เอเจนซี - ตำรวจเซี่ยงไฮ้จับกุมทีมผู้บริหาร “หูสี่ ฟู้ด” โรงงานแปรรูปอาหารที่กำลังฉาวโฉ่จากกรณีหมกเนื้อเน่าขายลูกค้า พร้อมยึดของกลางมาตรวจสอบมากกว่า 1,000 ตัน ด้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังเร่งกู้คืนความมั่นใจผู้บริโภคแดนมังกร
สำนักข่าวซินหวา สื่อทางการจีน รายงาน (23 ก.ค.) การจับกุมผู้บริหารใหญ่ 5 รายของบริษัท ซั่งไห่ ฝูสี่ ฟู้ด จำกัด (上海福喜食品有限公司) หรือหูสี่ (Husi) ซึ่งถูกกล่าวหาว่าจัดจำหน่ายเนื้อวัวและเนื้อไก่หมดอายุให้กับร้านอาหารชื่อดัง อาทิ แม็คโดนัลด์ เคเอฟซี สตาร์บัคส์ พิซซ่าฮัท ฯลฯ ทั่วประเทศจีน
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด หลังผลการสืบสวนพบ “การผลิตและดำเนินการอย่างผิดกฎหมาย” โดย กู่ เจิ้นหวา รองผู้อำนวยการสำนักงานความปลอดภัยอาหารนครเซี่ยงไฮ้ บอกกับซินหวาว่า “พบการจัดการที่มิใช่การกระทำของบุคคลเพียงคนเดียว แต่เป็นการสั่งการวางแผนอย่างมีขั้นตอนภายในบริษัท” ทว่าไม่มีการยืนยันเรื่องเนื้อสัตว์หมดอายุตามที่ถูกกล่าวหา
ด้านสำนักงานตำรวจเซี่ยงไฮ้เผยว่า หูสี่ละเมิดกฎหมายความปลอดภัยอาหาร โดยพบกล่องสินค้าปนเปื้อนเนื้อเน่าต้องสงสัย 5,108 กล่องอยู่ในโรงงาน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แม็คนักเกตส์ มินิสเต็ก และพายเนื้อ ส่วนผู้บริหารที่ถูกกักตัวมาไต่สวน มีทั้งหัวหน้าบริษัทและหัวหน้าฝ่ายดูแลคุณภาพสินค้า
นอกจากนั้น องค์การอาหารและยาแห่งชาติจีนออกแถลงการณ์วันนี้ระบุ ทีมสอบสวนได้ยึดของกลางเป็นวัตถุดิบรอแปรรูป 160 ตัน และสินค้ารอส่งออกขายกว่า 1,100 ตัน โดยกระบวนการสอบสวนจะขยายไปยังโรงงานผลิตแห่งอื่นๆ ในอีก 5 มณฑล
ทั้งนี้ มหากาพย์ฉาวโฉ่ของหูสี่ บริษัทในเครือ โอเอสไอ กรุ๊ป (OSI Group) ผู้ผลิตอาหารแปรรูปยักษ์ใหญ่จากอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา ได้จุดกระแสตื่นตัวในหมู่ผู้บริโภคชาวจีนและธุรกิจฟาสต์ฟู้ดทั่วประเทศ โดยมันเริ่มต้นจากดรากอน ทีวี (Dragon TV) สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเซี่ยงไฮ้ เผย (20 ก.ค.) เทปลับแอบถ่ายการผลิตสินค้าที่ไม่มีมาตรฐาน พร้อมสำทับว่า หูสี่นำเนื้อวัวและเนื้อไก่เก่าค้างสต็อกมาเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์และวันหมดอายุใหม่ ก่อนขายให้กับลูกค้า ซึ่งต่อมาตำรวจพบว่าเป็นบริษัทอาหารเกือบ 150 แห่ง
อย่างไรก็ดี ไม่มีการเปิดเผยรายชื่อบริษัทผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของหูสี่ออกมา แต่เหล่าร้านฟาสต์ฟู้ดและร้านสะดวกซื้อต่างชาติในจีนแผ่นดินใหญ่ ก็พากันแสดงตัวไม่ข้องเกี่ยวกับโรงงานแปรรูปอาหารเจ้าปัญหานี้ โดยทั้งปฏิเสธการใช้วัตถุดิบและเก็บสินค้าของหูสี่ออกจากชั้นวางขายหน้าร้านทั้งหมด
โยชิโนยา ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสัญชาติญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์ว่า หูสี่ไม่ใช่ซัพพายเออร์ของบริษัท ขณะที่เซเว่น อีเลฟเว่น กล่าวว่า “ไม่มีความร่วมมือโดยตรง” กับหูสี่ แต่ก็ได้ถอดสินค้าสองรายการออกจากหน้าร้านหลังพบว่ามันอาจมีส่วนผสมที่มาจากหูสี่
ปัญหาความไม่ปลอดภัยในอาหารการกินนับเป็นวิกฤตอ่อนไหวของแดนมังกร ยิ่งเฉพาะข่าวอื้อฉาวในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ที่เด็กทารก ผู้ป่วยโรงพยาบาล และบุคคลบางกลุ่มต้องสังเวยชีวิตหรือล้มป่วย เพราะบริโภคนมผง ยารักษาโรค และสินค้าที่ปนเปื้อนสารพิษหรือมีการปลอมแปลงวัตถุดิบการผลิต
โดย หลี่ เว่ยฮวา รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยฟรานซิสของมหาวิทยาลัยกฎหมายและการเมืองของจีน ตั้งข้อสงสัยว่าผลกระทบอาจกินระยะเวลายาวนานเท่าใด
“แบรนด์ยักษ์ใหญ่ต่างชาติเหล่านี้คงจะเริ่มแผนการเรียกคืนภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในตลาดจีน” หลี่กล่าว “แต่เวลาเดียวกันผู้บริโภคชาวจีนก็อาจลืมได้เร็ว เพราะแถวซื้ออาหารในแม็คฯ และเคเอฟซีบางสาขายังยาวเหยียดเหมือนเดิม”
เจียง หยวน ลูกค้ารายหนึ่งของร้านเคเอฟซีในเขตจ๋าเป่ย บอกว่า เขาไม่ค่อยรู้สึกกังวลอะไร
“ข่าวฉาวของวงการอาหารไม่ได้ทำให้ตกใจเพราะชักชาชิน ... ทั้งไม่ค่อยเชื่อมั่นพวกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาหาร และคิดว่าว่าร้านอาหารจำนวนมากก็ทำ ‘บางสิ่ง’ ซึ่งไม่มีการตรวจพบมาตลอดอยู่แล้ว”