เอเจนซี - สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งชาติจีน แสดงรายงานประจำปีต่อสภาผู้แทนประชาชน ระบุ ปีที่ผ่านมา (2556) มีการผลาญเงินรัฐซื้อไร่องุ่นทำไวน์ในฝรั่งเศส ถึง 14 ผืน รวมทั้งค่าใช้จ่ายหนีเที่ยวลาสเวกัสขณะดูงานเทคโนโลยีขุดเจาะก๊าซในแคนาดา และอื่นๆ อีกหลายรายการ เผยวิธีการทุจริต ยักยอกเงินหลวง ก็ซับซ้อนมากขึ้น หลังรัฐบาลเอาจริงกับการปราบคอรัปชั่น
รายงานประจำปี 2556 ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งชาติจีน (National Audit Office หรือ NAO) เผย บริษัทใหญ่ 2 แห่ง ในต้าเหลียน ผลาญเงินจำนวน 268 ล้านหยวน หรือ ราวๆ 1,340 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอนุมัติ เพื่อจัดซื้อเทคโนโลยีต่างประเทศ ไปเพื่อซื้อไร่องุ่น 14 ผืน ในฝรั่งเศสแทน โดยไห่ชางกรุ๊ป (Haichang Group) หนึ่งในสองบริษัทที่รายงานระบุถึง ถือเป็นเจ้าของไร่องุ่นรายใหญ่ที่สุดในบอร์กโดซ์ที่มีสัญชาติจีน มีไร่องุ่นมากกว่า 10 ผืน รวมทั้ง Chateau Chenu-Lafitte ด้วย สื่อฝรั่งเศส รายงาน
ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลุ่มนักลงทุนจีนเป็นผู้ซื้อกิจการไวน์ กลุ่มใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสกลุ่มหนึ่ง จนทำให้หน่วยสืบสวนการฟอกเงินของปารีสต้องออกมาตรวจสอบการซื้อขายกิจการเหล่านั้น
ในขณะที่รายงานประจำปีของสำนักงานตรวจเงินฯ ยังระบุว่า มีกรณีการทุจริตต้องสงสัย 314 กรณี ที่ละเมิดกฎหมายและวินัยพรรคอย่างรุนแรง ทำให้มีการเปิดโปงและย้ายผู้เกี่ยวข้องเพื่อเข้ารับการสอบสวนถึง 1,100 คน
นอกจากนี้ ยังมีกรณีเจ้าหน้าที่ด้านภูมิศาสตร์จีนใช้เงินท่องลาสเวกัสไปสามวัน ระหว่างการดูงานเทคโนโลยีขุดเจาะก๊าซธรรมชาติจากหินดินดานในอเมริกาเหนือ แต่เจ้าหน้าที่เหล่านั้นก็ยังยืนยันหน้าด้านๆว่าทำงานอยู่ในแคนาดา
ทั้งนี้ ในรายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า ในปี 2555 ที่ผ่านมา มีกรณีทุจริตทั้งหมด 175 กรณี หนึ่งในนั้นเป็นกรณีการดูงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ต้องไปตรวจเยี่ยมสถานีวิจัยจีนในแอนตาร์กติกา แต่กลับใช้เวลาเกือบครึ่งท่องฝรั่งเศสและชิลี
การจัดการทรัพย์สินของรัฐในทางที่ผิดมีอยู่ทั่วทุกหัวระแหง สำนักงานตรวจเงินฯ กล่าว อาทิ ในการตรวจสอบบริษัทคลังสำรองฝ้ายแห่งชาติ พบว่าทางบริษัทฯนำโกดังเก็บฝ้ายปล่อยเช่า และย้ายฝ้ายหลายล้านตันออกไปไว้ในที่โล่ง
นอกจากนี้ยังมี กรณีผู้บริหารบริษัท ปิโตรเลียมแห่งชาติจีน (China National Petroleum Corporation-CNPC)วิสาหกิจน้ำมันและก๊าซรายใหญ่สุดในแง่ปริมาณของแดนมังกร สมรู้ร่วมคิดกับบริษัทเอกชนเพื่อหาผลประโยชน์ใส่ตัว ทั้งด้านการจัดการและการขายทรัพย์สินของบริษัท เป็นเหตุให้รัฐสูญเสียประโยชน์มากมายมหาศาล
อนึ่ง นโยบายปราบปรามการทุจริตของจีนเข้มงวดมากขึ้น นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เข้าดำรงตำแหน่งในเดือน พ.ย. 2555 เป็นต้นมา โดยที่ผ่านมา รัฐบาลจีนดำเนินมาตรการเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับที่ทุจริต คอรัปชั่น แต่กลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ชี้ว่า รัฐบาลยังไม่ปฏิรูปเชิงระบบเพื่อป้องกันการทุจริตแต่อย่างใด อีกทั้ง หลังจากที่ทางการเอาจริงกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ วิธีการติดสินบนก็พัฒนา ลึกลับซับซ้อนมากขึ้น สำนักงานตรวจเงินฯ ระบุ ทั้งนี้ผู้กระทำผิดจะมีนายหน้ารับเงินใต้โต๊ะ หรือ แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในรูปแบบของหุ้น และไม่แลกเป็นเงินสดจนกว่าพวกเขาจะเกษียน
“บางคนจ่ายเงินที่ได้รับอย่างผิดกฎหมายไปกับงานสวัสดิการสังคมเพื่อสร้างภาพการเป็นคนดี หรือเพื่อประโยชน์ต่อสถานภาพทางการเมืองของตนเอง” สำนักงานตรวจเงินฯ กล่าว
รายงานประจำปี 2556 ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งชาติจีน (National Audit Office หรือ NAO) เผย บริษัทใหญ่ 2 แห่ง ในต้าเหลียน ผลาญเงินจำนวน 268 ล้านหยวน หรือ ราวๆ 1,340 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอนุมัติ เพื่อจัดซื้อเทคโนโลยีต่างประเทศ ไปเพื่อซื้อไร่องุ่น 14 ผืน ในฝรั่งเศสแทน โดยไห่ชางกรุ๊ป (Haichang Group) หนึ่งในสองบริษัทที่รายงานระบุถึง ถือเป็นเจ้าของไร่องุ่นรายใหญ่ที่สุดในบอร์กโดซ์ที่มีสัญชาติจีน มีไร่องุ่นมากกว่า 10 ผืน รวมทั้ง Chateau Chenu-Lafitte ด้วย สื่อฝรั่งเศส รายงาน
ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลุ่มนักลงทุนจีนเป็นผู้ซื้อกิจการไวน์ กลุ่มใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสกลุ่มหนึ่ง จนทำให้หน่วยสืบสวนการฟอกเงินของปารีสต้องออกมาตรวจสอบการซื้อขายกิจการเหล่านั้น
ในขณะที่รายงานประจำปีของสำนักงานตรวจเงินฯ ยังระบุว่า มีกรณีการทุจริตต้องสงสัย 314 กรณี ที่ละเมิดกฎหมายและวินัยพรรคอย่างรุนแรง ทำให้มีการเปิดโปงและย้ายผู้เกี่ยวข้องเพื่อเข้ารับการสอบสวนถึง 1,100 คน
นอกจากนี้ ยังมีกรณีเจ้าหน้าที่ด้านภูมิศาสตร์จีนใช้เงินท่องลาสเวกัสไปสามวัน ระหว่างการดูงานเทคโนโลยีขุดเจาะก๊าซธรรมชาติจากหินดินดานในอเมริกาเหนือ แต่เจ้าหน้าที่เหล่านั้นก็ยังยืนยันหน้าด้านๆว่าทำงานอยู่ในแคนาดา
ทั้งนี้ ในรายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า ในปี 2555 ที่ผ่านมา มีกรณีทุจริตทั้งหมด 175 กรณี หนึ่งในนั้นเป็นกรณีการดูงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ต้องไปตรวจเยี่ยมสถานีวิจัยจีนในแอนตาร์กติกา แต่กลับใช้เวลาเกือบครึ่งท่องฝรั่งเศสและชิลี
การจัดการทรัพย์สินของรัฐในทางที่ผิดมีอยู่ทั่วทุกหัวระแหง สำนักงานตรวจเงินฯ กล่าว อาทิ ในการตรวจสอบบริษัทคลังสำรองฝ้ายแห่งชาติ พบว่าทางบริษัทฯนำโกดังเก็บฝ้ายปล่อยเช่า และย้ายฝ้ายหลายล้านตันออกไปไว้ในที่โล่ง
นอกจากนี้ยังมี กรณีผู้บริหารบริษัท ปิโตรเลียมแห่งชาติจีน (China National Petroleum Corporation-CNPC)วิสาหกิจน้ำมันและก๊าซรายใหญ่สุดในแง่ปริมาณของแดนมังกร สมรู้ร่วมคิดกับบริษัทเอกชนเพื่อหาผลประโยชน์ใส่ตัว ทั้งด้านการจัดการและการขายทรัพย์สินของบริษัท เป็นเหตุให้รัฐสูญเสียประโยชน์มากมายมหาศาล
อนึ่ง นโยบายปราบปรามการทุจริตของจีนเข้มงวดมากขึ้น นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เข้าดำรงตำแหน่งในเดือน พ.ย. 2555 เป็นต้นมา โดยที่ผ่านมา รัฐบาลจีนดำเนินมาตรการเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับที่ทุจริต คอรัปชั่น แต่กลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ชี้ว่า รัฐบาลยังไม่ปฏิรูปเชิงระบบเพื่อป้องกันการทุจริตแต่อย่างใด อีกทั้ง หลังจากที่ทางการเอาจริงกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ วิธีการติดสินบนก็พัฒนา ลึกลับซับซ้อนมากขึ้น สำนักงานตรวจเงินฯ ระบุ ทั้งนี้ผู้กระทำผิดจะมีนายหน้ารับเงินใต้โต๊ะ หรือ แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในรูปแบบของหุ้น และไม่แลกเป็นเงินสดจนกว่าพวกเขาจะเกษียน
“บางคนจ่ายเงินที่ได้รับอย่างผิดกฎหมายไปกับงานสวัสดิการสังคมเพื่อสร้างภาพการเป็นคนดี หรือเพื่อประโยชน์ต่อสถานภาพทางการเมืองของตนเอง” สำนักงานตรวจเงินฯ กล่าว