เอเอสทีวี - ฯพณฯ หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แถลงฯ หลังจากเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลง 2 ฉบับ ระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ย้ำนโยบายแน่วแน่ที่ประเทศจีนจะพัฒนาสัมพันธ์ฉันทมิตรกับประเทศรอบข้าง โดยเฉพาะประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดกับประเทศจีน พร้อมกับขออวยพรให้ประชาชนชาวไทยจงมีความสุขและขอฝากความปรารถนาดีไปยังชาวไทยทุกคน
เอเอสทีวี รายงาน (20 ธ.ค.) คำแถลงของฯพณฯ หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังจากเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลง 2 ฉบับ ระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ 1. บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วยความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 - 2565 ระหว่าง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายฉีว์ ซ่าวสื่อ ผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ และ 2. บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรโดย พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยและนายฉีว์ ซ่าวสื่อ ผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ
โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีฯ นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กลับมาที่พัก ณ โรงแรมแชง-กรีล่า กรุงเทพมหานคร และกล่าวก่อนร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำของผู้นำที่เข้าร่วมการการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศ ครั้งที่ 5 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา เมื่อเวลา 17.00 น. ว่า การเดินทางมาไทยครั้งนี้เพื่อร่วมประชุมแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 5 อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงนโยบายแน่วแน่ที่ประเทศจีนจะพัฒนาสัมพันธ์ฉันทมิตรกับประเทศรอบข้าง โดยเฉพาะประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดกับประเทศจีน
ความร่วมมือต่างๆ ที่ประเทศจีนดำเนินร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ ได้ดำเนินไปภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน จีนมีความประสงค์และปรารถนาที่ดีในการกระชับมิตรภาพ ส่งเสริมเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค และต้องการแสดงแก่ชาวโลกว่า ประเทศจีนยืนหยัดแน่วแน่ในการส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงในภูมิภาค พัฒนาประเทศในทางสันติ
ผู้นำจีน ยังได้กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้ได้เดินทางไปประเทศพม่า ร่วมการประชุมผู้นำฯ และได้บรรลุฉันทามติกับผู้นำอาเซียนทุกประเทศในการพัฒนาเสถียรภาพและความมั่นคงตลาดการค้าขาย ตลอดจนเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลจีนใต้
การประชุมอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงนี้ ถือว่าเป็นการสร้างความหลากหลายให้เกิดความร่วมมือในกรอบอาเซียน และจีนจะผลักดันให้ความร่วมมือนี้ เสริมสร้างเสถียรภาพ สันติภาพ และมิตรภาพ อีกทั้งในวันที่ 20 ธันวาคม ยังจะได้กล่าวคำปราศัยในที่ประชุมเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค ตลอดทั้งการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน การรักษาระบบนิเวศด้วย
นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ได้กล่าวถึง ความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 และร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตร ว่า จีนและไทยจะร่วมกันสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่ ขนาดมาตรฐาน ความยาวกว่า 800 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นผลดีกับการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดยจะขยายเส้นทางไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ กับทิศใต้ อันเป็นเส้นทางที่สำคัญในการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมในภูมิภาค อีกทั้งเป็นสิ่งที่ดีในการทำให้การขนส่งผู้โดยสารและสินค้าออกของประเทศไทยมีความคล่องตัวมากขึ้น
การก่อสร้างเส้นทางรถไฟนี้ จะใช้มาตรฐานและอุปกรณ์ของประเทศจีน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ขณะที่ความร่วมมือด้านสินค้าเกษตรนั้น จีนจะซื้อสินค้าเกษตรของไทย เพิ่มขึ้นเป็นปริมาณเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าข้าว และสินค้ายางพารา เพื่อแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ และส่งเสริมให้มีความมั่นคงทางการค้าสินค้าเกษตร ลดความเสี่ยงจากราคาตลาดโลกที่ผันผวน และมีแนวโน้มราคาจะตกต่ำลงเรื่อยๆ
ในช่วงท้ายของการแถลงฯ ผู้นำจีนได้กล่าวอวยพรปีใหม่แก่ประชาชนไทยว่า ชนชาติจีนและชนชาติไทยต่างรักสันติภาพ เป็นพี่น้องกัน ในวาระดิถีปีใหม่ที่จะมาถึง ข้าพเจ้าในนามของประชาชนชาวจีน และรัฐบาล และโดยส่วนตัวของข้าพเจ้าเอง ขออวยพรให้ประชาชนชาวไทยมีความสุขและขอฝากความปรารถนาดีไปยังชาวไทยทุกคน
