิ่ง ก็ถูกดำเนินการสอบสวน ได้แก่ พี่ชาย คือรองประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาการเมืองแห่งพรรคฯสาขามณฑลซันซี นาย ลิ่ง เจิ้งเช่อ ถูกดำเนินการไต่สวนในข้อหาละเมิดวินัยพรรคฯเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาในเดือนพ.ย. น้องชาย คือ นาย ลิ่ง หวันเฉิง นักธุรกิจที่ใช้นามแฝง “หวังเฉิง” ก็โดนสอบฯ นับเป็นการกวาดล้างคอรัปชั่นในมณฑลซันซี บ้านเกิดของลิ่ง
“อุบัติเหตุเฟอรารี่” ทำอนาคตของ “ลิ่ง จี้ฮว่า” ย่อยยับทั้งตระกูล
ลิ่ง จี้ฮว่า เคยเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของอดีตประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ที่ขณะนั้นถูกจับตามองว่าเขาจะทะยานขึ้นมาเป็นผู้นำใหญ่คนหนึ่งของกลุ่มการนำรุ่นที่หก ที่จะสืบทอดอำนาจการปกครองแผ่นดินต่อจากประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
ลิ่ง จี้ฮว่า คร่ำหวอดในสำนักงานกลางคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ จนได้เป็นเลขาฯใหญ่ของสำนักงานกลางฯนี้ในปี 2550 ต่อมาได้ควบเก้าอี้สำนักงานเลขาธิการใหญ่ของพรรคฯ จนถึงปี 2555 จัดเป็นเจ้าหน้าที่ระดับแถวหน้าที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่ง แม้จะไม่เป็นที่รู้จัก
แต่แล้วก็หนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น เหตุการณ์รถหรูเฟอรารี่ มูลค่า 5 ล้านหยวน หรือราว 25 ล้านบาท พุ่งชนกำแพงในย่านถนนวงแหวนที่สี่ทิศเหนือในกรุงปักกิ่งในตอนเช้ามืดราวตีสี่ของวันที่ 18 มี.ค. 2555 ในซากรถหรูที่พังยับเยิน มีหญิงสาว 2 คน ได้รับบาดเจ็บ โดยคนหนึ่งอยู่ในสภาพเปลือย อีกคนผ้าผ่อนหลุดรุ่ย และชายหนุ่มผู้ขับรถอยู่ในสภาพกึ่งเปลือย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบรู้ตัวตนในหลายเดือนต่อมาว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้ คือ ลิ่ง กู่ บุตรชายของ ลิ่ง จี้ฮว่า
อุบัติเหตุอันน่าอนาถนี้เอง ได้เป็นเบาะแสของการเกาะรอยการทุจริตคอรัปชั่นของ ตะกูลลิ่ง และอนาคตการเมืองอันเจิดจรัสของ ลิ่ง จี้ ฮว่า ก็ดับวูบ!
หลังเกิดอุบัติเหตุฯที่ตอนแรกยังไม่มีใครรู้ว่าชายผู้ขับเป็นใคร ลิ่งก็ได้ขอความช่วยเหลือจากอดีตประธาน ไชน่า เนชั่นนัล คอร์พอเรชั่น (China National Petroleum Corporation/CNPC) ให้ช่วยจ่ายค่าชดเชยจำนวนมหาศาลแก่ครอบครัวของผู้บาดเจ็บหญิงทั้งสอง เพื่อปิดรายละเอียดเกี่ยวกับอุบัติเหตุ
แหล่งข่าวเผยว่าครอบครัวหญิงทั้งสองได้รับค่าชดเชยคนละนับสิบล้านหยวน หรืออย่างน้อย 50 ล้านบาท โดยเงินจาก ไชน่า เนชั่นนัล ปิโตรเลียม ถูกจ่ายเข้าบัญชีธนาคารของพวกเธอ การจ่ายเงินจำนวนมหาศาลนี้ ทำให้หน่วยปราบคอรัปชั่นพุ่งเป้าไปที่ เจียง เจี๋ยหมิ่น ซึ่งตอนนี้กำลังถูกสอบฯเช่นกัน
อุบัติเหตุทำให้ความหวังของลิ่ง ที่ขณะนั้นเกือบจะฟันธงแล้วว่าจะได้เลื่อนขั้นสูงขึ้นไปถึงคณะกรรมการประจำกรมการเมืองในการประชุมสมัชชาพรรคฯที่ 18 ปี 2555 ก็มีอันพังครืนในพริบตา
หลังเกิดอุบัติเหตุไม่กี่เดือน เจ้าหน้าที่ก็เริ่มไต่สวนกลุ่มญาติและพวกพ้องที่ใกล้ชิดของลิ่ง จนกระทั่งในเดือนมิ.ย. พี่ชายและน้องชายของลิ่ง คือ ลิ่ง เจิ้งเช่อ รองประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาการเมืองแห่งพรรคฯสาขามณฑลซันซี และนาย ลิ่ง หวันเฉิง ก็ถูกสอบฯ
“สำนักงานกลางเปรียบเสมือนเดือยหมุนการนำของส่วนกลางทั้งหมด ทุกสิ่งอย่างที่ต้องการให้กลุ่มผู้นำรับรอง รวมทั้งนโยบายทุกอย่างต้องผ่านสำนักงานกลางนี้ด้วยเช่นกัน” แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับสำนักงานกล่าว “และลิ่ง คือคนกลางที่เห็นทุกอย่าง”
แหล่งข่าวเล่าต่อไปว่า มีอยู่ครั้งหนึ่ง บรรดาเจ้าหน้าในปักกิ่งมีปัญหาเรื่องการย้ายผู้อาศัยในท้องถิ่นออกจากพื้นที่ใกล้จงหนันไห่เพื่อก่อสร้างอพาร์เมนท์ให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ ลิ่งเข้ามาจัดการและจัดการประชุมออกคำสั่ง
“จริงๆแล้วเขาไม่ต้องทำเช่นนั้น ด้วยเขาทรงอิทธิพลมาก แต่เพราะลิ่ง การโยกย้ายก็เป็นไปอย่างราบรื่น”
ลิ่งเป็นคนทำงานหนักมากถึงขั้นบ้างานขณะเป็นนายใหญ่สำนักงานกลางฯ
“ลิ่งไม่เคยพักผ่อนเลย” ลูกน้องคนหนึ่งของลิ่ง กล่าว
วิธีการคลายเครียดของลิ่ง คือการเล่นปิงปอง ลูกน้องของลิ่งมักเห็นเขาตีปิงปองในตอนกลางคืน เมื่อเล่นเสร็จเขาก็กลับไปที่โต๊ะทำงาน
“เขามักทำงานไปถึงเที่ยงคืน และเล่นปิงปองราวครึ่งชั่วโมง ครั้งแรกที่เห็นเขาตีปิงปอง พวกเราคิดว่า “มันเป็นการปิดท้ายวันอันยาวนาน” แต่เขาก็ยังกลับไปที่โต๊ะทำงาน ทำงานต่ออีก 2-3 ชั่วโมง”