xs
xsm
sm
md
lg

จบกันเสียที... โจว หย่งคัง แห่ง “แก๊งปิโตรเลียมจีน”

เผยแพร่:   โดย: สุรัตน์ ปรีชาธรรม

โจว หย่งคัง เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2555 ขณะเป็นสมาชิกในคณะกรรมการประจำกรมการเมือง หรือโปลิตปูโร พรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นองค์กรกุมอำนาจสูงสุดตัดสินชี้ขาดกิจการของประเทศชาติ (ภาพ เอพี)
ASTVผู้จัดการออนไลน์--ในยามวิกาลเที่ยงคืนของวันที่ 5 ธ.ค. สำนักข่าวซินหวา กระบอกเสียงเอกของรัฐจีน รายงานข่าวใหญ่ที่วงการจับตาลุ้นมาเป็นปีๆ คือแถลงการณ์ขับอดีตผู้นำใหญ่ที่ทรงอิทธิพลอำนาจล้นฟ้าจีน นาย โจว หย่งคัง ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ พร้อมประกาศยื่นรายงานการไต่สวนและหลักฐานทั้งหมด เกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่น ของนาย โจว ให้แก่สำนักอัยการสูงสุด

ในรายงานข่าวซินหวา ระบุคณะกรรมการตรวจสอบวินัยกลางแห่งพรรคฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบโจวมาตั้งแต่ต้นปีนี้(2557) และได้สรุปข้อกล่าวหาต่างๆที่ล้วนเป็นการละเมิดวินัยพรรคฯอย่างร้ายแรง ทั้งการรับสินบน เปิดเผยความลับของชาติและพรรคฯ ใช้อิทธิพลอำนาจและเงินแลกกับการมีสัมพันธ์ทางเพศกับผู้หญิง อีกทั้งใช้ตำแหน่งเอื้ออวยผลประโยชน์แก่บรรดาพวกพ้องทั้งชู้รัก ญาติๆ และเพื่อนฝูง

ข้อกล่าวหาใหญ่อีกกระทงคือ ทำให้ประเทศชาติสูญเสียผลประโยชน์ทรัพย์สินอย่างมหาศาล

ขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุดได้รับรองหมายจับ โจว หย่งคัง แล้ว

โจว หย่งคัง วัย 72 ปี ในอดีตที่กุมอำนาจล้นฟ้า มีฉายา “ซาร์ความมั่นคง” การทุจริตคอรัปชั่นของเขา มิใช่เพียงระดับบุคคล หากเป็นขบวนการที่แผ่เครือข่ายกว้างขวางอย่างน่าตกตะลึง สร้างความฟอนแฟะในภาคความมั่นคงที่มีหน่วยตำรวจเป็นกลไกและภาคธุรกิจน้ำมันจีนมานานร่วมกึ่งศตวรรษ

การเดินหน้าคดีฯของนายโจวครั้งนี้ เป็นการจับ “เสือใหญ่” หัวโจกก่อการทุจริตคอรัปชั่นที่ฉาวโฉ่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ขึ้นครองอำนาจปกครองในปี พ.ศ. 2492 ดังนั้น จึงเป็นบทพิสูจน์ครั้งหลักหมายของผู้นำสี จิ้นผิง ผู้ลั่นวาจาเด็ดขาด จะจัดการทั้ง “เสือใหญ่และแมลงวัน”ในภาคทุจริตคอรัปชั่น

ด้วยโจวเรืองอำนาจสูงสุดโดยเป็นหนึ่งในผู้นำใหญ่แห่งองค์กรอำนาจสูงสุดของประเทศคือ คณะกรรมการประจำกรมการเมืองหรือโปลิตปูโรของพรรคคอมมิวนิสต์ ดังนั้นช่วงก่อนหน้าจึงมิใครเชื่อมั่นนักว่า สี จิ้นผิง จะสามารถเผด็จศึกจับเสือใหญ่อย่าง โจว หย่งคัง ผู้สร้างเครือข่ายอิทธิพลและอำนาจมืดมานานสิบๆปี ให้มาหมอบอยู่ใต้กฎหมายได้จริง

เส้นทางอำนาจมืดของหัวหน้าแก๊งปิโตรเลียมแดนมังกร
โจว หย่งคัง ถือกำเนิดเมื่อปี พ.ศ. 2485 ในครอบครัวเกษตรกรที่หมู่บ้านซีเหมินโถว เมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู เป็นบุตรชายคนโตของครอบครัว ด้วยความเป็นเด็กฉลาดเรียนเก่ง สอบติดมหาวิทยาลัย ได้เข้าศึกษาในสถาบันปิโตรเลียมแห่งปักกิ่ง (Beijing Petroleum Institute) ที่ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยปิโตรเลียมแห่งจีน (China University of Petroleum)

โจวจบการศึกษาในปี 2509 เริ่มชีวิตทำงานโดยเป็นช่างเทคนิกที่บริษัทบ่อน้ำมันต้าชิ่งในมณฑลเฮยหลงเจียง ต่อมาปี 2516 ได้ขยับขึ้นมาเป็นหัวหน้าแผนกขุดเจาะน้ำมันที่สำนักงานปิโตรเลียมแห่งเหลียวเหอ ศูนย์กลางการผลิตน้ำมันใหญ่ในมณฑลเหลียวหนิงแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือจีน ที่นี่เอง...เขาได้สนิทกับเจิง ชิ่งหง อดีตรองประธานาธิบดีจีน ซึ่งอยู่ในคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติด้วย

ในปี 2539 โจวก็ได้เป็นนายใหญ่คุมบริษัทการปิโตรเลียมจีน (China National Petroleum Corporation /CNPC) ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของประเทศจีน

คนสนิททั้งหมดของโจวในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจน้ำมัน ถูกจับกุมตัวแล้ว ได้แก่ หลี่ หวาหลิน รองผู้จัดการทั่วไปของซีเอ็นพีซี ผู้เคยเป็นเลขาฯส่วนตัวของโจว นอกจากนี้ญาติๆของโจวกลุ่มหนึ่งก็โดนดำเนินคดีในข้อกล่าวหาทำสัญญาธุรกิจอย่างผิดกฎหมายที่เชื่อมโยงกับซีเอ็นพีซี ในกลุ่มนี้รวมทั้งบุตรชายคนโตของโจวคือ โจว ปิน, ลูกสะใภ้ นาง หวง วั่น, พี่ชาย โจว หยวนชิ่ง, น้องสะใภ้ โจว หลิงอิ่ง, และลูกชายของเธอ คือ โจว เฟิง

โจวไต่เต้าสู่ตำแหน่งสูงขึ้นๆ หลังจากที่ได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรที่ดิน ในปีถัดมา ปี 2542 ก็ได้เป็นเลขาธิการพรรคฯประจำมณฑลซื่อชวน หรือเสฉวน เขตที่อุดมไปด้วยทรัพยากร ซึ่งกลายเป็นฐานอำนาจและแหล่งกอบโกยผลประโยชน์ของโจวและครอบครัว

โจวได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ (หรือกระทรวงตำรวจ) ในปี 2545 ห้าปีต่อมา คือปี 2550 ก็บรรลุถึงดวงดาวแห่งอำนาจคือ การได้เป็นสมาชิกในคณะกรรมการประจำกรมการเมืองฯชุดที่ 17 คณะกรรมการเมืองฯนี้ เป็นองค์กรอำนาจสูงสุดของพรรคฯ กุมอำนาจตัดสินชี้ขาดกิจการของประเทศชาติ ขณะนั้นมีสมาชิกทั้งหมด 9 คน รวมทั้ง หุ จิ่นเทา สี จิ้นผิง เวิน จยาเป่า และหลี่ เค่อเฉียง

ในช่วงที่เป็นนายใหญ่คุมความสงบเรียบร้อยของแผ่นดินใหญ่ โจวก็ได้ออกมาตรการกระชับสัมพันธ์ระหว่างตำรวจกับประชาชน แต่แล้วก็เกิดเหตุที่สะท้อนความจริงออกมาโดยในปี 2551 เกิดคดีฮือฮา กรณีนาย หยัง จยา วัย 28 ปี บุกสังหารตำรวจ 6 นาย ในนครเซี่ยงไฮ้ หยังกลายเป็น “วีรบุรุษ” ของกลุ่มที่ไม่ชอบวิธีการของโจว แต่กระนั้นโจวก็ยังเป็นที่นิยมชมชอบของกลุ่มตำรวจ

เมื่อ โจว ปลดเกษียณออกจากคณะกรรมกรมการเมืองฯเมื่อเดือนก.ค. ปี 2555 กระแสข่าวอื้อฉาวฯเกี่ยวกับโจว ก็เริ่มทยอยเล็ดรอดออกมา
จย่า เสี่ยวเย่ ภรรยาคนที่สองของ โจว หย่งคัง ผู้มีวัยอ่อนกว่าโจว 28 ปี (ภาพ เอเจนซี)
ก่อนที่จะเผด็จศึกจับเสือใหญ่ ผู้นำจีนได้กวาดจับกลุ่มพวกพ้องฯ ได้แก่ หลี่ ตงเซิง อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ ถูกจับกุมในปลายเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว(2556) เดือนต่อมา เหลียง เค่อ ผู้อำนวยการหน่วยความมั่นคงของเทศบาลนครปักกิ่ง ผู้เป็นดั่งมือขวาข่าวกรองของโจว ก็โดนจับกุม ในข้อกล่าวหาคอรัปชั่นมโหฬาร บางแหล่งข่าวเผยว่า เหลียง ช่วย หลี่ และโจว ติดตามโทรศัพท์ของชนชั้นนำในพรรคฯ

ภรรยาคนปัจจุบัน ของโจว คือ นาง จย่า เสี่ยวเย่ อดีตผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์กลางแห่งจีน หรือ ซีซีทีวี ส่วนภรรยาคนแรกของโจว คือ หวัง ซูหวา เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถชน โดยปีถัดมา โจวก็แต่งงานกับจย่า ผู้เกิดปี 2513 ละอ่อนกว่าโจว 28 ปี ขณะนี้นางจย่าถูกควบคุมตัว

ทั้งนี้โรงสีข่าวลือที่พ่นข่าวที่ยังไม่มีการยืนยันเกี่ยวกับข่าวฉาวคาวโลกีย์ของโจว ถึงขนาดมีชู้รักนับร้อยๆคน ส่วนภรรยาคนที่สอง นางเจี่ย ก็เป็น “ของขวัญ” จาก ลูกน้องคือ หลี่ ตงเซิง โจวมี “ที่พักส่วนตัวอย่างน้อย” 6 แห่ง ในกรุงปักกิ่ง สำหรับสนุกกับสาวๆ....

บุตรชาย โจว บิน เจ้าของบริษัทการลงทุน และบริษัทผลิตระบบพลังงานไฮดรอลิค ก็ถูกจับกุมเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว (2556)

สื่อกระแสหลักเผย ทรัพย์สินที่ถูกยึดเป็นของกลางจากพวกพ้องโจว คิดเป็นมูลค่าอย่างน้อย 90,000 ล้านหยวน หรือราว 450,000 ล้านบาท

สำหรับเครือข่ายผลประโยชนที่เจ้าหน้าที่สืบสาวได้ และเปิดเผยโดยสื่อฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ระบุ มีบริษัทอย่างน้อย 37 ราย ที่แผ่ขยายข้ามแดนไปถึงอเมริกาเหนือ เป็นของสมาชิกในครอบครัวหรือพวกพ้องของโจว โดยมีทั้งทำธุรกิจน้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ เขื่อน การท่องเที่ยว และอื่นๆอีกมากมาย

ความมั่งคั่งของโจวมหาศาลชนิดไม่มีใครประมาณได้เลย เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่จะติดตาม โดยยังมีกลุ่มสัญญาธุรกิจที่โจวไม่ได้เอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรง

กลุ่มพันธมิตรโจว กระโดดหนี
ในบ่ายวันศุกร์(5 ธ.ค.) ก่อนที่สำนักข่าวซินหวารายงานข่าวขับโจว หย่งคัง ออกจากพรรคฯ คณะกรรมการพรรคฯประจำมณฑลเสฉวน ที่เป็นฐานอำนาจเก่าของโจว ก็เปิดการประชุม ประกาศ “พิทักษ์ความสมานฉันท์ของพรรคฯ และต่อต้านระบบพวกพ้องอย่างเด็ดขาด” พร้อมลั่นคำมั่นว่าจะแก้ไขสิ่งผิดความเลวร้ายที่โจวสร้างมลทินแก่ภาคเศรษฐกิจและการเมืองในเสฉวน

นอกจากนี้ หนังสือกองทัพปลดแอกประชาชน เดลี่ (PLA Daily) รายงาน ทหารหน่วยต่างๆพร้อมใจออกมากล่าวสนับสนุนการตัดสินใจของพรรคฯ

ผู้เชี่ยวชาญการปราบปรามทุจริตแห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง นาย จวง เต๋อซุ่ย ชี้ว่าคำประกาศของผู้นำในฐานอำนาจเก่าของโจวอย่างในเสฉวนนั้น เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจของการเมืองแผ่นดินใหญ่ มันแสดงให้เห็นว่าผู้ที่กุมอำนาจอยู่นั้น พร้อมตัดสัมพันธ์กับโจวในทันควัน

“ในด้านหนึ่ง ผู้นำที่ครองอำนาจปัจจุบัน ได้บอกลาการกระทำผิดพลาดในอดีตของพวกเขา และอีกด้านหนึ่ง ก็เป็นการประกาศสนับสนุนการนำของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง”
กราฟฟิก กลุ่มพวกพ้องในเครือข่ายทุจริตคอรัปชั่นของโจว หย่งคัง (ถาะโดย เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์)

กำลังโหลดความคิดเห็น